แน็ต : สวัสดีค่ะ แน็ตจากเพจคนใจหมา วันนี้อยู่กับช่วงคุยกับคนใจหมา เรามากับปัญหาน้องหมากัดกันเวลากินข้าว ประมาณนั้นไหม คุณเชอร์รี่
เชอร์รี่ : ใช่ค่ะ
แน็ต : มีเวลาให้ 15 นาที เล่ามาเลยค่ะว่าปัญหามันคืออะไร
เชอร์รี่ : ค่ะ คือปัญหามันคือ ถ้าตอนเด็กๆก็กินด้วยกันได้ แต่พอตอนโตมาปุ๊บ มันมีกัดกันก่อน แต่เราไม่รู้สาเหตุว่ามันคืออะไร แต่พอมาสังเกตดูก็คือการที่ว่าแย่งของกินหรือแย่งของเล่น อะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยต้องแยกกันเพื่อจะกินข้าว แต่มันก็จะมีบางครั้งที่มาเล่นด้วยกันแล้วก็ไปแย่งของเล่นกัน หรือว่าไปขุดเจออะไรที่มันน่ากินอย่างนี้ มันก็จะแบบกัดกันเพื่อที่จะแย่งของกิน บางทีก็ขู่กัน พอเราเห็นว่าขู่กันก่อนเราก็ได้เข้าไปแยก แต่บางทีเราไม่เห็นมันก็จะกัดกันเลยค่ะ แล้วมันมีครั้งล่าสุดคือ ไม่รู้ว่ากัดกันเพราะอะไร แต่ว่าข้างบ้านเขามาบอกว่ามันกัดกัน เขาพยายามจะเอาเอาน้ำฉีดห้าม เราก็เลยบอกเขาว่า ไม่ต้องค่ะ ให้มันกัดกันไปเลย
แน็ต : น้อยมากเลยนะที่เจอเจ้าของใจแข็งให้ยอมแบบนี้ได้
เชอร์รี่ : แต่มันก็กัดกันจนมันเหนื่อยนะคะ แต่มันก็ไม่ยอมกัน
แน็ต : ไม่มีใครยอมใครเลยหรอ
เชอร์รี่ : ใช่ ไม่ยอมค่ะ จนกลายเป็นความระแวงว่า อีกตัวจะมากัดเราหรือเปล่า ถ้าสมมติเรากอดไอ้ตัวผอมอยู่นะคะ แล้วไอ้ตัวอ้วนเดินเข้ามา ไอ้ตัวผอมจะขู่เพื่อที่จะกัดกันเลยค่ะ แบบเวลาเหมือนเราจะแคะขี้ตาหมา ถ้ามันหลับตาปุ๊บ แล้วมันรู้สึกไม่ปลอดภัย เหมือนตัวอ้วนมาอยู่ข้างๆ มันก็จะขู่เลยค่ะ มันเหมือนมีการระเแวงที่ว่ากลัวว่าจะกัดกัน เพราะว่าไอ้ตัวอ้วนมันตะกละค่ะ แล้วตัวผอมจะถูกแย่งตลอด
แน็ต : ก็เลยระแวงกับทุกสิ่งอย่างไปเลย
เชอร์รี่ : ใช่ ตัวผอมกลายเป็นว่าระแวง แต่กับเจ้าของไม่เป็นอะไร
แน็ต : ก็คือตัวผอมขี้ระแวง ไอ้ตัวอ้วนก็ตะกละเกิน นิสัยไม่ดีว่างั้นเถอะ
เชอร์รี่ : ใช่ ตัวอ้วนมันเหมือนคนล่อกแล่กอ่ะค่ะ เขาจะเป็นแบบชอบไปแย่งของกิน ชอบไปแย่งของอะไรที่เขาชอบ
แน็ต : อันนี้อายุเท่าไรแล้วคะหมา?
