แน็ต : สวัสดีค่ะ แน็ตจากเพจคนใจหมา วันนี้อยู่ช่วงคุยกับคนใจหมา เรามากับปัญหาน้องหมาบางแก้ว ยังไงดี คือเหมือนเจ้าของกำลังจะเอาแม่บ้านเข้ามาในบ้าน ทำยังไงไม่ให้หมาไปทำร้ายร่างกาย ใช่ป่ะ
บอม : ใช่เลยครับ
แน็ต : อ่ะโอเค คุณบอม มีเวลาให้ 15 นาที เล่าคร่าวๆมาเลยค่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น
บอม : ก็คือว่าตอนนี้นะครับ มีหมาเลี้ยงอยู่ทั้งหมด 3 ตัว เป็นตัวพ่อหนึ่ง ตัวแม่หนึ่ง แล้วก็ตัวลูกหนึ่ง ตัวพ่อแล้วก็ตัวแม่เนี่ยอายุประมาณปีเศษๆ ตัวลูกประมาณ 2 เดือนเศษๆ เสร็จแล้วทีนี้เนี่ย แม่บ้านเก่าพอดีเขาป่าว เขาก็กลับไปอยู่ที่บ้านเขา คือไม่ได้ทำงานที่เราแล้ว ทีนี้ ปกติผมเลี้ยงหมาก็ปล่อยบ้าง ผูกบ้าง เพราะที่บ้านมีพื้นที่เยอะ แล้วจุดประสงค์หลักของการเลี้ยงสุนัขบางแก้วของเรา หนึ่งคือบ้านเรามีเนื้อที่เยอะ แถวนั้นพื้นที่ก็ดูอันตราย เราก็เลยเลี้ยงแบบปล่อย เพื่อที่ให้เขาป้องกันโจรหรืออะไรประมาณนี้ครับ
แน็ต : เลี้ยงไว้เฝ้าบ้านโดยเฉพาะเลย
บอม : ใช่ๆ แล้วทีนี้ถามว่าเคยกัดคนในบ้านไหม ไม่เคยเลย ไม่เคยกัดคนในบ้านที่อยู่ในบ้าน แต่เคยมีเหตุการณ์ล่าสุดครั้งหนึ่งเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา คือประตูที่บ้านเป็นแบบอัติโนมัติ คนที่เข้ามาไม่รู้ว่าเราปล่อยหมาอยู่ แล้วหมาก็หลุดไป ออกไปนอกบ้าน ก็วิ่งไปข้างบ้าน เราก็วิ่งไปจับ เราก็จับตัวน้องไปแล้ว ทีนี้ปรากฎว่ามีหมาอีกตัวหนึ่งวิ่งมา เขาก็ด้วยความที่หวงเจ้าของ เขาก็จะไปกัด แต่เขากัดพลาด กัดมาโดยเจ้าของ เป็นรู้เหมือนโดนลูกกระสุนยิงน่ะครับ 2 รู ที่ขา
แน็ต : อือหือ อือฮึๆ
บอม : อันนี้คือเขาไม่ได้ตั้งใจ เราเข้าใจ แต่คือตอนนี้เนี่ย เราต้องการหาแม่บ้านคนใหม่มา ทีนี้มันติดตรงที่ว่าเรามีหมา ซึ่งเป็นหมาพันธุ์บางแก้วด้วย
แน็ต : จะทำยังไงเอาแม่บ้านเข้ามาไม่ให้หมากัด
บอม : ใช่
แน็ต : อืม ยากว่ะ ก่อนอื่นเลยไปหาแม่บ้านที่ไม่กลัวหมา ต้องเอาแม่บ้านที่ไม่กลัวหมาเลยนะ เพราะว่าถ้าเอาคนที่กลัวหมามาเจอบางแก้ว ซึ่งเขายิ่งกลัว มันจะยากเพราะว่าหมาหมาส่วนใหญ่เขาจะ react กับคนที่กลัวเขาอีกแบบหนึ่ง คือถ้ามันรู้ว่าคนนี้ข่มได้ก็จะข่มเลย แต่ถ้าเราเอาคนที่เขาไม่กลัวหมาเป็นทุนอยู่แล้วเนาะ เอามาให้เจอก็ได้นะ เอาเป็นว่าตอนนี้เนี่ย อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องไปหาในคุณสมบัติของแม่บ้าน นอกจากทำความสะอาดแล้วก็ต้องไม่กลัวหมาด้วย
บอม : ต้องไม่กลัวหมา ต้องรักหมา
