แน็ต: สวัสดีค่ะ แน็ตจากเพจคนใจหมา วันนี้อยู่ช่วงคุยกับคนใจหมา เรามากับปัญหาน้องหมาขี้กลัว กลัวคนแปลกหน้า ประมาณนั้นใช่ไหมคะ
หมู: ค่ะ บอกพื้นเพก่อนนะคะ เขาเป็นหมาที่เกิดในบ้านร้างนะค่ะ แล้วพี่ก็ไปจับเขามา แต่ตอนจับอาจจะ– คือเป็นบ้านที่เขาปิดไว้ค่ะเลยต้องขอกู้ภัยไปจับค่ะ เขาก็เลยอาจจะกลัวมากจากตรงนั้น แต่จริงๆเขาก็น่าจะหายกลัวแล้วนะคะ เพราะว่าเลี้ยงมาประมาณสองเดือนแล้วค่ะ ตัวอื่นก็ที่พอได้พี่ก็หาบ้านให้หมดแล้ว ก็เหลือ 2 ตัวที่ค่อนข้างกลัวมากค่ะ วิ่งขนาดเราให้ข้าวก็วิ่งแอบ จะออกมากินก็ต่อเมื่อเราไปแล้ว ตัวหนึ่งคือกลัวแต่หนี แต่อีกตัวหนึ่งกลัวจะกัดเลย เลยทำให้หาบ้านยากมากค่ะ คุณแน็ต
แน็ต: ตอนนี้หมาอายุเท่าไหร่แล้วคะ
หมู: ประมาณ 5 เดือนแล้วค่ะ จับมาตอนนั้นตั้งแต่ประมาณ 3 เดือนกว่าๆ นะค่ะ
แน็ต: โอเค หมาจรเนอะ
หมู: ใช่ค่ะ
แน็ต: โอเค คือหมาอย่างว่าแหละ การที่เราไปจับหมาอย่างนี้ บางทีจับโดยที่หมาไม่ได้พร้อมจะมา มันก็จะสามารถทำให้หมากลัวคนได้ แต่ 2 เดือนนี่ ถ้าหมาปกติเขาก็จะหายกลัวคนแล้วแหละ แต่ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า หมาแต่ละตัวพื้นเพเขาเหมือนคนนะค่ะ แต่ละคนเกิดมามีความกลัวระดับความกลัวแตกต่างกัน ขนาดพ่อแม่เดียวกัน ลูกออกมา 3 คน คนหนึ่งขี้อาย อีกคนหนึ่งกล้าออกสังคม อะไรประมาณนี้ เพราะฉะนั้นในลูกหมาฝูงหนึ่งนี่ มันก็จะมีหลุดออกมา ตัวสองตัวนี่แหละที่ขี้กลัวนะ แล้วบวกพอคือง่ายๆก็คือเขาเป็นหมาพื้นเพขี้กลัวอยู่แล้ว บวกกับตอนที่เราไปจับเขานี่เราอาจจะยิ่งทำให้มัน shock หนักกว่าเดิมก็ลงเหวกันไปเลยตอนนั้น ตรงนี้เข้าใจเนอะ
หมู: ค่ะ เข้าใจ ก็พยายามจะปลอบเขานะคะ แต่ก็ไม่ได้เป็นผลน่ะ
แน็ต: ไม่ต้องปลอบ มันจะไปปลอบทำไม หมามันไม่มีการปลอบกันอยู่แล้วค่ะ แต่คือต้องเข้าใจอย่างหนึ่งก่อนว่า การที่เขากลัวเรา เขาไม่ไว้ใจคน แล้วคนส่วนใหญ่ก็คือชอบที่จะยัดเยียดความรักในแบบมนุษย์ให้หมา อันนี้คือเรื่องปกติที่มนุษย์ทุกคนทำหมดเลยซึ่งหมาส่วนใหญ่ไม่ชอบ นั่นคืออะไร เดินเข้าไปหาเรียกจะจับจะเอามากอด เอามาจูบเอามาอะไรทุกอย่างนี้ คือหมากับหมาเขาไม่ทำกัน อย่างแรก อย่างที่สองก็คือหมาที่ขี้กลัวอยู่แล้ว การที่คุณไปเรียกเขา ไปจ้องหน้าเขา ไปพยายามไปจับเขา ในมุมมองของหมานะ มันยิ่งทำให้มันน่ากลัวกว่าเดิม
