แน็ต : สวัสดีค่ะ แน็ตจากเพจคนใจหมา วันนี้อยู่กับช่วงคุยกับคนใจหมา เรามากับน้องหมาไม่ไว้ใจเจ้าของ คือจริงๆปัญหามันเยอะกว่านั้นเนาะ แต่เราก็สรุปว่าเป็นไม่ไว้ใจเจ้าของละกัน คุณนุก ให้เวลา 15 นาที เล่ามาเลยค่ะว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง ย่อๆ สั้นๆ
นุก : โอเค ค่ะ ก็ตั้งแต่รับมันมา รับมันมาตอนที่มัน 3 เดือนแล้ว จากเจ้าของเก่า background ของมันคือเจ้าของเก่าเขาก็เล่าว่า มันอยู่กับหมาหลายตัว แต่ทีนี้มันจะทำตัวเหมือนเป็นจ่าฝูงนิดหนึ่ง คือมันจะชอบไปกัดตัวนู้นตัวนี้มาให้ชวนมาเล่นด้วยอะไรอย่างนี้ค่ะ อันนี้คือ background เท่าที่รู้มาเนาะ ทีนี้พอมันเริ่มมาอยู่กับเราค่ะ ตั้งแต่ตอนมันมาแล้วมันก็จะไม่ยอมให้ใครจับ จะมุกเข้าใต้โต๊ะใต้ตู้อะไรอย่างนี้ค่ะ แล้วมันก็จะให้จับได้ทีละคน ถ้าสมมติมันเดินมาหาคนนี้ คนนี้จับแล้ว คนอื่นห้ามเข้าใกล้ มันจะเห่าขู่ทันที ทีนี้พอมันเริ่มโตขึ้นมันก็เริ่มกัดด้วยอ่ะค่ะ เราก็เอามันมาไว้ที่บ้าน ส่วนใหญ่มันก็จะอยู่ในบ้าน เราก็จะปล่อยมันออกไปวิ่งตอนเช้า เพราะว่าส่วนใหญ่ทุกคนจะไปทำงานกัน มันก็จะมีอาการเหมือนแบบที่เป็นปัญหาเลยนะคะ ก็คือจะมีเจ้าของทีละคน เริ่มจากแม่ คือถ้าอยู่กับแม่ คนอื่นเดินมาแล้วมันเห็นมันจะกัดทันที
แน็ต : คือหวงคุณแม่ขึ้นมาทันทีประมาณนั้นใช่ไหม
นุก : ใช่ๆ ทีนี้อยู่กับแม่ก็ปกติ แต่ถ้าคนอื่นเดินมาก็หวงทันที แต่สมมติว่าเราอยู่กับแม่ แล้วมันค่อยเดินมา อันนี้มันจะไม่เห่าไม่กัด แต่ถ้าเราเริ่มคุยกันเสียงดัง เริ่มเสียงดัง แม้แต่หัวเราะก็ตาม เริ่มเสียงดังอะไรอย่างนี้ มันจะเริ่มพุ่งเข้ามาเลยค่ะ ก็จะเป็นทีละคน เป็นแม่ เป็นนุก เป็นพ่อ เป็นน้อง ทีนี้มันเริ่มหนักขึ้นตรงที่ว่า เวลาแม่กลับบ้านมาน่ะค่ะ มันก็จะนั่งรอแม่ พอแม่กลับมามันก็จะวิ่งไปหาแม่ แต่พอหลังๆมา แม่เปิดประตูเข้ามา แทนที่มันจะวิ่งไปหาแม่ มันก็วิ่งไปหาคนอื่นเพื่อที่จะกัด คือถ้าเจอตอนนั้นก็พุ่งเลยอย่างนี้ หรือแม้กระทั่งว่าเล่นกับเราอยู่ คืออยู่กันสบายๆนั่งเล่นกับเราอยู่ พอได้ยินเสียงเปิดประตูกิ๊ก พอนึกว่าเป็นแม่ มันก็หันกลับมากัดเราเลย
แน็ต : หันกลับมากัดเราที่เล่นกับมันอยู่น่ะนะ
นุก : ใช่ค่ะ
แน็ต : อันนี้คือเสียงประตูอย่างเดียว หรือว่าเสียงอย่างอื่นด้วย คือถ้ามีเสียงปุ๊บเขาจะหันกลับมากัด ประมาณนั้นใช่ไหม
นุก : ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงประตูอย่างเดียว คือประตูที่บ้านหนูเป็นประตูไม้ มันจะแบบมีเสียง