แน็ต : อาจจะไม่ต้องรักหมา แค่ไม่กลัวก็พอ แล้วเราต้องบอกให้เขารู้ว่าหมาของเราเป็นบางแก้วนะ เขาจะได้ทำใจมาก่อน มาเจอกันจะได้ไม่ตกใจ วิธีแรกแน็ตมองว่าอย่าเพิ่งเอาแม่บ้านเข้ามาบ้านเลยเนาะ นี่เคยเอาหมาออกไปข้างนอกไหม
บอม : ไม่เคยครับ ไม่เคยปล่อยเลย เพราะกลัวปล่อยไปแล้วเขาติดนิสัยไง เพราะเคยเปิดปุ๊บเขาวิ่งออกแล้วเคยโดนรถทับ เราก็เลยไม่ปล่อย
แน็ต : โอเค ถ้างั้นก็ เพราะว่าถ้าการที่ถ้าเกิดเอาคนแปลกหน้าเข้ามาเจอเขาในบ้านเนี่ยมันจะเป็นการหวงที่ละ เพราะมันคือที่ของเขามันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องปกป้องที่ของเขาตรงนี้ เพราะฉะนั้นการที่เราจะเอาเขาไปเจอคนแปลกหน้า หรือเอาเข้าไปเจอหมาแปลกหน้า ทุกอย่างควรจะไปเจอกัน ณ สถานที่ที่ไม่ใช่ที่ของใคร มันจะเป็น Ground Zero ไปเลย ซึ่งอันนี้ก็ไม่ใช่ที่ของมัน ไม่ใช่ที่ของอีนี่เหมือนกัน
บอม : เข้าใจ เพราะว่าเคยจากประสบการณ์เวลาเอาหมาไปฉีดยาเนี่ย คือเขาจะกลัว เขาจะไม่กล้านะถ้าไม่ใช่ที่ของเขาเอง
แน็ต : เพราะเขารู้ว่าเขาไม่มีอำนาจแล้ว อะไรประมาณนี้ มันจะอารมณ์เดียวกัน พอมันเป็น 3 ตัวอย่างนี้ เป็นบางแก้ว 3 ตัว อันนี้เจ้าของก็ต้องไปหาทางเองนะว่าจะเอาออกไปให้เจอกันยังไง ไม่ใช่เอาออกมาเจอหน้าบ้านนะ เจอแบบไปเป็นสวนสาธารณะหรือเจอข้างนอกเลยอะไรเงี้ย โดยที่ให้แม่บ้านเข้ามาเจอหมาที่พื้นที่ตรงกลางใช่ไหม โดยที่ว่าแม่บ้านไม่ได้อยู่ดีๆมาแตะตัวหมา ไม่ใช่ สิ่งที่ดีที่สุดที่แม่บ้านทำได้คือยืนเฉยๆ ไม่ต้องขยับตัวเลย ยืนอยู่นิ่งๆเลย ไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องมองหน้าหมา ไม่ต้องคู้ลงมานั่ง ไม่ต้องอะไรเลย ยืนอยู่เฉยๆแล้วให้หมาเราเป็นคนเข้าไปดมเขาก่อน
บอม : โดยที่ให้ผมจับเชือกจับอะไรไว้
แน็ต : ใช่ จับสาย ต้องมีสายอยู่แล้ว พอออกข้างนอกต้องมีสายจูง แล้วก็เวลาที่หมาเราเข้าไปดมแม่บ้านเนี่ย สายห้ามตึง มันเป็นข้อผิดพลาดที่คนทำเยอะมาก คือพอหมาเรากำลังจะไปดมคนอื่น หมาแล้วกำลังจะไปดมหมาตัวอื่นเจ้าของจะทำอย่างเงี้ย คือมือจะแบบตึงขึ้นมาเลย ไม่ออกมามันก็จะเป็นการเจอกันแบบที่ไม่ดีอ่ะเหมือนความประทับใจครั้งแรกคือติดลบไปเลยอ่ะ
บอม : First impression
แน็ต : ใช่ เพราะว่าพอเจอปุ๊บคืออะไร ไอ้นี่มันก็แน่น เจ้าของก็เครียด ทุกอย่างมันดูตึงอ่ะ หมาก็เรียนรู้แล้วว่า คนนี้ไม่ดี เพราะว่าเจ้าของก็ไม่ดีด้วยตอนนี้ เจ้าของกลัว แต่ทีนี้เนี่ย แน็ตแนะนำว่า สายจูงหมาใช่ไหม ใส่เป็น slip leash น่ะ เป็นเชือกกระตุกน่ะ เพราะว่าเขาจะได้ไม่หลุดออกไปเราคุมเขาได้ตรงนั้น ใส่แล้วเอาไว้อยู่หลังหูนะ เสร็จแล้วเนี่ยจับไว้ให้หมาเรานั่ง หมาเราห้ามลากเราไปหาคนแปลกหน้า