หมู: แล้วจะทำอย่างไรดีคะ
แน็ต: คุณต้องให้ space เขาคือ 2 เดือนที่ผ่านมา แน็ตเข้าใจว่าคุณไม่ได้แค่จะให้อาหารมันใช่ไหม คือน่าจะต้องมีพยายามเข้าไปจับเข้าไปเรียก เข้าไปทำอะไรบ้างแหละ
หมู: ใช่ เพราะอยากจะหาบ้านให้เขาไงคะ
แน็ต: ใช่ เข้าใจค่ะเข้าใจ อันนี้มันเป็นเรื่องของความเข้าใจผิดของมนุษย์กับหมาเนอะ หมาแต่ละตัวมันเข้าหาไม่เหมือนกัน ถ้าในกรณี 2 ตัวแบบนี้นี่ สิ่งที่แน็ตแนะนำได้ก็คือ พี่ต้องเปลี่ยนวิธีการเข้าหาเขาใหม่นะ เวลาเข้าไปนี่ไม่ต้องไปสบตากับหมา เขาอยู่ในกรงหรือเปล่า เขาอยู่ในคอกของเขาเองประมาณนั้นหรือเปล่า
หมู: ค่ะ เขาอยู่ในห้องกว้างๆนะค่ะ
แน็ต: โอเค ดี ไม่มีปัญหาค่ะ คือมันเป็นรั้วรอบขอบชิดแหละ คือมันหนีออกไปอย่างอื่นไม่ได้ ถูกไหม
หมู: ค่ะ ใช่
แน็ต: โอเค เวลาพี่ไปให้อาหารเขานี่ คราวนี้พี่จะใช้อาหารเป็นตัวเชื่อมระหว่างคนกับหมาแล้วนะ เพราะลูกหมากินเยอะช่วงนี้ เพราะฉะนั้นอะไรที่ให้เขากิน เราจะใช้อาหารนี่แหละมาเป็นตัวเชื่อมกัน วิธีเชื่อมกับหมาก็คือ เวลาที่เข้าไปในห้องเขานี่ พี่ไม่ต้องไปสบตาเขา ไม่ต้องมอง ไม่ต้องอะไรเลย ทำให้มันเป็นธาตุอากาศอยู่ตรงนั้นน่ะ งงหรือเปล่า
หมู: ค่ะ ได้ เข้าใจค่ะ
แน็ต: โอเค แล้วทีนี้นี่เข้าไปเราก็วางชามอาหาร แล้วตัวเราก็เดินออกมา แต่ไม่ออกมาจากห้องนะ คือยังอยู่ในห้องนั้นแหละแต่แค่ไม่ได้ยืนข้างๆชามอาหาร อาจจะไปยืนอีกมุมหนึ่งก็ได้ นั่งเล่นโทรศัพท์ไปไม่ต้องไปสนใจมัน ไม่ต้องสนใจเลย มันจะมากินไม่กิน เรื่องของมัน ซึ่งแน็ตเดาไว้ว่า 3-4 วันแรกไม่กินแน่นอน เพราะเขากลัว
หมู: ไม่กิน ค่ะใช่ แล้วปกติจะต้องออกจากห้องก่อน
แน็ต: ใช่ เพราะฉะนั้น อย่าออกไง
หมู: อ๋อ ไม่ออก
แน็ต: ก็ถ้าหมาเกิดการเรียนรู้แล้ว ถ้าฉันรอนานหน่อยเดี๋ยวอีนี่ก็ออกไป แล้วค่อยมากินก็ได้
หมู: เขาอาจจะรู้ตรงนั้น
