แน็ต : สวัสดีค่ะ แน็ตจากเพจคนใจหมา วันนี้อยู่ช่วงคุยกับคนใจหมา เรามากับปัญหาน้องหมาลากสายจูง แล้วก็น้องหมากลัวโรงพยาบาล คุณโจ้ มีเวลาให้ 15 นาที เล่ามาเกริ่นๆเลยค่ะว่ามันเป็นปัญหาอย่างไรบ้าง
โจ้ : ครับคือน้องอาลัวกับน้องวัวนมนะครับ คือตอนเด็กๆเนี่ยเขาชอบอยู่ในบ้าน คือผมให้เขาอยู่ในบ้าน เขาก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ทีนี้พอโตแล้วปุ๊บเขาก็จะตื่นเต้นมากเวลาได้ออกนอกบ้าน เขาชอบไปดมกลิ่นอะไรต่างๆข้างนอกบ้าน ชอบดู ชอบไปไล่แมว ทีนี้พอเวลาเขาออกเขาก็จะตื่นเต้นมากเลย เขาจะชอบดึงสาย คือถ้าอยากไปนู่นไปนี่ก็จะดึงเยอะเลย น้องอาลัวเนี่ยเป็นเยอะ ก้คือดึงแรงมาก แต่วัวนมเขาจะขี้กลัว เขาจะไม่ค่อยดึง ออกไปเขาจะอยู่ข้างๆผม จะมีอาลัวเนี่ยดึงเยอะ
แน็ต : คืออาลัวเป็นหมามั่นใจในตัวเองสูงว่างั้นเถอะ
โจ้ : ใช่ครับ ออกจะนิสัยโลกส่วนตัวสูง
แน็ต : โอเค ถ้างั้นเราคุยปัญหาอาลัวดึงสายจูงก่อนก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยววัวนมเรื่องโรงพยาบาลอีกอันนึง เรื่องเดินสายจูงเนี่ย คือมันเป็นเรื่องปกติที่หมาเดินออกนอกบ้านแล้วมันตื่นเต้น โดยเฉพาะหมาที่อยู่ในรั้วบ้านตลอดเวลา โลกภายนอกถ้าเป็นหมาที่ความมั่นใจในตัวเองสูงนะ โลกภายนอกจะเป็นสิ่งที่น่าค้นหา เหมือนนานๆได้ไปห้างที พอเราได้ไปทีก็ตื่นเต้นอลังการ อยากช้อปปิ้งอยากกิน อยากนู่นนี่นั่น แม่กับพ่อจะคุมเราไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่ แต่ทั้งหมดทั้งปวงเนี่ยเบสิกทุกอย่างอยู่ที่บ้าน ถ้าเกิดพ่อแม่ตามใจลูกตั้งแต่อยู่ในบ้านน่ะ พอออกไปข้างนอกสิ่งเร้าเยอะแยะมากมายเลย ลูกมันก็เตลิด พ่อแม่ไม่มีอำนาจในการคุมลูกข้างนอกเลย ถ้าแม้แต่ในบ้านยังทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเนี่ยอย่างแรกที่ควรจะเปลี่ยนก็คือควรจะฝึกหมาตั้งแต่ในบ้านนะคะ ถ้าเอาสายจูงมาให้เขาแล้วเขาตื่นเต้น เราก็วางสายจูง คือต้องให้หมารู้ก่อนเลยว่าการที่สายจูงมาเนี่ย มันไม่มีเรื่องให้น่าตื่นเต้นนะ เพราะว่าถ้าเกิดหมาตื่นเต้น เราเอาสายจูงใส่เข้าไปในคอ มันก็เหมือนเราล็อคความตื่นเต้นตรงนั้นเอาไว้อ่ะ ทีนี้พอหมาตื่นเต้นปุ๊บ ออกไปข้างนอกนู่นนี่นั่นมามันก็จะลากทึ้งดึงอย่างเดียว ทีนี้กลับมาถึงที่บ้าน ก่อนที่เราจะออกไปเนี่ย พี่โจ้ก็ทำได้เลยคือเดินไปหยิบสายจูง ถ้าอาลัวใช่ไหม อ่ะ ถ้าอาลัวตื่นเต้นแบบว่าจะได้ไปเที่ยวอะไรอย่างนี้ พี่ก็เอาสายจูงวาง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งอาลัวนั่งมองแบบ ตกลงจะไปไหนไหมเนี่ย เหมือนมันไม่มีอะไรแล้วอ่ะ จับมาาไม่ได้จะไปเดินทุกครั้งนะ อะไรประมาณเนี้ย พอเขานิ่ง เขาสงบละ เราค่อยเอาสายไปใส่คอเขา ทีนี้เนี่ย สิ่งที่ควรจะคาดหวังตามมาก็คือพอไปใส่คอเขาปุ๊บ เขาจะดีดดิ้นต่อ คือมันจะตื่นเต้นต่อ ทีนี้เอาเหมือนกันเลย พอตื่นเต้นต่อ เอาสายจูงออก เอาไปวางไว้ที่เดิม จนกระทั่งเราเอาใส่เข้าไปในคอมันแล้วมันนิ่งมันสงบมันแบบตกลงยังไงกับชีวิตเนี่ย ทุกทีป่านนี้ได้ไปวิ่งแล้ว ได้ไปแรดแล้วเนี่ย ทำไมวันนี้ยังอยู่กันตรงนี้ มันอาจจะใช้เวลานะบางตัว 15 นาที บางตัวครึ่งชั่วโมง บางตัว 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับพลังงานของหมาแต่ละตัวนะคะ ทีนี้เนี่ยพอใส่สายจูงได้ปุ๊บ มันนั่งนิ่งละ เอาเดินไปประตูหน้าบ้านมันนิ่งละมันไม่อะไร พอประตูบ้านเปิดออก โห ดีดดิ้นเป็นปลากระดี่อีก ทำเหมือนเดิม ปิดประตู เอาสายสายจูงออก คือตอนนี้หมา เงื่อนไขที่เขามีจนถึงวันนี้เนี่ยคือถ้าเห็นสายจู งตื่นเต้น ถ้าเห็นสายจูง ตื่นเต้น ถ้าสายจูงคล้องคอ ตื่นเต้น ถ้าประตูเปิด วิ่ง ทีนี้เนี่ยเราต้องมานั่งแก้ใหม่หมดแล้ว เห็นสายจูงต้องนิ่ง ใส่สายจูง คุณต้องนิ่ง เห็นประตูต้องนิ่ง วิธีการที่หมารอหน้าประตูที่ถูกต้องคืออะไร เราอยู่หน้าประตูเนาะ หมาอยู่ฝั่งขวามือแล้วให้หมานั่ง พอแง้มประตู ถ้าหมายกก้นปุ๊บปิดประตูเลย แล้วก็กดให้มันนั่งใหม่ จนกระทั่งประตูแง้มมาละ หมายังนั่งอยู่ เราเดินก้าวออกไปหมาก็ยังนั่งอยู่ เราออกไปแล้วหมายังนั่งอยู่ หมาจะออกมาได้ก็ต่อเมื่อเราอนุญาตให้เขาออกมา ตรงนี้เนี่ยมันจะเป็นการฝึกสมองหมา หมาจะใช้สมองคิดเยอะมากเลยว่า ตกลงวันนี้เนี่ยเจ้านายจะเอาอะไรกับฉันนี่ ทำไมป่านนี้แล้วยังไม่เดิน ฉันต้องทำอะไรฉันถึงจะได้ นึกออกไหม เพราะว่าการให้รางวัลหมาเนี่ยมันไม่ใช่แค่ขนมหรือของเล่น การให้รางวัลหมาคือทุกสิ่งอย่างที่หมาต้องการ ณ เวลานั้น ทีนี้เนี่ยถ้าเราใส่สายจูงหมาเรารู้ละว่าสิ่งที่หมาต้องการ ณ เวลานั้นคือการออกไปข้างนอก เพราะฉะนั้นพฤติกรรมไหนล่ะ ที่เราต้องการจับคู่กับการออกไปเดินข้างนอก คือ ณ ตอนนี้พฤติกรรมที่เขาจับคู่กับการออกไปเดินข้างนอกคือการตื่นเต้น เราก็เปลี่ยนใหม่ละ ต่อไปนี้ไม่ ตื่นเต้นไม่ไปไหน ไม่ต้องออกจากบ้านเลย ไม่ต้องไปไหน ไม่มีการขยับไม่มีอะไรใดๆทั้งสิ้น คุณไม่ได้อะไรจากฉันทั้งนั้นจนกว่าคุณจะนิ่ง ทีนี้เนี่ยพอออกไปข้างนอกปิดประตูเรียบร้อยแล้ว หมาออกมานั่งสบาย ออกไปเดินจับสายจูงสั้นนะแต่ไม่ตึงนะ จับแบบว่าสมมุตินี่คือคอหมา จับให้มันอยู่ประมาณนี้ค่ะ เห็นไหมว่าสายจูงมันหย่อน เพื่ออะไร พอจับสายจูงสั้นปุ๊บ พอหมาเนี่ยจากตอนแรกที่อยู่ข้างๆเราใช่ป่ะ ถ้ามันจะเดินไปข้างหน้า แค่จะก้าวไปข้างหน้านะ ไม่ใช่ก้าวไปแล้วนะ แค่จะก้าวไป แล้วต้องกระตุกทันที กระตุกเพื่อให้เขารู้ว่า เฮ้ย ไม่ ต่อไปนี้จะไม่มีการดึงกันอีกแล้วนะคะ กระตุกเตือนหมา ทีนี้การกระตุกเดี๋ยวแน็ตจะกระตุกให้ดูอีกทีนะ คือมันจะกระตุกสั้น แรง ปึ้กเดียวแค่นี้ สุดท้ายแรงขนาดไหนขึ้นอยู่กับไซส์หมา ถ้าชิวาว่าก็ไม่ต้องแรงมาก ถ้าเป็นล็อตไวเลอร์มาอันนี้ก็ต้องแรงหน่อย ของมาหาพี่แน็ตไม่รู้ว่ามันควรจะแรงขนาดไหน แต่อยากให้แรงชนิดที่เรียกว่าหมาหันกลับมามองหน้าเราอ่ะ แสดงว่าเนี่ยเราได้ความสนใจจากเขาละ มันจะมองแบบ เฮ้ย อะไร เกิดอะไร ขึ้นไม่เข้าใจ อะไรประมาณนี้ แต่ถ้าเกิดเรากระตุกถี่ๆ ดึงอยู่นั่นแหละ กระตุกๆ หมาไม่สนใจหมาไม่มอง หมายังรั้นจะไป อันนี้ให้เพิ่มความแรงขึ้นมาอีก แต่ถ้ากระตุกแล้วหมาลอย อันนี้อาจจะแรงไปแล้ว ก็ต้องค่อยๆปรับระดับมา พี่ต้องจับให้ได้ว่าความแรงมันอยู่ขั้นไหนนะ ถ้ามันพลาด แบบว่ากระตุกไม่ทัน หมามันวิ่งไปเรียบร้อยแล้ว ทีนี้เนี่ย ให้พี่หยุดยืนอยู่กับที่นะ คุณโจ้หยุดยืนอยู่กับที่ เอาขาตั้งให้มันเลย ขาแยกออก เอาฐานเราให้มั่น อยากดึงก็ดึงไปเลยค่ะลูก เราจะไม่ลอยไปตามคุณ ตอนนี้ทุกทีเวลาที่หมาดึงเจ้าของวิ่งตามหมาถูกไหม หมาก็เรียนรู้ว่า ก็นี่ไง ฉันพาแกเดินไง ฉันอยากไปไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวเธอก็ตามฉันมา เรากำลังจะสลับบทบาทกันแล้ว ต่อไปนี้ ไม่ แกลากไปไหนฉันไม่ไป ถ้าแกจะไปข้างหน้าฉันจะไปข้างหลัง ถ้าแกไปข้างหลังฉันจะไปข้างหน้า แกจะไปซ้ายฉันจะไปขวา อะไรแบบนี้ หมาก็จะงงว่าทำไมวันนี้มันดูสับสนวุ่นวายอย่างนี้วะ อาทิตย์แรกอ่ะหมาจะงงๆ แต่ถ้าทำถูกต้องนะ จะเห็นเลยว่าหมาเดินเปลี่ยนสไตล์การเดินตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกนะ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรากระตุกแรงขนาดไหน เรากระตุกทันเวลาขนาดไหน เพราะเราไม่ต้องการที่จะเตือนหมาตอนที่เขาออกไปแล้ว เราต้องการเตือนหมาก่อนที่มันจะเริ่มก้าวไป งงไหมคะ
โจ้ : ครับ โอเค ตอนแรกที่ผมไม่ทำเพราะผมกลัวหมาคิดว่าผมไปหลอกเขา
แน็ต : หลอกยังไงล่ะ
โจ้ : หลอกว่าจะไปเที่ยวแล้วไม่ไป อะไรอย่างนี้
แน็ต : อ๋อ ไม่ต้องคิดมาก หมามันไม่คิดมากขนาดนั้นพี่ หมาเขาอยู่กับปัจจุบัน หมาเขาไม่มองอนาคต เขาไม่รู้หรอกว่าสุดท้ายเราจะเดินกันจริงหรือเปล่า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราต้องการอะไร ฉะนั้นเราก็ต้องบอกหมาแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการโดยการที่ว่าเราจับคู่พฤติกรรมกับรางวัลที่เราจะให้ เหมือนกันเลย ประมาณนั้นแหละ แต่จำไว้ว่ากระตุกน่ะ ไม่ต้องกลัวหมาเจ็บ เพราะการที่หมาดึงสายจูงอ่ะ แล้วเขาก็ลากไปแล้วเราก็ทึ้งกับเขาไปตลอดทางอย่างนี้ เราทำร้ายเขามากกว่านะคะ แล้วถ้าเราหยุดเดิน หมาก็ต้องหยุดเดิน หมานั่งเลย ห้ามลุกเลย absolute 100% ฉันหยุดคุณต้องนั่ง มันยกก้นเราก็กดก้นลงไปใหม่ ยกก้นกดก้นใหม่ มันเป็นการแข่งกันอยู่ว่าตอนเนี้ยระหว่างคนกับหมาใครจะยอมแพ้ก่อนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ยอมแพ้ก่อน เพราะเรารู้สึกผิดกับหมา เรารู้สึกหมดความอดทนกับหมา เราเยอะสิ่ง แต่หมาแบบก็วันนี้ก็ไม่มีอะไรทำแล้ว ในตารางก็แค่กลับบ้านไปเลียก้นตัวเอง 3 นาที อะไรประมาณเนี้ย คือแบบฉันไจะดึงให้ได้ ฉันต้องเอาให้ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเป็นหมาสำหรับเขาเหมือนกัน ว่าเราก็ต้องเอาให้ได้ ถ้าฉันบอกให้คุณนั่งนะคุณต้องนั่ง หลักๆก็จะประมาณนี้
โจ้ : ฝึกพร้อมกันทั้งสองตัวได้เลยใช่ไหมครับ