เชอร์รี่ : ประมาณขวบสี่เดือนค่ะ
แน็ต : ขวบสี่เดือน เป็นพี่น้องตามกันมาเลยใช่ไหม
เชอร์รี่ : ใช่ เป็นพี่น้องกันแต่ว่าทำหมันเรียบร้อยแล้วค่ะ
แน็ต : โอเค มันเป็นเรื่องปกติที่ว่าหมาแย่งอาหารกัน คนส่วนใหญ่จะชอบแบบมันเป็นพี่น้องกันมันไม่กัดกันหรอก เราก็จะบอกว่าไม่จริงหรอก เพราะพี่น้องกันน่ะ ในความคิดของหมา หมามันก็คือหมา ทำไมล่ะ เวลาหมามันอยู่ในฝูง พอแม่หมาคลอดลูกออกมา มีตัวหนึ่งเป็นตัวผู้ ตัวผู้โตขึ้นมาถึงวัยผสมพันธุ์ มันก็ไปผสมพันธุ์กับแม่มันเอง เพราะเขาไม่รู้หรอกว่า ไอ้นี่แม่ฉันมันไม่ควรนะเว้ย หรือว่าไอ้นี่เป็นพี่ฉันไม่ควรกัดกันนะเว้ย คือหมาเขาไม่รู้ ทีนี้เนี่ยมันก็เป็นเรื่องปกติที่หมาที่เลี้ยงด้วยกันมา เวลาตัวหนึ่งกินอาหารเสร็จปุ๊บ อีกตัวจะเริ่มไปแย่งอาหาร กิน เพราะเขาก็ไม่รู้นี่นา มื้อนี่อาจจะเป็นมื้อสุดท้ายของเขาก็ได้ คือพรุ่งนี้อาจจะไม่มีข้าวกินก็ได้ มันเป็นสัญชาติญาณของสัตว์ที่มันมีเอง เราไปห้ามเขาไม่ได้ คือตอนนี้เนี่ย ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นปัญหาวงกลมละ คือตัวหนึ่งตะกละ อีกตัวระแวง มันก็ feed กันไปอย่างนี้ พี่ก็แนะนำให้แก้ปัญหาที่เริ่มก่อนนั่นก็คือเรื่องอาหาร ตอนนี้ไม่ต้องแยกให้กินละ ให้กินรวมกัน แต่ให้ใส่สายจูงไว้นะ เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้กระตุกมันทัน อาจจะให้รอในกรงก่อนก็ได้ เพื่อความปลอดภัย step แรก อาจจะแบบไอ้อ้วนอยู่กรงหนึ่ง ไอ้ผอมอยู่กรงหนึ่ง อยู่กรงข้างๆกัน แล้วเราเอาอาหารวางไว้ข้างหน้ากรง โดยที่หมาห้ามมากิน ถ้าเราบอกให้คุณนั่งรอคุณก็ต้องนั่งรอ แน็ตไม่แน่ใจ เคยเห็นวิดีโอบนเพจแน็ตไหม? ที่ว่าเกี่ยวกับเวลาเราให้อาหารหมา
เชอร์รี่ : ถ้าดูเป็นภาพยังไม่เคยดู แต่อย่างที่พี่แน็ตให้คำปรึกษาคนหนึ่งเรื่องการแย่งอาหารเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ดูเป็นภาพวิดีโอ
แน็ต : อ๋อ ไปลองค้นดูหน้าเพจนะ พี่มีประมาณสองวิดีโอมั้ง ที่แบบว่าเวลาเราให้อาหารหมา นั่นคืออะไร ทุกคนต้องนั่งรอ ถ้าเราเรียกแล้วค่อยออกมา พอเป็นแบบนั้นแล้วเราก็เรียกไอ้ตัวผอมออกมากินก่อน พอตัวผอมออกมาอาจจะไม่กิน เพราะเขากลัว และเขาระแวงไอ้ตัวข้างหลัง ไอ้อ้วน เราก็ไม่ต้องห่วง เราก็ปล่อยมันไป ไอ้อ้วนก็ต้องนั่งรออยู่ในกรงจนกว่าไอ้ผอมจะกลิ่นเสร็จ
เชอร์รี่ : ถ้าอยู่ในกรงเราก็เหมือนต้องผูกไอ้อ้วนไว้ใช่ไหมคะ
แน็ต : จะผูกไว้ก็ได้ แต่คือยังไงก็ได้ตราบใดที่เขาไม่ออก แต่ที่พี่อยากให้ทำเลยคืออยากให้ไอ้อ้วยพยายามก้าวออกมา แล้วเราจะได้แบบว่า ไม่ กลับเข้าไปในกรงใหม่