ห้ามนะ เพราะบางทีคนแปลกหน้าเขากลัว เราเห็นคนแปลกหน้ามาแล้ว เราบอก โอเคพี่ นั่งตรงนั้นเลย รอตรงนั้นเลย เราเอาหมาเราเดินเข้าไปนะคะ พอเดินเข้าไปเนี่ยปล่อยสายยาวนิดนึงให้มันพอหย่อนๆน่ะ แล้วเราก็ให้คำสั่งมาได้ว่าไป ไปดม หรือไปดึงได้ หรืออะไรก็แล้วแต่ หมาเขาก็จะเรียนรู้ที่ที่จะเข้าไปดม มันเป็นธรรมชาติของหมาที่เขาต้องการจะดม แต่มันก็เป็นธรรมชาติของมันเหมือนกันที่ต้องปกป้องตัวเขาเองถ้าอยู่ดีๆคนแปลกหน้ามาจะมาแตะตัวเขา เขาไม่รู้นี่ว่าคนแปลกหน้าเข้ามาจะมาเล่นหรือจะมาให้ หรือจะมาอะไร ทั้งนี้ทั้งนั้น ยืนอยู่ดีๆ หันมาขวับพรึ่บมาอย่างนี้ เปอร์เซ็นต์ที่คุณจะทำร้ายเรามันมีสูง เพราะฉะนั้นเราต้องปกป้องตัวเองก่อน มันถึงสำคัญที่ว่าคนแปลกหน้าคือต้องนิ่งๆเลย ให้หมาเราดม มีหน้าที่ดมอย่างเดียว ดมจากตรงนั้นแล้วดูเอาว่าหมาทำยังไงต่อ ถ้าหมาดมแล้วหมาเดินออกไป โอเคจบ หมาไม่มีปัญหาอะไร ถ้าหมาดมแล้วนั่งข้างๆ ดี เขาต้องการให้คนนี้เล่น ถ้าหมาดมแล้วขู่ อันนี้ไม่โอเค เพราะถ้าอยู่ที่ข้างนอกยังขู่ ถ้าเข้าบ้านไปตายแน่
บอม : เดี๋ยวนะ ขอย้ำ ขอทวนอีกที ถ้าสมมติดมแล้วเดินออกไป แสดงว่า
แน็ต : เขาเฉยๆ เขาดมแล้วเขาก็โอเค จบ ไม่มีปัญหาอะไร ฉันไปทำอย่างอื่นต่อ
บอม : แต่ถ้ามานั่งใกล้คืออยากให้เล่นด้วย
แน็ต : ใช่ๆ เหมือนแบบเขาจะไม่ได้นั่งเพื่อให้ด้วยสิ เขาจะดมๆเสร็จแล้วเขาก็จะนั่งลงเฉยๆอ่ะ ยังอยู่ในรัศมี ยังอยู่ใกล้ๆ อันนี้เป็นสัญญาณที่เขาบอกแล้วนะว่าเล่นกับเราสิ เล่นก็ไม่ใช่แบบว่าไปขยี้หัวเมามันส์อะไรอย่างนั้น ไม่ใช่นะ แค่แบบ ลูบหัว เก่งมาก
บอม : คือค่อยๆ เพิ่มที่ละ step
แน็ต : ใช่ ค่อยๆ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าหมาเรามันจะ react แนวไหน ทุกอย่างเลยต้องช้า คนแปลกหน้าก็ต้อง movement ช้าเหมือนกัน ค่อยๆแตะ ค่อยๆขยับ ไม่ใช่อยู่ดีๆลุกพรวดขึ้นมา อยู่ดีๆวิ่งไปจับนู่นนี่นั่น การที่เราขยับเร็วๆอย่างนี้ หมาถ้าเขาขี้กลัว เขาจะกัดเราก็ตอนนั้นแหละ เพราะมันเร็วแล้วเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น หมาทำไมไม่ชอบเด็ก เพราะเด็กชอบขยับตัวเร็ว หมาเดาทางไม่ออกเขาก็เลยต้องปกป้องตัวเองโดยการต่อสู้ไว้ก่อน อารมณ์เดียวกันให้เจอข้างนอกก่อนสัก 2-3 ครั้ง แล้วถ้าโอเค หมาดมเสร็จหมาเดินไปไม่ว่าอะไร หรือหมาให้นั่งเล่น โอเคไม่ว่าอะไร ให้แม่บ้านน่ะถือไส้กรอกในมือก็ได้ โดยที่แม่บ้านไม่ต้องแตะหมานะ แค่ถือไส้กรอกในมือแล้วก็วางมือไว้ข้างๆแขนอ่ะ พอหมาเข้ามาดมๆเสร็จก็ให้เอาไส้กรอกให้กินได้
บอม : กลัวมันจะกัดมือแม่บ้าน
