แน็ต : ค่ะ วันนี้อยู่ช่วงคุยกับคนใจหมา episode ที่ 2
หมอพีซ : ค่า
แน็ต : วันนี้ก็มี co-host เหมือนเดิม
หมอพีซ : คนเดิมค่ะ
แน็ต : หมอพีซ
หมอพีซ : ค่ะ เพราะว่าพี่แน็ตติดใจ
แน็ต : ใช่ๆ ถูกจริตกัน เลยเอามาคุยกัน เมื่อรอบที่แล้วเราคุยเรื่อง 5 ข้อที่สัตว์แพทย์อยากจะบอกเจ้าของ รอบนี้เราก็ขอเอาบ้าง 5 ข้อที่ครูฝึกหมาอยากบอกเจ้าของ แต่บอกไม่ได้เพราะกลัวโดนตบกลับมา
หมอพีซ : เดี๋ยวพีซจะเป็นเจ้าของให้วันนี้
แน็ต : เพราะฉะนั้นเนี่ยที่เรานี้คุย 5 ข้อให้เนี่ย พึงระลึกเอาไว้ว่าเราอยากบอกเรื่องพวกนี้กับคุณนะ แต่เราไม่กล้า
หมอพีซ : จริงหรอ
แน็ต : เออ จริงนะ บางทีบางข้อมันก็ดูแบบ แล้วยิ่งเราเป็นคนพูดแบบนี้ พูดห้วนๆ นึกออกไหม มันก็อาจจะดูแรงไปเลย แต่ ณ ตอนนี้ไม่ไหวแล้วโว้ย ขอพูดหน่อยวะ
หมอพีซ : บางทีเขาก็อาจจะอยากรู้ว่าคุณครูคิดยังไง แต่ก็ไม่กล้าถามเหมือนกัน
แน็ต : เออ เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นก็พูดให้ฟังเลยละกัน ทิ่มแทงโดนใครไปก็เราจะไม่ออกน้ำ
หมอพีซ : เราจะได้เข้าใจกันมากขึ้น
แน็ต : อ่ะ ข้อแรกเลย สอนหมา เจ้าของบางคนนะไม่คิดแม้แต่จะสอนหมาตัวเอง แล้ว
หมอพีซ : เขาคิดหรือเปล่าว่าก็ฉันมาให้เธอสอนน่ะ ฉันไม่ต้องสอนก็ได้ เหมือนเอาลูกไปโรงเรียน คุณครูจัดการเลยค่ะ
แน็ต : ใช่ แต่พอคุณครูจะตีลูกอย่างเงี้ย กลับมามีปัญหา ว่าอยู่บ้านฉันไม่เคยตีลูกฉันเลยนะ เธอเป็นใครมาตีลูกฉันแล้วหมามึงก็ออกมาแนวแบบ ซัดเรียบ กัดทุกราย อะไรประมาณนี้
หมอพีซ : ที่จริงเขาควรจะไว้ใจเนาะถ้าเขาเลือกแล้วอ่ะ ว่าฉันเอาลูกฉันเข้าโรงเรียนนี้ เพราะวิธีการที่ใช้อ่ะ ใช่ไหมพี่แน็ต มันก็ต้องตามคุณครู
แน็ต : ก็ใช่แหละ แต่มันเหมือนเอาง่ายๆเลย ถ้าอยากมาเรียนกับแน็ตใช่ไหม เหมือนอย่างที่พีซเห็นบ่อยๆ ว่าแน็ตจะใส่สายจูงหมา
หมอพีซ : ค่ะ
แน็ต : ใส่เป็นสายจูงสำหรับฝึกหมา มีขายหน้าเพจ ไปซื้อได้เส้นละ 350 บาท มีการ tie-in แต่ถ้าสมมุติหมาเดินข้างๆเราอย่างนี้ แล้วหมาดึงสายจูง เราก็ต้องกระตุกสายจูงถูกไหม
หมอพีซ : ใช่ ให้เขาเปลี่ยน
แน็ต : ใช่ เพื่อดึงเขากลับมา แล้วไอ้สอน เราก็สอนให้เขาเดินข้างๆเรา ซึ่งนั่นก็เป็นหนึ่งในหัวข้อที่เจ้าของต้องการให้เราสอน แต่พอเรากระตุกสายจูงมาแบบนี้ เจ้าของทำหน้าเหมือนเราไปกระตุกเจ้าของเอง อะไรแบบเนี้ย
หมอพีซ : คุณแน็ตทำไมทำแรงแบบนี้