แน็ต : คือถ้าเกิดสมมติเล่นๆกันอยู่อย่างนี้ ถ้าเกิดมีคนเอามือไปตบโต๊ะเสียงดังๆปั้ง หมาจะหันกลับมากัดเราไหม
นุก : ไม่นะ ไม่กัด
แน็ต : เฉพาะเสียงประตูอย่างเดียว
นุก : ใช่
แน็ต : โอเค เสียงประตูอย่างเดียว แต่อันนี้ต้องกลับไปลองให้ชัวร์ด้วยนะว่ามันเพราะเสียงอื่นด้วยหรือเปล่า เพราะมันจะเป็นเหมือนคนละกรณีละ ถ้าเสียงประตูอย่างเดียว ก็ได้จะได้แก้ตรงเสียงประตูอย่างเดียว แต่ถ้าเขามีปัญหากับเสียงอื่นด้วยเนี่ย แสดงว่าเสียงของสิ่งนั้นมันไม่ใช่ปัญหาละ แต่ปัญหามันเป็นอยู่ที่ว่าเขาตกใจกลัว
นุก : อ๋อ มันจะมีว่าถ้าสมมติเป็นเสียงข้างนอกอย่างนี้ค่ะ มันก็จะวิ่งไปดูเลยว่าเป็นเสียงอะไร แต่จะไม่กัดเรา แต่ถ้าเป็นเสียงประตู เหมือนคนเปิดประตูเข้ามาอย่างนี้ อันนี้แหละ มันถึงจะแบบ พุ่งมากัดเรา
แน็ต : พุ่งมากัดเราหรอ อืม มันดูเป็นหมาโรคจิต
นุก : ใช่ มันติ๊งต๊องมากเลย บางทีถ้ามันอยู่ในบ้านน่ะค่ะ มันก็จะเห่าคนนอกบ้าน
แน็ต : อันนี้ปกติ
นุก : แต่ถ้าออกไปวิ่งข้างนอก มันก็จะไม่เห่า
แน็ต : อย่างนี้แหละปกติ เขาเรียกว่าหมาเห่าใบตองแห้งน่ะ ออกแนวเกรียนคีย์บอร์ดนิดหน่อย ถ้าอยู่ข้างหลังก็จะแบบ เจ๊ใหญ่ เจ๊เห่า แต่พอเอาเข้าจริงเจ๊ก็ไม่กล้า คือเท่าที่ฟังมา เขาไม่ใช่หมาที่เกิดมาเพื่อเป็นจ่าฝูง เพราะสังเกตได้จากที่บอกว่าซ่อนใต้โต๊ะ ใต้เก้าอี้ อันนี้คือลักษณะของหมาที่กลัว เพราะฉะนั้นเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นจ่าฝูงละ เขาเกิดมาเพื่อเป็นลูกฝูง เขาเกิดมาเพื่อเป็นคนตาม แต่พอมาอยู่กับสังคมมนุษย์อย่างนี้ ในสังคมหมามันจะต้องมีเก้าอี้อยู่หนึ่งตัว สมมตินะ ทุกฝูงเลยต้องมีเก้าอี้ตัวนี้ เก้าอี้ตัวนี้จะต้องให้จ่าฝูงนั่ง ถ้ากับหมาด้วยกันเอง เขาจัดระเบียบของเขาได้ ใครแรงเยอะกว่า ใคร inner เยอะกว่าก็จะได้เป็นจ่าฝูง ส่วนที่เหลือก็คือลูกฝูง มันก็ลดหลั่นลำดับกันลงไป พอทีนี้เนี่ยหมามันอยู่ในสังคมมนุษย์ หมามันก็เอาเทคนิกแบบเดิมกันนี้มาใช้ ในบ้านเราเนี่ย ซึ่งคือในความคิดเขาคือในฝูงเนี่ย ก็คือมีเก้าอี้อยู่หนึ่งตัว สำหรับจ่าฝูง แต่ตำแหน่งจ่าฝูงตรงนี้ยังไม่มีใครมานั่งเลย
นุก : ค่ะ
แน็ต : คือเจ้าของส่วนใหญ่ แต่อย่าไปโทษตัวเองนะ เพราะมันเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนเป็นกันหมด เมื่อก่อนแน็ตก็เป็น คือเราไม่เคยทำตัวเป็นจ่าฝูงกับเขา เพราะฉะนั้นเก้าอี้ตัวนี้ก็จะว่าง ในสังคมหมาด้วยกันเอง ถ้าเก้าอี้จ่าฝูงว่าง pack มันจะไม่สมบูรณ์ละ pack จะอันตรายละ เพราะไม่มีคนนำ เหมือนเป็นกลุ่มที่ไม่มีผู้นำ แล้วใครจะนำ แล้วฉันจะฟังใคร อะไรยังไงอย่างนี้ พอเก้าอี้ว่าง ไม่มีคนนั่ง มนุษย์ไม่เข้ามานั่งแทน หมาก็ต้องเข้ามานั่งแทน นึกออกไหม