แน็ต : ได้ๆ แต่ถ้าไม่สับสนเกินไปนะ เพราะว่าอีกตัวนึงมันเดินไม่ดึงใช่ไหม ถ้าเดินไม่ดึงน่ะ แน็ตกลัวว่าเดี๋ยวพี่จะแยกสมาธิไม่ค่อยถูก เพราะถ้าไอ้ฝั่งนี้ดึงจัดเลยอ่ะถ้า พี่คิดว่าสามารถแยกประสาทสัมผัสได้ก็ตามสบาย
โจ้ : เดี๋ยวจะให้แฟนช่วย เอาอีกตัวหนึ่งให้แฟน
แน็ต : ใช่ เอาแบบนั้นก่อนก็ได้พี่เพื่อความปลอดภัย เพราะสอนหมาทั้งทีเนี่ย เราสอนเพื่อความสำเร็จ เราต้องการให้ทำให้ได้ เพราะฉะนั้นเนี่ยเราต้องใช้ความอดทนอย่างแรกละ แล้วเราต้องเข้าใจก่อนนะว่าการสอนหมาครั้งแรกอ่ะ มันใช้เวลา เหมือนเวลาถ้าเกิดมีคนมาสอนภาษาฝรั่งเศสให้พี่อย่างเงี้ย เรียนคอร์สแรกวันแรกเป็นอะไรที่ไม่เข้าใจเลย แต่พอเรียนซ้ำๆไปเรื่อยๆมีการฝึกหัดมีการมีคนเข้ามาสอนมีอะไรพวกเนี้ย อาทิตย์สองอาทิตย์เราก็จะเริ่มเข้าใจเบสิกบางอย่างละ เพราะฉะนั้นมันก็คือสิ่งเดียวกัน แล้วก็ปลอกคอ ให้ใช้เป็น slip leash นะคะ ไม่แนะนำให้เป็นสายจูงที่เป็นตะขอคอหมาแล้วก็เกี่ยวกับปลอกคอหมา ไม่แนะนำอันนั้นนะ เพราะถ้าหมามันดิ้นไปด้านหลังเนี่ยหัวมันจะหลุด ไม่แนะนำให้เป็นสายรัดอกด้วย พอใส่เป็น slip leash เนี่ยถ้าหมาดึงมันจะรัด
โจ้ : ใช้เป็นแบบนี้หรอครับ
แน็ต : โอเคเลย พอหมาเขาดึงเนี่ยมันจะรัดคอเขา ไม่ต้องสงสารไม่ต้องไม่ต้องสนใจว่าหมาจะขาดใจตายหรือเปล่า แน็ตยังไม่เคยเจอหมาตัวไหนที่ดึงจนขาดใจตาย ทุกตัวจะดึงจนถึง ณ จุดหนึ่งแล้วก็ หายใจไม่ออกว่ะ ไอ้นี่ก็ไม่ตามว่ะ งั้นยอมแพ้ แล้วเขาก็จะเดินมาหาเรา
โจ้ : เพราะอาลัวดึงมาก ต้องใช้เส้นใหญ่ อันนี้ของวัวนมเส้นเล็ก
แน็ต : ไอ้เนี่ยพี่ให้อยู่หลังหูหมาเลยนะ ปรับขึ้นมาให้อยู่หลังหูหมาเลย
โจ้ : ต้นคอนะ
แน็ต : ใช่ เพราะว่าถ้าอยู่หลังหูแล้วเนี่ยเราจะคุมคอเขาง่ายขึ้น แต่ถ้าอยู่ตรงนี้เราจะไปรัดคอเขาละ
โจ้ : โอเค ทีนี้เคสวัวนมที่กลัวหมอล่ะครับ
แน็ต : เคสวัวนมที่กลัวหมอ เทคนิคง่ายๆเลย เขาเป็นหมาขี้กลัว เขาเป็นหมาขี้ระแวงใช่ไหม พอการที่เขาไปหาหมอเนี่ย หมาพวกนี้จะไม่ชอบให้คนแตะตัว อยู่ดีๆจะมาแตะตัวเขาเลยเนี่ยไม่ได้ เขาจะกลัว เขาต้องแบบ เฮ้ย ใจเย็น เรารู้จักกันต้องนิดนึงก่อน แล้วถึงจะแตะตัวกันได้ ทีนี้เนี่ยการที่เวลาหมาไปหาหมอ สิ่งแรกที่หมอทำคืออะไร จับทึ้งดึงทุกอย่าง