เชอร์รี่ : อืม โอเค
แน็ต : เพราะมันจะเป็นเราละ ที่บอกให้หมาทำ แต่ถ้าเราล่ามเอาไว้แบบนี้ มันไม่ใช่เราที่บอก แต่มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ที่ล็อคหมาไว้ไม่ให้มันไป นั่นคือล็อกได้แต่ตัว แต่หัวเขาไปแล้ว แล้วมันจะเริ่มขู่เริ่มเห่า แล้วไอ้ตัวผอมจะยิ่งไม่กล้ากิน
เชอร์รี่ : ค่ะ นึกออก
แน็ต : อาหารที่ให้ควรจะเป็นอาหารที่กลิ่นแรงๆ เพราะเราต้องเอากลิ่นมาเป็นตัวกระตุ้นให้ตัวผอมข้ามผ่านความกลัวของตัวเองไปเพื่อที่จะได้กิน
เชอร์รี่ : เช่นตับย่างเองอย่างนี้ได้ไหมคะ
แน็ต : ได้ๆ ถ้าให้พี่แนะนำนะ ก่อนที่น้องจะทำ excercise นี้ งดข้าวทั้งสองตัวเลยนะ หรืองดข้าวไอ้ตัวผอมอย่างเดียวก็ได้สักวันหนึ่ง เพราะเขาหิวมากเลย บวกกับอาหารอยู่ตรงหน้า กลัวก็กลัวนะ แต่ก็หิว กลิ่นก็น่ากิน สุดท้ายเราต้องการกลิ่นอาหารนี้บวกกับความหิวของมัน ทำให้มันข้ามผ่านความกลัวไอ้อ้วน เพื่อที่จะกิน
เชอร์รี่ : ค่ะ
แน็ต : ทีนี้ excercise คืออะไร ไอ้ผอมต้องข้ามผ่านความกลัวเพราะต้องกิน เราให้คุณกินก่อนเพราะคุณเป็นตัวที่อ่อนแอ เรากำลังดึงอำนาจไอ้อ้วนละ เพราะไอ้อ้วนคิดว่ามันเก๋านี่ มันคิดว่าจะขโมยของใครก็ได้ อะไรประมาณนี้ พอผอมกินเสร็จปุ๊บ เอาผอมกลับเข้ากรง โดยที่ประตูเปิดไว้เนาะ โดยใช้อารมณ์เดียวกันก็คือถ้าผอมพยายามก้าวออกมาเราก็ไล่ผอมกลับเข้าไปใหม่ เพื่อให้เขารู้ว่าการกินข้าวทั้งหมดเนี่ยเป็นเรานะที่เป็นคนคุม ฉันบอกเองว่าใครออกมา ฉันเป็นคนบอกเองว่าใครกิน ถ้าฉันไม่ให้กินคุณไม่มีสิทธิ์กิน
เชอร์รี่ : ค่ะ
แน็ต : พอผอมกินเสร็จ ผอมเข้ากรงไป ทีนี้เอาอาหารวางใหม่ เรียกไอ้อ้วนออกมา ทีนี้เนี่ยไอ้อ้วนออกมาเนี่ยอย่าเพิ่งให้มันกินเลย ให้มันนั่งรอก่อน ตอนนี้เรากำลังฝึกการควบคุมของหมาละ ถ้าหมานั่งรอได้ มันจะทำให้เราดูมีความเป็นจ่าฝูงมากขึ้น มันยากนะช่วงแรกๆถ้าจะให้สอนพวกนี้ ถึงได้บอกให้ใส่สายจูง เพราะถ้าเราต้องกระตุกให้มันออกเราก็ต้องกระตุก ให้เขารู้ว่าอาหารนี่เป็นของฉัน ฉันเรียกให้คุณออกมา ฉันไม่ได้บอกให้คุณกินนะ หมาจะต้องเรียนรู้ที่จะต้องรอต้องคอยละ และในสัญชาติญาณของหมาคืออะไร เฮ้ย เราไม่มีอำนาจแล้วนี่หว่า เพราะไอ้เจ๊นี่ดึงอำนาจไปหมดเลย เพราะในวงหมาด้วยกันเอง ตัวที่อ่อนแอกว่าจะไม่มีสิทธิ์กินก่อน
เชอร์รี่ : ใช่ๆเพราะมันไม่เคยได้กินก่อนเลย มันจะให้ตัวอ้วนกินก่อน แล้วประมาณหนึ่งนาทีมันถึงจะกินตาม
แน็ต : ใช่ นั่นแหละ เพราะฉะนั้นอย่าทำแบบนั้น คือเราต้องเปลี่ยนละ คือต่อไปนี้ไอ้อ้วนหยุดเลย ให้ไอ้ตัวผอมกินก่อน แต่จำไว้ว่ามันอาจจะรอครึ่งชั่วโมงซ้ำกว่ามันจะกิน เพราะมันกลัว เพราะฉะนั้นคุณต้องหาเวลาเยอะๆเพื่อมาทำ excercise นี้ อย่าทำก่อนไปทำงานเพราะเราไม่รู้ว่าหมาจะเริ่มกินเมื่อไร
เชอร์รี่ : ใช่ค่ะ
แน็ต : ถ้าจะให้ทำก็คืออะไร ให้กินมื้อเดียวก็ได้ ให้กินมื้อเย็นมื้อเดียว
เชอร์รี่ : ตอนเช้าเราก็ไม่ต้องให้เลย
แน็ต : ใช่ แต่เราก็ให้เบิ้ล ให้มันพอเหมาะกับสภาพร่างกายหมาที่มันควรจะกินในแต่ละวันน่ะ แต่ให้กินเป็นมื้อเดียว เป็นมื้อเดียว อย่างโอเค เรากลับมาแล้ว โอเค พร้อม ใจพร้อม กายพร้อม แล้วเราจะได้ใช้เวลาตรงนั้น เพราะถ้าต้องรอ 10 นาทีให้ไอ้ผอมกินข้าวก็ต้องรอ 10 นาที 15 นาที ครึ่งชั่วโมงก็ต้องรอ แต่เราต้องสร้างบรรยายกาศให้ไอ้ผอมรู้ว่าไม่ต้องกลัวไอ้อ้วน เดี๋ยวแม่ปกป้องเอง ส่วนไอ้อ้วนก็ต้องอย่ามาเก๋า กลับเข้าหลุมไปเลย ยังไม่ให้ออกมา ห้ามออกมา
เชอร์รี่ : ค่ะ
แน็ต : ถ้าเราทำแบบนี้ได้เนี่ย ได้ทุกมื้อนะ สักหนึ่งถึงสองอาทิตย์จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ไอ้ตัวผอมจะกล้ามากขึ้น แล้วเวลาเราไม่อยู่ในบ้าน หมาจะกัดกันน้อยลง เพราะเขาเริ่มลดความระแวงกันและกัน ทีนี้เวลาเล่นของเล่น สมมติเรานั่งอยู่ตรงกลางเนาะ เราเล่นๆๆกับหมาสองตัว เอาละ ตัวหนึ่งเริ่มขู่อีกตัวหนึ่งละ เราต้องดุไอ้ตัวที่ขู่ทันที ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แล้วของเล่นในมือเราให้ไอ้ตัวที่ไม่ขู่ เพราะเขาขู่เพราะเขากำลังจะบอกว่าอันนี้ของฉันนะเว้ย อย่าเข้ามานะเว้ย เราในฐานะคนตรงกลาง ในฐานะที่คุมทุกอย่างตรงนี้ เราก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ นี่ไม่ใช่ของแก งี่เง่านักก็ไม่ต้องเล่น แล้วเราก็ยื่นของเล่นให้อีกตัวหน่ึง ให้มันเห็นกันตรงหน้าเลย ให้ไอ้ตัวที่ขู่ตอนแรกงงเลยว่า อ้าว อะไรกันนี่ นี่ฉันไม่มีอำนาจนี่หว่า อีเจ๊นี่หยิบของเล่นแจกจ่ายเองเลย อะไรประมาณนี้ ของที่บ้านพี่มันก็กัดเหมือนกันเรื่องอาหาร กลายเป็นตัวหนึ่งกลัวไปเลย กลัวฉิบหายวายวอดเลย ไอ้ตัวที่กัดเวลาเดินผ่านจะทำตัวกลมๆแล้วก็จะขู่ใส่ เนี่ยแหละจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้อีกตัวเข้ามากัดเขา พอเราเห็นพฤติกรรมอย่างนี้ปุ๊บ เราต้องทำเสียงให้ไอ้ตัวขี้กลัวหยุดทันที นึกออกไหม
เชอร์รี่ : ค่ะ