แน็ต: ไม่ต้องเขาอาจจะรู้หรอก เขารู้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นเขาก็คือไม่กินไง เขาก็แค่รอคุณออกไปแล้วเขาค่อยกิน เพราะนี่คือ option ที่เขาได้มาตลอด ทีนี้นี่ลองใหม่ อย่างที่ว่าก็คือเดินเข้าไปในห้อง ไม่ต้องมองหน้าหมา ไม่ต้องอะไร ไม่ต้องสนใจอะไรมันเลย เดินไปแล้วก็วางชามแล้วก็เดินออกมาห่างๆนิดหนึ่ง อยู่ตรงหัวมุมแล้วก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไป ให้เวลา 10 นาที 10 นาทีนะ 10 นาทีหันมามันไม่กิน ยังอุดรูยังอยู่ในซอกมันอยู่ หยิบกับข้าวออกไปเลย
หมู: ให้อดไปเลย
แน็ต: ใช่ เพราะตามสัญชาตญาณหมา ถ้าหมาอยู่ด้วยกันในฝูงกันเอง หมาไม่มีอาหารให้ 24 ชั่วโมงนะคะ เขาจะได้กินก็ต่อเมื่อมีอาหารมา แล้วถ้าตัวเขาไม่มากินนี่ตัวอื่นก็มาแย่ง ถูกไหม มีแต่อยู่กับมนุษย์นี่แหละที่มนุษย์ปรนเปรอให้ทุกอย่าง คุณเอาไปเลย กับข้าววางให้เรียบร้อยตลอดเวลา อยากกินเมื่อไหร่กินได้ หมาก็เรียนรู้แล้ว งั้นกูอยากกินเมื่อไหร่กูก็กิน ทีนี้กินไม่เป็นเวลาละ ทีนี้ก็ไม่เห็นแล้วว่าเจ้าของเวลาเอาอาหารมาให้มันไม่ใช่สิ่งสำคัญแล้ว มันไม่ใช่การสานสัมพันธ์แล้ว เพราะการที่เราให้อาหารหมานี่มันเป็นการสัมพันธ์ระหว่างเรากับหมา ให้เขารู้ว่าฉันเป็นผู้ให้ ฉันเป็นคนให้อาหารแก เพราะฉะนั้นวางเอาไว้ 10 นาทีไม่กินใช่ไหม เรื่องของมึงเก็บกับข้าวออกไป
หมู: เก็บไปเลย
แน็ต: ตอนเย็นเอาใหม่ ข้อดีคือลูกหมา เขาต้องการกินเพราะฉะนั้นเราเอาเรื่องความอยากที่เขาอยากกินนี่ มาเป็นตัวเร่ง process ให้มันเร็วขึ้น ถ้าเป็นหมาโตแล้วอาจจะใช้เวลานานหน่อย แน็ตว่าถ้าลูกหมาอย่างนี้ 5 เดือนนะ ถ้าทำถูกต้องนะ ถ้าแบบไม่กดดันเขานะ ประมาณอาทิตย์หนึ่งก็น่าจะเริ่ม ก็ 2-3 วันก็น่าจะกินแล้ว แล้วเวลาให้อาหาร อย่าให้อาหารเม็ด ให้อะไรที่กลิ่นมันแรงหน่อย คลุกไก่ก็ได้
หมู: ข้าวคลุกตับ คลุกไก่ย่าง
แน็ต: ใช่ เอาอะไรที่กลิ่นแรงๆ ให้เขามีความรู้สึกว่า กูก็กลัวไอ้มนุษย์นี่นะแต่กูก็หิวว่ะ กูก็อยากกิน พอมันถึงจุดหนึ่ง แบบช่างแม่งแล้วโว้ย กูจะกิน แค่นั้นเอง
หมู: แล้วก็ออกมาเลย