เพราะเขาต้องเช็คนี่ถูกไหม หมามันไม่พร้อมนี่ เฮ้ย เดี๋ยวก่อน ยังไม่รู้จักกันเลย อยู่ดีๆมาจับมาลูบมาคลำอะไรมันจะเกินไป ถ้าให้ดีช่วงนี้เนี่ย พี่พาวัวนมไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ไม่ได้ไปหาหมอนะ ให้พาไปเดินเล่นแถวๆโรงพยาบาล ใช้เทคนิค ใช้ทฤษฎีเดียวกันกับสายจูง ว่าทุกครั้งที่เห็นสายจูงไม่ได้แปลว่าเราจะไปเที่ยว เพราะฉะนั้นไม่ต้องตื่นเต้น ทุกครั้งที่เราไปโรงพยาบาลไม่ได้แปลว่าหมอจะมาจับนะ เราแค่ไปเดินเล่นก็ได้ เพราะอย่างซัมมะที่แน็ตโพสต์บนเว็บไซต์น่ะ ไอ้ตัวนั้นน่ะก็กลัวหมอถึงขั้นกัดฟัดแหลกเลย แค่เห็นเสื้อกาวน์มามันก็กัดแล้วอ่ะ อันนี้พาไปเดินอยู่โรงพยาบาลแค่วันเดียวเอง แบบเดินเล่นเดินไปเดินมาเดินผ่านห้องนู้นนี้นั้น ผ่านแล้วก็นั่งแบบ นั่งอยู่ในห้องแอร์ อยู่ในห้องรอตรวจอย่างนี้ โดยที่หมอไม่มาเจอเขาเลยนะ แค่นั่งอยู่เฉยๆครึ่งชั่วโมงแล้วก็เดินออก วันถัดมาอันนี้คือให้หมอตรวจ เขาดีขึ้น เขานิ่งขึ้น อย่างแรกเลยพี่ต้องให้เขารู้สึกผ่อนคลายกับสถานที่ก่อน ก็คือการที่เอาไปเดินเล่นด้วยกันนั่นแหละ เดินไปเดินมาให้รู้ว่ามาที่นี่ไม่ได้หมายความว่าจะมีคนจับนะ อย่างที่สอง พอถึงวันที่ต้องเอามาตรวจละ หมาขึ้นไปบนเตียงละ เขาจะกลัวเพราะมันอยู่ที่สูงมันจะเกิดการสั่นทันที ถ้าตรวจที่พื้นได้จะดีมากนะคะ แล้วพี่จับให้เขานอน กดให้นอนแบบนอนหงายข้างๆน่ะ โดยที่ตัวพี่นั่งอยู่ข้างหลังหมา นั่งลงไปเลยแล้วก็เอาต้นแขนกดคอหมาไว้ ต้นแขนอีกข้างนึงกดตรงหลังหมาช่วงตรงสีข้างตรงนี้ กดลงไป กดเพื่อที่กันหมาดิ้นขึ้นมา แล้วตลอดเวลาเนี่ยเราดูอาการหมาด้วยว่ามันโอเคไหม ถ้ามันเครียด ปากปิด หายใจแบบถี่ๆแรงๆ แบบนี้เราบอกหมออย่าเพิ่ง อย่าเพิ่งแตะมัน ให้เวลามันนิดนึง ให้หมอเดินไปเดินมาก็ได้ ให้เขารู้ว่ามีกลิ่นนี้เข้ามา ทุกคนไม่ได้จะมาแตะ แล้วการที่เรากดเอาไว้เนี่ย เพราะว่าถ้าเกิดเขาดิ้นขึ้นมาปุ๊บเราจะใช้แรงเราดันลงไปนะคะ เพื่อที่หมาจะได้ขึ้นมากัดไม่ได้หรือหนีไม่ได้ อะไรประมาณนี้ แต่ถ้าเขานิ่งผ่อนคลาย ตัวเขานิ่มตัวไม่แข็ง เราก็ไม่ต้องมีแรงกดลงไป แล้วอย่าเพิ่งให้หมอมาจับหน้าจับตา อย่าเพิ่ง ถ้าหมอจะจับให้จับข้างหลังก่อนเนาะ โดยที่เจ้าของพยายามดึงความสนใจหมาไว้ ถ้าสมมติพี่กดไว้ใช่ไหม ให้ภรรยาพี่อยู่ข้างหน้าหมาก็ได้ ให้เขาคุยกับหมา ให้มันสนใจเจ้าของอ่ะ แล้วก็พยายามทำให้เขาสงบอ่ะ แบบชมว่าเก่งมาก แต่อย่าใช้น้ำเสียงตื่นเต้นนะ มันจะยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ แต่ให้ใช้เสียงที่สงบ เก่งมาก แล้วก็นวดหมาไป การนวดหมาคือการทำมือเป็นกงเล็บแบบนี้ แล้วก็นวดอยู่สีข้างเขา แล้วก็นวดวนไป ไม่ได้เป็นการลูกนะ การลูกจะยิ่งทำให้หมากลัว แต่เราจะเป็นการนวดเพื่อความผ่อนคลายให้หมาแล้วว่าเฮ้ยไม่มีอะไร ใจเย็น เพราะฉะนั้นก็จะเป็น 2 บทบาทละ คนนึงมีหน้าที่กดแค่จับหมาไว้อะแหละ อีกคนนึงอยู่ข้างหน้าล็อคคอหมาไว้ เก่งมากเลยเก่งมาก อะไรอย่างนี้ แล้วหมอให้เริ่มจากข้างหลังก่อน ถ้าจับดูแล้วโอเคไม่มีปัญหาอะไร ดีขึ้นนะ ค่อยๆไล่ขึ้นมาข้างหน้า แล้วถ้าเกิดเราเห็นว่าหมาเราปากปิดเมื่อไหร่ ตาเขม็งเมื่อไหร่ หยุดหายใจเมื่อไหร่เนี่ย บอกให้หมอรอแป๊บนึง แต่ถ้าหมาขู่ บอกหมออย่าไปต่อ ให้หมอหยุด มือยังอยู่ที่เดิมนะ สมมติอยู่บนตัวหมาแล้วหมาขู่ก็อยู่ตรงนี้แหล ะอย่าไปต่อ เพราะถ้าไปต่อมันจะกัด แต่พอหยุดขู่ปุ๊บค่อยเอามือออก อันนี้อาจจะต้องไปขอความร่วมมือกับคุณหมอที่คลินิกว่าแค่จะมาฝึกเฉยๆ ให้เขาชินกับหมอ เพราะว่าของซัมมะที่ไปโรงพยาบาลก็ได้หมอที่โรงพยาบาลเกษตร เขายินดีที่จะช่วยฝึก ไม่ได้ตรวจ ไม่ได้อะไรเลย แค่ขึ้นมาแค่จับนู่นนี่นั่น จนสุดท้ายจากแค่จะตรวจเฉยๆ กลายเป็นได้เจาะเลือด ได้ตรวจอุณหภูมิ ได้จับช่องท้อง ตรวจฟัน ตรวจตา ซึ่งเมื่อก่อน 2 ปีที่แล้ว แค่จะตรวจเลือดน่ะ ต้องวางยาสลบกัน แล้วก็ไม่สลบด้วยเพราะมันกลัวแบบสติแตกแล้วอ่ะ ของพี่ดูยังไม่เลวร้ายขนาดนั้นใช่ไหม
โจ้ : ก็เขาไม่ยอมลงจากรถ แต่เดี๋ยว step แรกลองมาลงจากรถไปเดินหน้าโรงพยาบาลดูก่อน พอหน้าโรงพยาบาลเสร็จก็ค่อยเข้าไป เพราะบางทีก็ไม่อยากไปกวนหมอ
แน็ต : อ๋อ ค่ะ ก็นั่นแหละ อาจจะส่วนใหญ่นะ เพราะหมอน่ะ หมอเขาก็อยากได้ลูกค้าที่ไม่มีปัญหา ถูกไหม ไม่มีปัญหาคืออะไร เวลามีลูกค้ามาเลือกมาขู่จะมากัดหมอ หมอก็เครียดใช่ไหม มันก็เป็นอะไรที่มันวินๆทั้งสองฝ่าย อาจจะแบบว่าหมอครับ ขอสัก 10 นาทีได้ไหม อะไรอย่างนี้ หรือว่าถ้าเกิดเขาจะคิดเงิน