แน็ต : แต่อันนี้คือต้องไวนะ ต้องไวมากเลย เพราะเราต้องดูแล้วถ้าเกิดนั่งอยู่ในบ้านด้วยกัน สมมติตัวผอมนอนอยู่ ตัวอ้วนเดินขึ้นมา ไอ้ตัวผอมหันไปมองหน้า แล้วเริ่มทำตัวกลมๆ หูลู่ๆ เริ่มขู่เริ่มยิงฟันงี้ เราต้องหยุดไอ้ผอมทันที ดุแบบ ไม่ หยุด ถ้าใส่สายจูงอยู่กระตุกสายจูงได้เลย ให้เขาเรียนรู้ว่าพฤติกรรมนี้ไม่โอเค เพราะสิ่งที่คุณทำคุณจะไปกระตุ้นอีกตัวหนึ่งให้มางาบคุณ
เชอร์รี่ : อืม
แน็ต : ในอีกรณีหนึ่งก็คือ ไอ้ตัวผอมนั่งอยู่ ไอ้ตัวอ้วนเดินมา อยู่ดีๆตัวอ้วนเดินมาแบบ อธิบายไม่ถูก แต่ถ้าเห็นภาพจะเห็นเลยว่าอกมันจะฟู หูมันจะขึ้นเลย ให้รู้ว่าฉันกำลังข่มแกอยู่นะ ถ้าเห็นพฤติกรรมนี้ปุ๊บ ด่าไอ้อ้วนได้เลย เพราะอ้วนก็ไม่มีสิทธิ์ข่ม ใช้เวลาประมาณเดือนถึงสองเดือน ที่พี่ทำเนี่ยคือเดือนหนึ่ง แล้วหมาเล่นกันได้ปกติแล้วไม่มีปัญหา
เชอร์รี่ : ค่ะ มันจะรวมถึงการที่แบบว่าเราเล่นกับมัน สมมติเราเล่นกับไอ้อ้วน แล้วไอ้อ้วนมันคึกมาเลยค่ะ แล้วทีนี้ไอ้ผอมเดินมา อยู่ๆไอ้ผอมเดินมาขู่ อย่างนี้มันคือพฤติกรรมที่มันระแวงกันด้วยไหมคะ?
แน็ต : คือพี่ไม่อยู่ตรงนั้นเองพี่ก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าบางทีไอ้อ้วนคึกน่ะ แล้วไอ้ผอมเลยมาขู่ เพื่อที่จะบอกไอ้อ้วนว่าใจเย็น เพราะว่าสภาวะอารมณ์ที่ปกติในฝูงหมามันคือสงบ ตื่นเต้น ขี้กลัว ดุร้าย อะไรพวกนี้ มันเป็นสภาวะอารมณ์ที่ไม่สมดุล หมาในฝูงก็จะเข้ามาฉก หรือจะเข้ามางาบหรือมากัดเพื่อที่จะบอกให้ไอ้ตัวที่อารมณ์ไม่สมดุลกลับมาสมดุล ซึ่งบางทีก็แค่ฉกแล้วจบไป บางตัวกัดกันเลย ถ้าอย่างให้ไอ้ผอมมาจัดการเนี่ย ซึ่งเขาก็ไม่รู้วิธีจะจัดการ มันก็จะกลายเป็นทะเลาะกัน เพราะฉะนั้นมันต้องเป็นหน้าที่เรา ที่อยู่ตรงกลาง ที่เป็นจ่าฝูงเนี่ย ว่าให้ใจเย็นเว้ย ถ้าเริ่มคึกเริ่มอะไรมากเกินไปแล้วก็ไม่ต้องเล่นเลย อันนี้คือเราต้องอาศัยสัญชาติญาณตัวเอง ว่าเมื่อไรที่เรามีความรู้สึกว่าหมาเราเริ่มคึกเกินไป เมื่อนั้นเลิกเล่น คุณสงบเราค่อยเล่นต่อ
เชอร์รี่ : ค่ะ
แน็ต : แต่ถ้าแบบมันเริ่มกระโจนใส่ เริ่มตะกายนู่นนี่นั่นอะไรอย่างนี้ ผลักก็ได้ ฉกก็ได้ เพื่อให้เขาหลุดจากภวังค์ตรงนั้น เพราะถ้าเราไม่ทำนะ ไอ้ผอมจะเป็นคนมาจัดการแทน ซึ่งเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อทำหน้าที่พวกนี้ เราต้องสร้างสมดุลของฝูงใหม่อีกรอบหนึ่ง
เชอร์รี่ : แล้วมันจะมีช่วงหนึ่งที่มันเล่นกันได้น่ะค่ะ คือมันเป็นเหมือนสามวันดี สี่วันไข้ ที่มันจะเล่นกันได้แล้วมันก็กัดกัน ถ้าช่วงที่มันเล่นกันได้คือถ้ามันเล่นเสียงดัง รี่จะบอกว่าไม่ ให้มันไม่เสียงดัง แบบนี้คือถูกไหมคะ? คือถาจะเล่นกันต้องห้ามเล่นเสียงดัง แบบนี้คือใช่หรือเปล่า?