แน็ต: ใช่ ให้เขารู้ว่าคือทั้งหมดทั้งปวงนี่ให้เขารู้ว่า ถ้าคนมาอาหารมา คนกับอาหารคือสิ่งที่โอเค ข้อแรกคือตรงนี้ แล้วพอการที่เราถอยออกมา 3-4-5 ก้าว เราอยู่ตรงหัวมุมแล้วเรานั่งเล่นโทรศัพท์ โดยที่เรายังอยู่ในละแวกเดียวกับเขา แล้วเขากินข้าว ทำแบบนี้สัก 2-3 ครั้ง ถ้าโอเคนะ ค่อยๆขยับเข้าไปหา จากตอนแรกเราเดินห่างจากชามข้าวมา 5 ก้าว ค่อยๆเหลือ 4 ก้าว เหลือ 3 ก้าว เหลือ 2 ก้าว เหลือ 1 ก้าว จนสุดท้ายสิ่งที่ต้องการคืออะไร ตัวพี่นั่งข้างๆชาม แล้วเขาก็กิน แต่ถ้าทำถูกต้องนะ ไอ้ตัวที่วิ่งหนีนะ ไม่ใช่ว่าไอ้ตัวที่กัดนะ ไอ้ตัวที่วิ่งหนีนี่เปอร์เซ็นต์ที่เขาจะนั่งรอเวลาเห็นคนมาหมาจะนั่งรอแล้ว กับข้าวมาคือจะไม่หนีแล้ว ส่วนไอ้ตัวที่กัด ก็อย่าเพิ่งไปยัดเยียดที่จะแตะตัวเขา เพราะว่าเขาอาจจะยังกัดได้อยู่ แต่เรากำลังจะให้เขาไว้ใจว่า การทีมีคนเข้ามาอยู่ใกล้ๆ คนไม่ได้จะมาทำร้ายเขานะ การที่เขาถูกจับแบบนั้นไป ในมุมมองของเขามันเหมือนเขาโดนทำร้าย เหมือนแบบเอาง่ายๆ ถ้าเกิดมีพี่อยู่ในห้องๆหนึ่งมีฝรั่งตัวดำเลยดำมืดเลย 3-4 คนเข้ามา อยู่ดีๆเข้ามาจับแขนจับขาแล้วลากพี่ออกไปเลย พาไปอยู่อีกบ้านหนึ่งเลยอะไรอย่างนี้ โดยที่ไม่อธิบายไม่คุยไม่อะไรเลย ในมุมมองเราก็ นี่มึงกำลังจะเอากูมาข่มขืนหรือเปล่า แต่ในมุมมองไอ้ฝรั่งพวกนั้นคืออะไร เปล่าก็เอามาให้อยู่ที่ดีๆไง นี่ไงมีบ้านที่ดี มีแอร์ด้วยนะ อะไรอย่างนี้ แต่ไม่มีการพูดไม่มีการอธิบายอะไร พี่ไม่ได้เป็นการจำยอมในการที่จะไปตรงนั้นเลย ลึกๆเราก็มีความรู้สึกกลัวว่า เหี้ยมึงรอบหน้ามามึงจะทำอะไรกูอีกหรือเปล่าวะ
หมู: อาจจะใช่ ใช่
แน็ต: เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ อาทิตย์แรกเลยก็คือวิธีนี้นะคะ แล้วค่อยๆเข้ามา แต่ถ้าสมมุติเรา 5 ก้าวแล้ว หมาเข้ามากินโดยที่ไม่มีปัญหาแล้ว พอลดลงมา 4 ก้าว หมาไม่กล้ากิน ก็ไม่เป็นไร เรารอเหมือนเดิม
หมู: ต้องถอยกลับไหม
แน็ต: ก็รอเหมือนตอน 5 ก้าวเหมือนเดิม คือ 4 ก้าวมึงเอา 10 นาทีไม่กิน กับข้าวออก 2-3 วัน เดี๋ยวอย่างไรเขาก็กิน แล้วสิ่งที่แน็ตอยากเห็นก็คือ ภายในอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์นี่ พี่ควรที่จะนั่งข้างๆชามเขาได้แล้ว แล้วเขาก็กิน
หมู: ไม่รู้จะได้หรือเปล่า คุณแน็ต
แน็ต: ถ้าพี่คิดแบบนี้ มันก็ไม่ได้ค่ะ พูดตรงๆ ถ้าเราคิดว่ามัน พี่ว่ามันไม่น่าจะได้นะ พี่จะได้เหรอ คือก็คุณยังไม่มั่นใจในวิธีที่คุณจะทำเลย แล้วอะไรจะทำให้มันสำเร็จละ ถูกไหม