แน็ต : ถ้ามันจะกัดมือแม่บ้านน่ะ มันกัดไปแล้ว คือไม่ต้องมีไส้กรอกก็กัด เราถึงบอกไงว่าถ้าเขาเข้ามาข้างๆให้เราเล่น โอเค ถ้าเขาเข้ามาดมๆแล้วออกไป โอเค มันเริ่มขั้นที่สองได้แล้วคือการเอาอาหารมาให้เขาเรียนรู้ว่า เฮ้ย เรามาดีนะ เราไม่ได้มาทำร้ายร่างกายคุณ เอาไส้กรอกใส่ในมือ เอาตับหรืออะไรก็ได้ใส่ในมือแค่ให้มันมีกลิ่นอาหารอ่ะ พอหมาเดินมาข้างๆปุ๊บ เราก็ให้แบมือแค่นี้เอง โดยที่แม่บ้านไม่หันไม่อะไรไม่แตะไม่อะไรเลย มือเปิดออกมาแค่นี้เองให้หมากินกับมือ ทำอย่างนี้ซ้ำๆสัก 2-3 ที หมาจะเริ่มเรียนรู้แล้วว่า อ๋อ คนนี้โอเคนะ เขาไม่ได้จะมาทำร้ายเรา นึกออกไหม ถ้าอันนี้สุดท้ายก็คือเจ้าของต้องดูตัวเองนะ แนะนำว่าให้ฟังจิตใต้สำนึกเรา เพราะคนเราจิตใต้สำนึกส่วนใหญ่มักจะถูก ถ้าเราดูแล้วเรารู้สึกว่า โอเค หมาเราก็ดูผ่อนคลายนะ ดูไม่เครียดดูไม่อะไร หลังขนไม่ฟู ไม่ขู่ ไม่อะไร อ่ะถ้างั้นลองให้แม่บ้านจับสายจูงหมาซิ แล้วพาไปเดินสักนิดนึง เดินๆเสร็จแล้วเดินเข้าบ้านไปพร้อมกัน ถ้ามันทำข้างนอกโอเค พอเข้าบ้านมาพร้อมกันปุ๊บ หมาจะเริ่มเรียนรู้ว่า อ๋อ คนนี้มานี่หว่า เออไม่เป็นไร เพราะเมื่อกี้เราอยู่ข้างนอกเขาโอเคกับเรา ถ้าเขาขู่ เราต้องวางแผนสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด คือถ้าเกิดมันขู่ขึ้นมา เราในฐานะเจ้าของบ้าน ต้องปกป้องแม่บ้าน ต้องบอกหมาให้รู้ว่าไม่! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่ใช่บอกว่า ไม่เอา ไม่เห่า ไม่ได้ คือเราต้องขาวกะดำให้หมารู้เลยว่า ไม่ก็คือไม่ หยุด นิ่ง ไปเลย อะไรเงี้ย ให้ชัดให้เคลียร์ ให้หมารู้ว่าอันนี้ไม่โอเคนะ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นแน็ตมองว่าเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะเริ่ม อาจจะไม่ได้ยอมรับแบบว่า 100% มานั่งตักอะไรงี้เลยนะ อันนี้มันแล้วแต่หมานะ แต่อย่างน้อยเขาจะเรียนรู้ว่าอ๋อ คนนี้วันนี้ไม่ได้มาถึงปุ๊บจะมาแตะตัวเขา จะมาทำร้ายร่างกายเขา จะมาอะไรแล้วทั้งนี้ทั้งนั้นคือเจ้าของเป็นคนบอกหมาว่า ห้ามขู่ ขู่คนนี้ไม่ได้ เห่าคนนี้ไม่ได้
บอม : ก็คือเริ่มด้วยการลองให้เขาจูงสุนัขเรา
แน็ต : แล้วก็ให้เดินเข้าบ้านไปพร้อมกัน ถ้าหมาเราขู่ พอหันมาปุ๊บแบบมันเริ่มเข้าที่เขาปุ๊บอย่างนี้ มันเริ่มมีความฮึกเหิม เริ่มมีอำนาจในในตัวเองเพิ่มขึ้น หันมาขู่อะไรอย่างนี้ เราในฐานะเจ้าของบ้านต้องบอกหมาของให้หยุด ซึ่งน้ำเสียงที่บอกเนี่ย ก็คือต้องแบบให้ชัดเจน ให้เขารู้ว่ามันไม่โอเคนะ เพราะเจ้าของส่วนใหญ่จะชอบดูหมาแบบเสียงหวาน ไม่นะ ไม่เอา ไม่เห่านะ อะไรเงี้ย หมาก็จะงงว่าแบบตกลงด่าหรือป่าว เพราะฉะนั้นเราก็คือต้องให้เขารู้เลยว่ามันไม่โอเค แล้วก็ทำ Exercise เดิม จากที่อยู่ข้างนอกน่ะ ทำข้างในบ้าน ให้แม่บ้านยืนเฉยๆ ไม่ต้องแต่งตัวมาไม่ต้องอะไรเลย ลองให้หมามาดมดูใหม่ หมาส่วนใหญ่พอเข้ามาในบ้านปุ๊บ เขาจะดมอีกทีนึง แต่ถ้าเขาไม่ดมก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ดมปุ๊บเราข้ามไป step ที่สองเลย คือไส้กรอกในมือ ทำแบบนี้ซ้ำๆซ้ำๆ สักวันสองวันน่ะ แน็ตว่าก็โอเคนะ ถ้าหมาเขาไม่มีใจที่จะกัด ซึ่งถ้าเข้าไม่โชว์สัญญาณกัดอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะ ก็ไม่น่ามีปัญหา
บอม : ครับ โอเค
แน็ต : ทีนี้เนี่ยมันจะอันตรายถ้าเขาจะกัด เจ้าของต้องดูภาษากายหมาก่อนที่มันจะกัด นั่นคืออะไร ถ้าเกิดแม่บ้านเดินเข้ามาใกล้ แล้วหมาเราเริ่มทำตาแบบมองด้วยหางตา หรือว่าปากปิดหรือหยุดหายใจ แสดงว่าเขาเริ่มสนใจแม่บ้านเกินไปละ อันนี้บอกให้แม่บ้านหยุดเดิน บางทีแม่บ้านอาจจะทำอะไร หรือแบบถือของอะไรมา บางทีหมาเขารู้สึกถูกคุกคาม อะไรประมาณเนี้ย
บอม : ครับ
แน็ต : นั่นแหละ ลองประมาณนั้นดูก่อน เพราะเราจะต้องหยุดเขาให้ได้ก่อนที่เขาจะไปกัดแม่บ้าน งงไหม
บอม : ไม่งงครับ
แน็ต : ไม่งงนะ ลองไปดู ลองทีละตัวดูก่อน ตัวที่หนึ่ง ตัวที่สอง ตัวที่สาม เสร็จแล้วค่อยลองเป็นคู่ เสร็จแล้วค่อยลองสามตัว แต่ตอนที่ลองต้องมีสายจูงทั้งสามตัวนะ เพื่อความปลอดภัย เพราะสุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง
บอม : ได้ครับ ตอนนี้ตัวเล็กสุดน่าจะยังไม่ค่อยมีปัญหาเพราะมัน 2 เดือน น่าจะยังไม่ค่อยเท่าไรมั้งครับ ใช่ไหม
แน็ต : ใช่ๆ 2 เดือนยังไม่มีปัญหาหรอก ให้แม่บ้านเจอกันข้างนอก ให้แม่บ้านนั่งก็ได้ แต่เหมือนเดิมก็คือไม่มีการมองหมา ไม่มีการอะไร แล้วก็ให้เขาให้อาหารหมาผ่านทางมือ อะไรประมาณเนี้ยอ่ะ ลูกหมาไม่มีปัญหา แต่ต้องทำ ณ ตอนนี้เลย ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะมีปัญหาในอนาคตนั่นแหละ
บอม : ครับ โอเคครับ วันนี้ได้รับความรู้มากเลย ขอบคุณคุณแน็ตมากนะครับ
แน็ต : ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวยังไงถ้าเพื่อความชัวร์ ตอนช่วงที่เขาเจอกันอย่างนี้จะถ่ายวีดีโอส่งมาให้แน็ตดูหน่อยก็ได้ เดี๋ยวแน็ตจะได้บอกให้ว่าตรงนี้มันต้องอันตรายนะ หรือว่าไอ้เนี่ยภาษากายหมามันออกแบบนี้นะทำไมไม่มีการหยุดเขาก่อน อะไรประมาณนั้น จะได้ช่วยดูให้อีกทีนึง
บอม : ขอบคุณมากเลยนะครับ
แน็ต : ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