แน็ต : จะอธิบายอย่างไรดี คือเข้าใจคำถามนะ เพราะหมาที่บ้านพี่ 5 ตัวอย่างนี้ บางทีมันเล่นกัน แรกๆเราก็ไม่แน่ใจว่านี่กำลังเล่นกันหรือกำลังกัดกันวะ? แต่คือมันเล่นกัน พี่จะใช้สังเกตคือ ถ้ามันเล่นกันแล้วตัวหนึ่งตั้งท่าเหมือนจะกัดน่ะ แล้วไอ้ตัวที่เหมือนจะโดนกัด ถ้ามันย้อนกลับมาหาใหม่ แทนที่มันจะวิ่งหนีไป แต่มันกลับวิ่งหนีไปแต่ย้อนกลับมาใหม่ อันนี้คือเล่น
เชอร์รี่ : อ๋อ โอเค
แน็ต : แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราอาศัยสัญชาติญาณของตัวเอง ถ้าเราเห็นหมาเล่นกันแล้วเรามีความรู้สึกว่าเล่นแรงเกินไปแล้ว เราก็ต้องเข้าไปหยุด จะใช้คำว่าไม่หรืออะไรก็ได้ หมามันฟังไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว จะพูดคำว่าส้มโอก็ได้ ตราบใดที่ body language ของเรา พลังงานของเราบอกให้เขารู้ว่า ไม่ หยุดเดี๋ยวนี้ เล่นดีๆไม่ได้ไม่ต้องเล่น แยกมุมไปเลย นึกออกไหม ถ้ามันตั้งท่าจะหันกลับมาเล่นอีกรอบหนึ่ง จะหันกลับมาใส่อีกรอบหนึ่ง คือเราต้องไป step เข้ากลางวงเลย
เชอร์รี่ : อืม ค่ะ
แน็ต : ลองนึกสภาพดูถ้าแบบว่าเป็นเด็กสองคนเล่นกัน แล้วมันเล่นๆกันอยู่ดีๆ อีกคนหนึ่งผลักอีกคนหนึ่ง ผลักกันไปมาแล้วต่อยกันเฉย
เชอร์รี่ : ใช่ๆ กลัวว่าจะเป็นแบบนั้น
แน็ต : ใช่ๆ มันเป็นแบบนี้แหละ คือมันเป็นเรื่อปกติ มนุษย์ยังเป็นเลย ทำไมสัตว์จะไม่เป็น คือเล่นกัน แต่พอตัวหนึ่งเล่นแรง ตัวหนึ่งไม่ยอม ก็กัดกัน เพราะฉะนั้นถ้าเราดูแล้วเรามีความรู้สึกว่ามันจะเล่นแรงเกินไปแล้ว เราเริ่มไม่ไว้ใจแล้ว เราก็สั่งเขาหยุดเท่านั้นเอง
เชอร์รี่ : จริงๆคือเวลามันกัดกันน่ะค่ะ คือไม่แน่ใจควรต้องไปแยกมันออกมาหรือควรที่จะปล่อย แต่ก็คิดในใจว่าปล่อยดีกว่า ถ้ามันเหนื่อยมันก็คงหยุดเอง แต่ทีนี้คือตัวมันใหญ่แล้วเสียงมันดังมาก แล้วคนแถวบ้านเขาก็จะตกใจว่า โอ้ย หมากัดกันๆ อย่างนี้ค่ะ ก็จะมีคนมามุงเต็มหน้าบ้าน กับเจ้าของบ้านที่ยืนดูเฉยๆ ก็เลยควรที่จะทำอย่างไรดีคะถ้ามันกัดกัน หรือก็ยืนดูให้มันกัดอย่างนั้น
แน็ต : ถ้ารเาใจแข็งพอนะ ก็ให้มันกัดไป ให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลย ตัวไหนแพ้ตัวไหนชนะ แล้วไอ้ตัวแพ้จะไม่แหยมไอ้ตัวชนะอีกต่อไป