เพราะฉะนั้นจะเริ่มฝึกหมา จะเริ่มปรับพฤติกรรมหมา อย่าคิดในแง่ลบ เพราะถ้าเราคิดในแง่ลบ แล้วนี่ตัวเราไม่ก้าวไปในอนาคต หมาก็ไม่ก้าวไปในอนาคตกับเรา แล้วมันก็จะลงเหวกันไปทั้งคู่
หมู: เดี๋ยวจะลองดูค่ะ ถ้าอย่างนั้นนะ
แน็ต: ใช่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าพยายามไปจ้องหน้า ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วเรานั่งข้างๆชามเขาได้แล้ว ก็ไม่ต้องไปสบตา สมมุตินี่คือชามข้าวนะ ชามข้าวอยู่นี่ใช่ไหม เรานั่งข้างๆอยู่ชามข้าว ไม่ใช่หันหน้าให้ชามข้าวแล้วก็นั่งมองกับหมา คือแค่ให้เขารับรู้ว่ามันมีมนุษย์ มีกลิ่นนี้ มีสิ่งนี้อยู่ใกล้ๆเขา ก็ไม่มีอันตรายอะไรนี่หว่า หมาพวกนี้ใช้เวลานิดนึงในการที่จะสานสัมพันธ์กันนะคะ ต้องมีความอดทนแหละ ต้องมีความอดทนสุดติ่งเลย หมาพวกนี้แต่มันได้ ได้แน่นอน 100% ล้านเปอร์เซ็นต์ อย่าบีบบังคับจิตใจมันเท่านั้นแหละ คืออย่าแบบพอ 5 ก้าวแม่งกินแล้วโว้ย อีกวันหนึ่งมาวิ่งเข้าไปจับมันอะไรอย่างนี้ มันก็ลงคูเหมือนเดิม
หมู: เพราะมีบางทีพี่ชอบไปมองตามันไง
แน็ต: ก็อย่าไปมองมันซิ
หมู: มันก็คงคือกลัวมังนี่
แน็ต: อย่าไปมอง เหมือนคนถ้าคนขี้กลัว เหมือนเราเวลาตอนเราเป็นนักเรียน นั่งเรียนอยู่ในห้องอาจารย์จะหาคนออกมาคุยหน้าห้อง นักเรียนทุกคนก็จะไม่สบหน้าไม่สบตาอาจารย์ เพราะว่าถ้าสบตาปุ๊ป กูโดนเรียกแน่นอนแล้ว อารมณ์เดียวกัน แล้วในภาษากายหมาด้วยกันนี่ การสบตาการจ้องตากัน มันคือการท้าทาย ไอ้หมาที่กลัวเขาก็จะไม่สบตา เขาก็จะฉิบหายแล้วเอามองหน้ากู ฉิบหายแล้วๆ กลัววิ่งหนีเลย ไอ้ตัวที่ดุพอสบตามันก็ อ๋อมึงเอาใช่ไหมมึงจะลองใช่ไหม
หมู: กัดเลย
แน็ต: ก็ เริ่มขู่ๆ เริ่มกัด ประมาณนั้น แต่หมาพวกนี้ต้องใช้ความอดทนสูงนะค่ะ แต่ถ้าปรับตอนนี้ปรับได้ ยังไม่ช้าเกินไป แค่ให้เขาเรียนรู้เท่านั้นแหละ ว่าต้องไว้ใจคน
หมู: แต่เรื่องแบบนี้ เหมือนกับว่าพี่ก็ต้องจัดการเองใช่ไหมคะ มีการไปเข้าคอร์สกับคุณแน็ตไหมคะ แบบนี้หรือไม่มี