อันนี้เราก็ไม่รู้ อันนี้มันก็แล้วแต่นะ แต่เราแค่รู้สึกว่ามันจะเป็นการวินๆทั้ง 2 ฝ่าย คือ ณ ตอนนี้ถ้าพี่เอาไปฝึกเขาให้ออกจากรถน่ะ ถ้าเขาไม่ยอมออก ถ้าสมมติว่าใส่สายจูงแล้วพยายามดึงเขาออกมา เขาขืนตัว ให้ทำเหมือนเวลาที่หมาดึงไปข้างหน้า เดินออกไปก้าวนึง แล้วเอาให้ตึงเอาไว้ อย่าลากหมาออกมานะ เพราะถ้าลากหมาออกมาเนี่ยเราบังคับตัวเขาออกมาแล้ว แต่สมองเขาไม่ตามเรามา แต่ถ้าเรายืนค้างเอาไว้ ยืนให้สายตึงเอาไว้ แล้วก็ เอ้า เรื่องของแก แกตัดสินใจเอาเอง จะนั่งอยู่ในรถก็ได้ไม่ว่า แต่หายใจไม่ออกนะ หรือจะตามกันมาดีๆ สุดท้ายหมายอม หมาเขาก็จะตามเรามา ถ้าเป็นอาการที่เกิดช่วงแรกๆ เราก็จะแนะนำว่าใช้ขนมล่อก็ได้ แต่คิดว่ารุ่นนี้ขนมล่อมันคงไม่ได้กลิ่นแน่นอน คงไม่มาแน่ๆใช่ไหม
โจ้ : ก็คิดว่าเขาอาจจะลงง่ายถ้าอาลัวลง เขาอยากจะตามอาลัว ผมคิดว่าถ้าพาไปเดินหน้าโรงพยาบาลน่าจะโอเคอยู่ ลงไปเดินหน้าร้านในร้านนี่เคยพาไปมาแล้ว ก็เหลือตามที่คุณแน็ตบอก
แน็ต : ถ้าเกิดสมมติว่า ถ้าวัวนมตามอาลัวเนี่ย มันคือสิ่งที่ดี แต่คือตอนนี้สิ่งที่แน็ตอยากให้ทำก็คืออยากให้พี่เพิ่มความเป็นผู้นำของตัวเองกับอาลัว เพราะถ้าวัวนมเห็นว่าเราคุมอาลัวได้ ต่อไปไม่ต้องใช้อาลัว คือตอนนี้เหมือนไอ้วัวนมมันฟังอาลัวอยู่ ลูกพี่ว่าไง ตาม พอลูกพี่ไม่อยู่ ไปต่อไม่ถูกเลย ซึ่งอันเนี้ยเราอยากให้หมามีกับเรามากกว่า ไม่ใช่ว่ามีกับหมาด้วยกันเอง เพราะอาลัวอาจจะไม่ได้อยู่ตลอดไป เกิดวันนึงอาลัวเป็นอะไรขึ้นมา อะไรอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องลองดูว่าอาลัวเขาทำแบบไหนเราก็ทำตามอาลัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราคุมอาลัวได้นะ ไอ้วัวนมก็จะตามเราทันทีเลย นั่นแหละ
โจ้ : ครับ โอเคครับ
แน็ต : ครับผม ยังไงเอาไปลองดูนะคะ ของพวกนี้ใช้เวลา ใช้เวลาจริงๆ ยิ่งถ้าไม่มีครูฝึกไปช่วยจับช่วยดูเนี่ย มันก็เหมือนเป็นการลองผิดลองถูกกันระดับหนึ่ง แต่เอาเป็นว่าถ้าเริ่มยังไงเนี่ยแน็ตอยากให้จบด้วยความสำเร็จ อย่างสมมติออกไปเดินอย่างนี้ อยากจะให้จบด้วยที่มันเดินตามเรา
โจ้ : โอเคครับ เดี๋ยวลองก่อน ถ้าไม่สำเร็จเดี๋ยวต้องให้ครูมาเอง
แน็ต : ต้องให้ครูไปจับเอง