เชอร์รี่ : ใช่ เพราะครั้งล่าสุดไอ้ตัวผอมมันแพ้เพราะมันโดนกัดที่ขาค่ะ แล้วมันเจ็บมากเลย กลายเป็นว่ามันก็เลยระแวง
แน็ต : ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเขาไม่ยอมไง แสดงว่าการสู้ครั้งนั้นยังไม่รู้ผลว่าใครแพ้ใครชนะ
เชอร์รี่ : อ๋อ
แน็ต : เพราะถ้ารู้ผลปุ๊บ ไอ้ตัวที่อ่อนแอ ไอ้ตัวผู้แพ้เนี่ย เวลากินข้าวอยู่ ไอ้ตัวที่ชนะเดินมามันจะปล่อยทันทีเลย แล้วเขาจะปล่อยโดยดี โดยที่ไม่หือไม่อือไม่มีการขู่เลย ถ้าเล่นๆกับเราอยู่แล้วไอ้ตัวที่ชนะเดินมา มันก็คือเหมือนจ่าฝูงเดินเข้ามา ไอ้ตัวนี้ก็จะถอยของเขาไปเอง เขาจะไม่ขู่ อันนี้คือแพ้ ชนะ จบ แต่เท่าที่ฟังมาเหมือนไม่จบเพราะยังขู่กันต่อ
เชอร์รี่ : ใช่ เหมือนไม่จบ
แน็ต : เรพาะฉะนั้นมันอาจไม่จบเลยก็ได้ มันก็เป็นไปได้เหมือนกัน คือเราก็ไม่อยากเสี่ยงเพราะเราก็ไม่อยากให้หมาตาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าหมามันกัดกันอย่างนี้ เราเอาน้ำราด เราเอาน้ำสาด หรือพยายามแยกออก ถ้าเวลาแยกออกอย่าดึงออกข้างเนาะ ให้ยกขึ้น เพราะถ้าดึงออกข้างมันเหมือนตัวมันไปแต่ใจมันอยู่ มันจะยังอยู่ท่าที่พร้อมพุ่ง แต่ถ้าเรายกขึ้น หมาก็จะเริ่ม อ้าว หายใจไม่ออก แล้วมันก็จะกลับมาโฟกัสที่ว่าทำไมถึงหายใจไม่ออก แล้วเขาก็จะลืมหมาอีกตัว
เชอร์รี่ : ยกตรงปลอกคอใช่ไหมคะ
แน็ต : ใช่ ถ้าไม่มีปลอกคอนะ ยกตรงหลังคอขึ้นมาเลยก็ได้ หรือถ้ามีใส่ปลอกคอหรือโซ่กระตุกอยู่ก็เกี่ยวขึ้นมาเลย เราจะต้องการให้เขาไปสนใจอย่างอื่นละ เพราะหมามันโฟกัสได้อย่างเดียว เพราะมัน multitasking ไม่ได้ ฉะนั้นถ้าเขาสู้กันอยู่ สิ่งที่เขาโฟกัสคืออะไร หมาอีกตัวหนึ่ง ทีนี้ถ้าเกิดเรารัดคอขึ้นปุ๊บ หมาหายใจไม่ออก หมาปล่อย ในกรณีที่มันกัดกันอยู่นะ แบบเฮ้ย เกิดอะไรขึ้น หายใจไม่ออก แล้วก็จะลืมหมาอีกตัวหนึ่งไปเลย พอเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเนี่ย สิ่งที่พี่จะแนะนำ แต่ก็ค่อนข้างจะยากอยู่ ก็คือให้กดลงพื้นทั้งคู่เลย
เชอร์รี่ : ให้ยอมหรอกคะ