นุก : ค่ะ
แน็ต : ทีนี้หมาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นจ่าฝูง เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำเลย เขานำไม่เป็น เหมือนคิดง่ายๆ อย่างแน็ตอย่างนี้ ให้แน็ตไปทำงานเป็นฝ่ายเซลล์ โทรศัพท์ขายของ ถามว่าแน็ตทำได้ไหม แน็ตทำได้ แต่แน็ตทำแล้วไม่มีความสุข แน็ตขายของได้ไหม แน็ตขายไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เกิดมาเพื่อขายของ มันก็เหมือนกับหมา หมาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นจ่าฝูง ถ้าให้เขามานั่งเป็นจ่าฝูง เขาก็ทำไม่ได้ เขาก็ไม่มีความสุข เขาทำไม่เป็น เขาทำอะไรไม่ได้เลย ทีนี้เรารู้ได้ไงว่าเขานั่งเก้าอี้ตัวนี้แล้ว เรารู้ได้จากการที่เขาเป็นคนบอกว่า ถ้าฉันเล่นกับคนนี้อยู่เนี่ย แกห้ามเข้ามาใกล้นะ คนนี้เป็นของๆฉัน นึกออกไหม
นุก : ค่ะ ใช่
แน็ต : เพราะเขา mark ไว้แล้ว เพราะนี่เป็นของฉัน ถ้าแกโดนเข้ามาแกโดนแน่นอน อันนี้คือนิสัยที่จ่าฝูงทำละ แต่ถ้าสังเกตเวลาเราเล่นกับแม่เราอยู่ หมาเดินมาเขาจะไม่ทำอะไรถูกไหม
นุก : ค่ะ
แน็ต : เพราะเขารู้คุณนุก mark เจ้าของแม่ไปแล้ว เพราะฉะนั้นเขามาเอาไม่ได้ ซึ่ง ณ ตรงนี้เขาก็ยังรู้ตัวแหละว่าเขาไม่สามารถคุมได้ทุกอย่าง นี่ยังไม่แย่นะ บางตัวอาการแย่กว่านี้อีก ถ้าคุณนุกคุยกับแม่อยู่มันก็เดินเข้ามากัดเลย ประมาณว่าฉันจะเอาคนนี้คืน
นุก : เคยมีนะ เคยมี
แน็ต : เคยมีเหมือนกัน ค่อยๆหลุดออกมาทีละเรื่องทีละนิดแล้วนะ
นุก : พอคุณแน็ตพูดออกมาก็เลยนึกได้ว่ามันเคยมีว่า พ่อนอนอยู่กับแม่ ทีนี้เวลานอนมันจะมานอนในห้องกับแม่ หลังๆมามันเริ่มมีว่าขึ้นมาดมก่อนว่าแม่อยู่ไหม สักพักก็จะมาป้วนเปี้ยนๆแล้วก็กัดพ่อ ก็เคยมีค่ะ แต่ไม่เสถียรนะอันนี้
แน็ต : ไม่เสถียร บอกแล้วเป็นหมาโรคจิต โอเค แต่อย่างน้อยก็คือเข้าข่ายเดียวกัน คือเขากำลังจะบอกแล้วว่า คนนี้เป็นเจ้าของฉัน ทีนี้เนี่ยสิ่งที่ทำได้ก็คืออะไร ทำได้อยู่สองอย่างก็คือ อย่างแรกเลยตัวของคุณแม่คุณนุกเองเนี่ย เขาจะต้องตั้งตัวเขาให้รู้ว่าเขาใหญ่กว่าหมา คือ ณ ตอนนี้ระหว่างคุณแม่กับหมา หมาใหญ่กว่าแม่ละ เพราะหมาเป็นคนบอกแม่ละว่าใครเข้าใกล้แม่ได้ เพราะฉะนั้นคุณแม่ step up เกมส์ขึ้นมาละ คุณแม่ต้องทำให้หมารู้ว่าแม่ใหญ่กว่า ฉันในฐานะมนุษย์จะเป็นคนบอกเองว่าใครเข้ามาได้ นั่นคือถ้าคุณแม่นั่งอยู่ เล่นกับหมาอยู่ ถ้าคุณนุกเดินมา คุณแม่จะให้คุณนุกเดินมาหา หมาจะต้องเงียบ นั่นคือถ้าเขาเริ่มยิงฟัน หรือเริ่มขู่ คุณแม่ต้องเป็นคนหยุดหมาให้ได้
นุก : ค่ะ
แน็ต : นี่คืออย่างแรกที่ต้องทำ คือคุณแม่ต้องอยู่เหนือหมาให้ได้ก่อน
นุก : ไอ้การอยู่เหนือหมาน่ะค่ะ คือมันเคยมีว่าเราจะจับมันขังกรง แต่มันก็จะเห่าตลอดจนแบบเราคุยกันไม่ได้ หรือขังกรงมันไม่ใช่วิธีที่ดีใช่ไหม
แน็ต : มันขึ้นอยู่กับว่าเอาไปแก้อะไรน่ะ การให้หมาอยู่ในกรงมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นอีกหัวข้อหนึ่งไปเลย เพราะถ้าเกิดอยู่ดีๆไปจับหมายัดกรง หมา 99.99% จะกรีดร้องและโวยวาย ประมาณ 80% จะทำลายข้าวของข้างในกรง
นุก : ใช่
แน็ต : เพราะฉะนั้นการที่อยู่ดีๆเอาเข้ากรงเนี่ย ต้องดูว่าเพราะอะไร แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราอยู่เหนือกว่าหมา การที่เราอยู่เหนือกว่าหมาก็คือการนั่งด้วยกันนี่แหละ ถ้าตัวหนึ่งเริ่มขู่เวลาใครเดินเข้ามาใกล้ เราในฐานะเจ้าของเราต้องบอกว่าหยุด คือคุณแม่ inner ต้องมาเยอะเลยนะ เพราะตอนนี้เขาทำเป็นสันดานละ หมาตัวนี้
นุก : เหมือนไม่รู้มันหูตึงไหม แต่พูดแล้วมันไม่ฟัง ต้องกัดไหม
แน็ต : ไม่เกี่ยวๆ ไม่ต้องใช้คำพูดก็ได้ เขาเรียกว่าอะไร ถ้าอย่างแน็ตพาหมาไปเดินอย่างนี้ เดินข้างนอกนะ ถ้ามีฝูงหมาที่เข้ามาใกล้เรา เราไม่ต้องตะโกนด่าหมาก็ได้ แค่แน็ตเดินเข้าไปหาหมาตัวนั้นด้วย inner ข้างในที่เราบอกหมาตัวนั้นว่า มาดิ มาฉันกัดแกนะ คืออันนี้มันต้องไปเรียนเรื่องการแสดงกันนิดหนึ่ง เคยเล่น poker ไหม poker คืออารมณ์เดียวกัน เรากำลังจะ bluff กับอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว ว่าเรามีไพ่เหนือกว่าเขา ทั้งที่เราไม่มีหรอก อารมณ์เดียวกันเลย ทีนี้เราจะตอแหลหลอกลวงยังไงให้อีกฝั่งเชื่อ กับหมาก็อารมณ์เดียวกันเลย คือไม่ต้องใช้เสียงก็ได้ ใช้คำพูดก็ได้ ใช้กายสัมผัส นั่นคืออะไร เราเอา 2 นิ้วจิ้มสีข้างเขา แต่ทีนี้ระวังนะ ถ้าจิ้มไม่ถูกมันหันมากัดแน่นอน คือ ณ ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เปอร์เซ็นต์ที่เขาจะหันกลับมากัดเราเนี่ยสูงมาก เพราะเขาทำเป็นสันดานแล้วไอ้การกัดของเขาเนี่ย
นุก : ค่ะ
แน็ต : เพราะฉะนั้นเราทำไง หาถุงมือหนาๆให้คุณแม่ใส่ก็ได้ เนื่องจากหมาเขาตัวเล็ก เขากัดไม่ค่อยเข้าเท่าไรหรอก ถุงมือแบบ ถุงมือหนังยาวๆแบบพวกช่างไฟอะไรอย่างนี้ ถ้าเขากัดมันยังลง แต่มันไม่ฝังเขี้ยวแน่นอน
นุก : ค่ะ