แน็ต: Case แบบนี้ถ้ามามันก็คือต้องมาอยู่เลยสัก 2-3 อาทิตย์นะค่ะ แต่คือสถานที่แน็ตยังไม่พร้อม มันไม่ใช่เรื่องยาก เจ้าของทำเองได้เลย ของแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่ว่าจำไว้ว่าอย่าไปกดดันหมา แล้วก็ให้เวลามันเท่านั้นแหละ แล้วก็มีความอดทนมากกว่าหมาแค่นั้น
หมู: ก็กลัวเขาจะโตเกินที่จะไม่น่ารักแล้วไงคะ เพราะว่านึกว่า 2 เดือนที่ผ่านมาน่าจะได้แล้ว ตอนนี้เขาก็เริ่มโตแขนขายาวแล้ว เราก็เป็นห่วงอีก กลัวจะไม่ได้บ้าน
แน็ต: ถ้าคนที่จะมารับเลี้ยงหมา เหตุผลที่เขารับเลี้ยงเพราะเป็นลูกหมา คนพวกนี้พูดตรงๆนะ แน็ตไม่อยากให้หมาไปเลี้ยง
หมู: เดี๋ยวเขาจะทิ้ง ใช่ไหมคะ แบบนี้พอโตขึ้น
แน็ต: เพราะหมามันไม่ใช่ลูกหมาตลอดชีวิตนี่ พอโตไปแล้วอย่างไร แน็ตเลือกที่จะให้คนมาเอาหมาไปเลี้ยงตอนที่เขาโตแล้วด้วยซ้ำ ก็นี่หน้าตาแบบนี้ นิสัยแบบนี้ เอาไหม มันไม่แย่ไปกว่านี้แล้วแหละ แต่คนที่เอาลูกหมาไป-
หมู: ก็ต้องบอกเขาตามตรงนะค่ะ เพราะว่าตอนหาบ้าน อย่างน้อยก็ต้องให้เขาเข้าหาคนหน่อยนึงแล้วก็ต้องบอกนิสัยเขาไปด้วย เพื่อที่คนที่เข้าใจที่รับ รับได้ไงคะ เพราะบางคนชอบลูกหมา ประจ๋อประแจ๋ พอได้แบบนี้ไปเดี๋ยวเขาก็จะมีปัญหาอีก
แน็ต: ใช่ เพราะฉะนั้นตอนนี้มันคือเขาต้องเริ่มที่จะเรียน รู้จักที่จะไว้ใจกับคนใกล้ตัวเขาก่อน นั่นก็คือพี่ พี่หมูถูกหรือเปล่าคะ แล้วพอเขาเข้าใจกับพี่หมูแล้ว เขาไว้ใจกับพี่หมูแล้ว พี่หมูแตะตัวได้แล้ว พี่หมูพาไปเดินเล่น พาไปโน่นนี่นั่นได้แล้ว เวลามีคนจะมาดู เรานี่แหละก็คือต้องทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างหมากับคน หมาพวกนี้จะไม่สามารถปล่อย เอาเลยลูกมึงวิ่งเลยลูกไปหาคนแปลกหน้า มันจะไม่ไป ถามว่าหาบ้านยากไหม หามันก็ยากกว่าหมาปกติ แต่ถ้าได้และได้กับคนที่เข้าใจนะ แล้วมันคลิกกันนะหมาตัวนี้จะอยู่กับคนนั้นไปตลอดเลย แล้วจะไม่มีปัญหา เพราะพอเขาไว้ใจกับใครสักคนหนึ่งแล้ว คุณสามารถทำให้เขาทำได้ทุกอย่าง แค่ต้องสร้างความไว้ใจกันเท่านั้นแหละ
หมู: ได้ค่ะ แล้วเดี๋ยวจะลองดูนะคะ
แน็ต: สู้ต่อไป โอเคนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หมู: ค่ะ ได้ ขอบคุณค่ะ
แน็ต: ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