แน็ต : ใช่ ให้ surrender กันทั้งคู่เลย ให้แบบว่า ถ้าเล่นกันดีๆไม่ได้ไม่ต้องเล่น มันเป็นเหมือนการบังคับหมาให้ขอโทษกันและกัน ถ้าใช้ภาษามนุษย์นะ แต่นี่เราเป็นเหมือนกำลังกดให้ลง ถ้าหมาตัวใหญ่กดคนเดียวไม่ไหว ก็ต้องใช้สองคน คนละตัวไปเลย นั่นคืออะไร แขน มือเรากดที่คอ เข่ากดลงที่ท้อง กดเอาไว้ไม่ให้เขาดิ้น แต่ต้องกดให้ลงนะ ถ้าใจเราไม่กล้าปุ๊บหมามันซัดเราทันทีเลยนะ ทีนี้เรากดแล้วปล่อยก็ต่อเมื่อหมาผ่อนคลาย หมาผ่อนคลายคืออะไร เราจะเห็นเลยว่าร่างกายเขาจะ soft ลง ปากอ้า หายใจปกติ ตาจะ soft ลง อันนี้คือผ่อนคลาย บางตัวใช้เวลา 5 นาที บางตัว 10 นาที บางตัวครึ่งชั่วโมง อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราน่ะ แรงเราจากข้างในบอกให้เขารู้ได้เยอะขนาดไหนว่าไม่ให้สู้กันแล้ว
เชอร์รี่ : คือทำข้างๆกันเลยใช่ไหมคะ
แน็ต : ใช่ ประกบข้างๆกันเลย เพื่อที่เราจะบอกไอ้ตัวที่อ่อนแอว่า เนี่ย ฉันก็ข่มไอ้ตัวที่แข็งแรงได้นะ เราในฐานะมนุษย์เนี่ย ส่วนไอ้ตัวแข็งแรงก็คืออะไร เฮ้ย แก แบบนี้ไม่ได้ คุณไม่ได้มีหน้าที่จัดการเรื่องตรงนี้
เชอร์รี่ : ค่ะ คิดว่าเดี๋ยวไปลองทำเรื่องอาหารน่าจะทำให้อะไรดีขึ้นมากกว่านี้
แน็ต : ใช่ๆ แต่พี่ก็แนะนำให้ยังคาดหวังว่าหมาจะยังกัดกันอยู่ นั่นคือเราต้องมีอุปกรณ์ละถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเราจัดการกันได้
เชอร์รี่ : ได้ค่ะ
แน็ต : ของพี่ คือพี่ใส่ปลอกคอไฟฟ้า เพราะถ้าเกิดตัวหนึ่งมันเริ่มพุ่งไปหาอีกตัวหนึ่งอย่างนี้ เราพูดเราเรียกเขาจะไม่ได้ยินแล้ว เขาจะหูบอดตาบอด เพราะเขาจะมัวแต่โฟกัสหมาอีกตัวหนึ่งอยู่ พี่กดปลอกคอเลยให้มันสั่น ให้มันตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมปลอกคอสั่นวะ พอมันตกใจปุ๊บ หมาจะลืมไปแล้วว่าเมื่อกี๊โฟกัสอะไรอยู่
เชอร์รี่ : อืม ค่ะ
แน็ต : เราก็เปิดโอกาสให้ไอ้ตัวที่จะโดนง่ำน่ะ หนีไปได้ อะไรประมาณนี้
เชอร์รี่ : ได้ค่ะ เดี๋ยวจะลองหัดเรื่องกินข้าวดูก่อน
แน็ต : ค่ะ เอาให้ได้นะ หมาต้องยอม โอเคนะคะ มีปัญหาอย่างอื่นอีกไหม
เชอร์รี่ : ยังไม่มีค่ะ เดี๋ยวลองไปทำดูก่อน
แน็ต : แก้เรื่องนี้ก่อนเนาะ โอเค ขบอคุณมากนะคะ