แน็ต : แล้วอยากให้คุณนุกไปอธิบายให้คุณแม่ฟังว่า โอเค คุณแม่จะทำอย่างไร ลองจินตนาการว่าหมาตัวนี้เป็นคุณนุก สมมติว่าเป็นคุณนุกนะ แล้วคุณนุกเนี่ยกำลังจะไปทำร้ายร่างกายเด็กคนอื่นในโรงเรียน คุณแม่จะหยุดลูกคุณแม่อย่างไรล่ะ จะใช้อารมณ์อย่างไรหยุดลูกตัวเอง นี่คือลูกเรากำลังจะไปทำร้ายคนอื่นนะ ไม่ใช่ไปเล่นตบแปะกับคนอื่น ลูกเรากำลังจะไปทำร้ายคนอื่น คุณจะหยุดลูกเราอย่างไร คุณจะหยุดด้วยเสียงอ่อยๆ หยุดสิลูก อย่าทำสิลูก คนส่วนใหญ่ทำแบบนี้กับหมา อย่านะลูก อย่าไปกัดเขานะลูก ใครจะฟัง ถูกไหม คือถ้าจะหยุดทั้งทีต้องเสียงแข็ง เฮ้ย! หยุด! ไม่คือไม่! แค่นั้นจบ นึกออกไหม ได้ยินน้ำเสียงแน็ตไหม มันต่างกันละ น้ำเสียงแน็ตคือบอกว่าก็ลองดูสิ ฉันสั่งให้แกหยุด ลองดูสิ เดี๋ยวตบให้คว่ำเลย ทั้งที่เราก็ไม่ตบเขาหรอกนะ แต่เราก็กำลัง bluff กับหมาแล้ว หรือหมาจะเสี่ยงไหมล่ะ แต่คือคุณแม่ต้องพยายามสุดเลยนะ เพราะทั้งฝูงเนี่ยคุณแม่ดูอยู่ข้างล่างสุดเลยนะ เพราะเขามาเป็นเจ้าของคุณแม่เต็มเหนี่ยวเลย
นุก : อ๋อ ค่ะ
แน็ต : อันนี้มันต้องแก้ทุกคน แต่ต้องเริ่มที่คุณแม่ก่อน คือคุณแม่ต้อง step ขึ้นมาเหนือหมาให้ได้ จิ้มเข้าสีข้างไปเลย คือจิ้มให้มันร้องเอ๋ง คือจิ้มไม่ได้ให้เขาเจ็บอย่างเดียวนะ เขาจะตกใจด้วย มันเหมือนอาการที่หมากัดกันน่ะ
นุก : โอเคค่ะ
แน็ต : เราก็ไม่ไปง่ำหมาหรอก มันก็ค่อนข้างจะโหดร้ายเกินไป แต่เราจะทำมือเป็นอย่างนี้ ทำเหมือนเป็นปากหมา เกร็งๆเลยนะ จิ้มเข้าไปให้หนักเลยนะ จิ้มแรง เพื่อให้เขารู้ว่า นี่ฉันกำลังกัดแกอยู่ แกไม่มีสิทธิ์มาหาฉันว่าใครเข้าหาฉัน ฉันจะเป็นคนบอกเองว่าใครเข้าหาฉันได้
นุก : ค่ะ โอเค
แน็ต : อย่างแรกคือคุณแม่ต้องหยุดเขาก่อน ถ้าเขาหยุดแล้วเขาฟัง แสดงว่ามันกำลังไปในทางที่ดี
นุก : โอเคค่ะ
แน็ต : อย่างที่สองคือ คุณนุก เราในฐานะคนนอก ในฐานะเจ้าของหมา มนุษย์ทุกคนควรจะอยู่เหนือหมา ไม่ใช่แค่คนเดียว ทุกคนเลย หมาควรจะอยู่ล่างเรา เพราะเขาไม่ควรที่จะมา run ชีวิตเรา เราต้องทวงบัลลังก์เราคืนมา มันก็เหมือนกัน ทุกคนในบ้านต้องทำเหมือนกัน ถ้าเขาเริ่มยิงฟัน เริ่มแยกเขี้ยว เริ่มเห่า อะไรอย่างนี้ เราก็ต้องบอกเขาให้หยุด ไม่ ห้าม แกไม่มีสิทธิ์กัดคนในบ้าน
นุก : ค่ะ
แน็ต : ไม่ว่าเขาจะเล่นกับใครอยู่ก็ตาม ถ้าเขานั่งเล่นกับเราอยู่แล้วได้ยินเสียงเปิดประตูปุ๊บ หมา react กับเสียงเปิดประตู มันจะคล้ายๆอารมณ์เดียวกับหมาบางตัวได้ยินเสียงโซ่เดินเล่น กรุ๊งกริ๊งๆ จะกระโดดเป็นหมาไฮเปอร์ไปเลย
นุก : ใช่ๆ
แน็ต : อันนี้เหมือนกัน ได้ยินเสียงประตู แล้วเขาหันกลับมากัด อันนี้ลองเลย เหมือนกัน ใส่ถุงมือหนาๆนะ คือเตรียมพร้อมเลยว่ามันกัดแน่นอน แล้วให้คนไปลองเปิดประตู ถ้าเขาเริ่มหันกลับมาปุ๊บ ตอนนี้เรารู้แล้วนี่ว่าหมาจะหันกลับมากัดเรา ช่วงที่ก่อนที่เขาจะหันกลับมากัดเรา เราฉกเขาก่อนเลย
นุก : จิ้มหรอ
แน็ต : จิ้มไปเลย ซัดไปเลยสีข้าง ให้รู้ว่า ฉันกัดแกก่อนนะ อันนี้ต้องไวนะ แต่คืออันนี้จำไว้ว่าเรารู้ว่ามันจะเกิดขึ้น
นุก : อันตรายมากเลยอ่ะ
แน็ต : นี่ตัวเองเลี้ยงชิวาว่าผสมพุดเดิ้ลนะ ไม่ใช่ร็อตไวเลอร์
นุก : อ่ะ ลองๆ
แน็ต : แต่อย่างเคสของคุณนุกน่ะ มันค่อนข้างจะคลาสสิกหนึ่งอย่าง คือหมาขี้กลัว เขาไม่ไว้ใจเจ้าของ เขาคิดว่าเขาต้องมานั่งเป็นผู้นำ แล้วเหมือนผู้นำบางคนที่ไม่มีวุฒิภาวะในการนำน่ะ ก็นำแบบล่อกๆแล่กๆ แบบไปไม่ถูกเหมือนกัน อะไรประมาณนั้น
นุก : ค่ะ
แน็ต : เพราะฉะนั้นตอนนี้เจ้าของควรจะทวงบังลังก์คือนเพื่อให้เขากลับมาอยู่ในสถานะที่ควรจะเป็น แล้วหมาจะผ่อนคลายมากขึ้น เขาจะเครียดน้อยลง เขาจะไม่มีความรู้สึกว่าเขาต้องคอยปกป้องทุกอย่างในบ้านนี้ให้ได้ ทั้งที่เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อปกป้อง นึกออกไหม
นุก : ค่ะ ใช่ๆ
แน็ต : แต่เราจะไปคุยกับเขาว่าไม่ต้องหรอก อยู่นิ่งๆแหละ เดี๋ยวฉันจัดการเอง คือมันคุยกันไม่รู้เรื่อง หูมันตึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฟังเราก็ฟังไม่รู้เรื่องอีก เราเลยต้องทำให้เขารู้สึกว่าเขาต้องไว้ใจเราได้
นุก : โอเค
แน็ต : เหมือนอย่างที่แน็ตถามไปวันนั้นว่าคุณนุกทำงานอะไรน่ะ จำได้ไหม เราทำงานอะไรนะจำไม่ได้แล้ว
นุก : ทำงานบริษัทเอกชน เกี่ยวกับ training
แน็ต : เราเป็นคน train เขาใช่ไหม
นุก : ใช่ จัดให้เขาได้ train
แน็ต : โอเค ลองนึกภาพว่าตัวเองเป็นออร์แกไนเซอร์ คุณนุกมีหน้าที่ออร์แกไนซ์ทั้ง event เลย คนนู้น คนนี้ 3 คนเลยเดินถามคุณนุกว่าจะให้ออร์แกไนซ์ event นี้อย่างไร คุณนุกต้องนั่งในตำแหน่งจ่าฝูงแล้ว เพื่อที่เราต้องบอกเขาว่า คุณยกเก้าอี้ไปตรงนั้น คุณยกโต๊ะไปตรงนู้น คุณย้ายโปรเจ็คเตอร์ไปตรงนั้น ถ้า power เราไม่พอ ถ้าเราไม่มีความเป็นผู้นำพอ ใช้คำว่าเป็นผู้นำดีกว่า สำหรับคนมันคือความเป็นผู้นำ คนก็จะแบบ เออๆ เดี๋ยวค่อยยกก็ได้ เดี๋ยวไปดูดบุหรี่ก่อน อีกคนหนึ่งก็ เออๆ เดี๋ยวค่อยยกก็ได้ ขอไปกินข้าวก่อนนะ นั่งเล่นโทรศัพท์ ว่ากันไป เราคุมฝูงเราไม่อยู่ละ
นุก : ค่ะ
แน็ต : แต่ถ้าเราเดินไปหาเขาแล้วบอก เฮ้ย ไม่ใช่เว้ย ถ้าบอกให้ยกคุณก็ต้องยก มันคือหน้าที่คุณที่ควรจะยก โดยที่เราไม่ได้ด่าเขาเลยนะ เราไม่ได้โกรธเขาเลยนะ กับหมาก็เหมือนกัน เราไม่ควรใช้ความโกรธ อย่าไปตบตี ทำไมไม่ฟังวะ อะไรอย่างนี้ แต่เราเอาความมั่นใจ เอาความมุ่งมั่นให้เขารู้ว่า เฮ้ย ถ้าในเมื่อฉันสั่งให้แกทำ แกก็ต้องทำ
นุก : ค่ะ
แน็ต : ใช้อารมณ์เดียวกัน ใช้ความรู้สึกเดียวกัน
นุก : มีอีกนิดหนึ่งได้ไหมคะ
แน็ต : ได้ค่ะได้
นุก : คือมีอีกอันหนึ่งที่ก็เป็นปัญหาเหมือนกัน คือเวลาที่แม่ออกไปข้างนอกบ้าน หมายถึงว่าไปทำอะไรอยู่ข้างนอกบ้านอย่างนี้ ก็จะเอามันไปนั่งด้วย คืออุ้มมันไปวางไว้บนโต๊ะเพราะว่ามันก็จะตามออกด้วย ทีนี้พอมีคนออกไป ถ้าเข้าไปใกล้มันหรือเข้าไปใกล้แม่ มันก็จะเห่าจะขู่ทันทีเลย นุกก็จะเดินไปชี้หน้าแล้วบอกหยุด หยุดเดี๋ยวนี้ มันก็เห่าไม่หยุดเลย หรือว่าควรจิ้มหรอ
แน็ต : มันควรจะเป็นแม่ที่จะหยุด
นุก : อ๋อ แม่ควรที่จะเดินมาสั่งมัน
แน็ต : ใช่ อย่างที่สองคือทำไมต้องให้เขานั่งอยู่บนโต๊ะล่ะ
นุก : คือไม่อยากให้เขาวิ่ง แบบว่าอาบน้ำเขาแล้ว ไม่อยากให้เขาลงพื้นแล้วเลอะอะไรอย่างนี้
แน็ต : การที่เราวางเขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า ถึงแม้ว่าจะบนโต๊ะก็เถอะ ยังไงเราก็สูงกว่าหมาอยู่ดีเวลาเราเดิน แต่ตอนนี้หมาอยู่ตำแหน่งสูงขึ้นมาแล้ว เราให้อำนาจเขาแล้ว แต่ถ้าเราวางเขาไว้ที่พื้นมันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คือตอนนี้ต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่ามันทำเป็นสันดานไปเรียบร้อยแล้ว จะวางบนวางล่างมันไม่สนหรอก เดินผ่านเดี๋ยวมันก็เห่า แต่คือต่อไปนี้อย่าวางไว้บนโต๊ะ ทุกอย่างวางไว้บนพื้น อย่าให้ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียง เพราะไม่งั้นมันจะเริ่มอารมณ์ประมาณนั้น ฉันนอนนี่ แกอย่าเข้ามานะ ทุกอย่างเป็นของฉันหมด แกอย่าเข้ามานะ เราต้องเป็นคนบอกเขาว่าอะไรที่เป็นของเรา อะไรที่เป็นของเขา
นุก : ค่ะ
แน็ต : ส่วนนี้ของบ้านเราคุณห้ามเข้า โซฟาคุณห้ามโดดขึ้น โต๊ะคุณห้ามขึ้น เราต้องจำกัดสถานที่เขาแล้ว แล้วเขาก็จะรู้แล้วว่าเราไม่ได้ไปทุกที่ได้นี่หว่า เพราะจ่าฝูงจะเป็นตัวเดียวที่ไปได้ทุกที่ที่เขาต้องการจะไป
นุก : ค่ะ
แน็ต : ฉะนั้นเราต้องยึดอำนาจตรงนี้กลับคืนมา ว่าต่อไปนี้นะห้ามขึ้นบนเตียง
นุก : โอเค
แน็ต : ถ้ามันกระโดดขึ้นเตียงปุ๊บ เตะมันลงไปเลย ไม่ต้องเตะจริงนะ พูดเล่นๆ หมายถึงว่า ดันมันลงไปเลย แล้วต้องดันจริงจังนะ เขาจะยังพยายามสองสามครั้ง แต่ถ้าทุกครั้งที่เขาจะขึ้นมาแล้วเราดันเขาลงไป แล้วถ้าจะให้ดีนะ ช่วงที่กำลังจะกระโดดขึ้นน่ะ แบบอย่าเอาตอนโดดขึ้นมาแล้วนะ แบบกำลังจะวืบขึ้นมาน่ะ ละเราห้าม หมามันจะแบบ เสีย balance
นุก : โอเคค่ะ
แน็ต : อย่างนี้เขาจะรู้เลยว่าเขาไม่สามารถที่จะตั้งท่าโดดได้ แต่ถ้าโดดขึ้นมานั่งได้แล้วแล้วไปไล่ลงมาอย่างนี้ มันก็เหมือนจะช้าไป แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร คือทุกคนต้องร่วมมือกันทำ คุณแม่ต้องเอาความเป็นผู้นำกลับคืนมา เพราะตอนนี้หมา react กับคุณแม่มากสุด เพราะฉะนั้นคุณแม่ต้อง step up game ให้มากที่สุดในบ้านเลย ณ ตอนนี้
นุก : โอเค ได้
แน็ต : ถ้าเกิดเขาโดดขึ้นมา แล้วเราปัดลง แล้วเขากัด หาหมอนอะไรก็ได้ หมอนข้าง หมอนยาวๆ หรือไม้อะไรก็ได้ แบบกระทุ้งให้มันลงไป คือกัดไปเลย กัดโดนหมอนโดนไม้ก็กัดไป แต่มันกัดไม่โดนเราอยู่ดี เราอย่าถอยหนีเท่านั้นแหละ
นุก : เออใช่ มันจะหนีด้วย ใช่ๆ เวลาที่เราจะกันมัน เราก็จะใช้หมอนข้างกัน มันก็จะฟัดกับหมอนข้างเลยล่ะ คือเหมือนถ้ามันโมโหมันต้องกัดให้ได้เลยอ่ะค่ะ
แน็ต : ใช่ เพราะเขาไม่รู้จะระบายอาการเขาอย่างไร นี่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหมาด้วยใช่ไหมคะ
นุก : ก็แค่ให้มันวิ่งตอนเช้าค่ะ ออกไปข้างนอกค่ะ มันจะมีที่ข้างนอก มันก็วิ่งไปฉี่ไปอึ เสร็จมันก็จะวิ่งมาเรียก เราก็เปิดประตูให้มันเข้ามา
แน็ต : หมาฝึกคนดีมาก เห่าเรียกให้เปิดประตู
นุก : ค่ะ ขอบคุณค่ะ
แน็ต : มีความสามารถ นั่นแหละ คือถ้าให้ดีเราอย่าปล่อยเขาออกไปเดินเอง ออกไปเดินด้วยกันนี่แหละ ตามสายจูงโดยให้เขาเดินข้างๆเรา ให้เขารู้ว่าเราเป็นจ่าฝูง เราคุมการเดินเข้าแล้ว ไม่ใช่ให้หมาลากไปฉี่ทางนั้น ลากไปอึทางนี้ หมาลากไปดมทางนู้น
นุก : โอเค
แน็ต : เรานี่แหละต้องเป็นคนบอกว่า ก็ฉันบอกให้แกเดินก็เดินกับฉันสิ อะไรประมาณนี้
นุก : อ๋อ ค่ะ
แน็ต : คือตอนนี้ทุกคนต้องทำทุกๆอย่างหลายๆอย่าง เพื่อให้มันเกิดเป็นภาพเดียวกันนั่นก็คือความเป็นจ่าฝูง ไม่ใช่ว่าทำแค่อย่างเดียวแล้วหมาจะคืดว่าคุณเป็นจ่าฝูง มันไม่ใช่ แต่หลักๆเลยก็คือ inner จากข้างในต้องมา จำไว้เราจะทำอย่างไรถ้าเราอยากให้คนอื่นฟังเรา แล้วไอ้คนอื่นที่เราอยากให้ฟังดันเป็นเด็กเกเร เราจะทำอย่างไรให้เด็กเกเรฟังเรา เราก็ต้องใช้ inner นั้นแหละกับหมาด้วย
นุก : โอเคค่ะ ลองดู
แน็ต : ลองดู ถ่ายวิดีโอมานะ แล้วอัพเดตมาให้แน็ตด้วยนะคะ
นุก : ได้ค่ะ
แน็ต : โอเค มีปัญหาอย่างอื่นอีกไหม
นุก : เดี๋ยวจัดการเรื่องนี้ก่อน
แน็ต : ดีมากค่ะ โอเคได้เลย ไปลองดูนะ
นุก : ได้ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ
แน็ต : ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