แน็ต : เออ ส่วนใหญ่จะไม่พูด แต่เราสามารถอ่านได้จากสีหน้า คือตา หน้าเหยเกแบบ อึดอัดใจ อะไรประมาณนี้ เราก็จะแบบ เฮ้ย ใจเย็น นี่เรากำลังสอนหมาคนอยู่ คุณไม่กล้าที่จะกระตุกสายจูงหมามันเป็นเรื่องของคุณ แต่ถ้าคุณเอาหมามาให้เราสอนแล้วอ่ะ
หมอพีซ : ต้องไว้ใจ
แน็ต : ใช่ไหม
หมอพีซ : ใช่ เข้าใจนะ
แน็ต : เหมือนแบบเจ้าของเอาหมาไปรักษากับหมออย่างนี้ แต่พอหมอจะเอาเข็มฉีดยาฉีดหมา เจ้าของบอกไม่ค่ะอย่าฉีด ฉีดไม่ได้ค่ะหมากลัว หมากลัวเข็ม
หมอพีซ : อุ๊ย มีนะ
แน็ต : ชิบหายละ มีด้วย
หมอพีซ : มี เออ ให้ทำไงเนาะ
แน็ต : ใช่ไหมๆ แล้วจะให้ทำยังไง ถ้างั้นเจ้าของเชิญออกไปข้างนอกค่ะ ไม่ต้องมอง ประมาณนั้น
หมอพีซ : เออ บางคนเขาก็รู้เอง เขาจะออกไปข้างนอก แต่อันนี้ไม่ได้เนาะเพราะเขาต้องเรียนอยู่กับเรา
แน็ต : ใช่ๆ แล้วมันก็เลยเป็นแบบว่า เฮ้ย ถ้าคุณไม่กล้าที่จะทำเองอยู่ที่บ้าน แล้วคุณเลือกที่จะให้คนอื่นเขามาสอนอ่ะ คุณมันก็ต้องรับเทคนิคเขาให้ได้
หมอพีซ : ไม่งั้นเขาต้องซื้อพี่แน็ตทั้งตัวแล้วแหละ เอาไปว้ที่บ้าน
แน็ต : ไม่ได้หรอก ไม่ไปๆ มีผัวแล้ว
หมอพีซ : ค่ะทุกคน เขามีแล้วนะคะ
แน็ต : เออ ส่วนหมอยังว่างอยู่นะคะ
หมอพีซ : ว้าย
แน็ต : มันก็เลย link มาข้อ 2 ว่าเวลาก่อนที่คุณจะหาครูฝึกหมา หรือหานักปรับพฤติกรรม เจ้าของควรจะศึกษาวิธีการสอนให้ดีก่อน ใช่ไหม
หมอพีซ : จริง เพราะถ้าเขาไปทำหน้าเหยเกมาแบบ ดิฉันไม่โอเคเลยอ่ะค่ะ ครูแน็ต แบบ ครูแน็ตโหด เราก้จะเสียกำลังใจเนาะพี่แน็ต เป็นไหม
แน็ต : ใช่ เป็น เพิ่งเจอสดๆร้อนๆมาเลย แต่เจ้าของส่วนใหญ่ที่มาหาเราอ่ะดี เพราะเขาทำการบ้านกันมาก่อน เขาจะเห็นสไตล์การคุย เขาจะรู้แล้วว่าเราเป็นคนพูดตรงๆ แล้วก็ถ้าเราฝึกหมาเนี่ยเราฝึกวิธีไหน อะไรอย่างนี้ คืออย่างบางคนนี่คือรับไม่ได้เลย แอนตี้มากถ้าจะต้องตีหมา หรือกระตุกสายจูงหมา หรือกระตุกสายจูงหมา เราก็จะบอกว่า งั้นคุณไปหา pure positive เลยค่ะ ที่แบบว่าให้รางวัลอย่างเดียว แน็ตไม่ใช่สายนั้น
หมอพีซ : อ๋อ ค่ะ ที่จริงวิธีเนี่ยมีเยอะไหมพี่แน็ต
แน็ต : จริงๆมันมีเยอะนะ เยอะแบบ ถ้าค้นในเน็ตน่ะเยอะมากเลย แต่หลักๆเลยมันก็จะมีเหมือนเป็น Alpha Balance Training ก็คือเราใช้ความเป็นผู้นำ ทำผิด ลงโทษ ทำถูก ให้รางวัล
หมอพีซ : อันนี้คือที่พี่แน็ตใช้
แน็ต : อันนี้คือที่พี่แน็ตใช้ แต่จริงๆ สิ่งที่พี่แน็ตใช้ พี่ใช้หมดทุกอย่างแหละ มันแล้วแต่สถานการณ์
หมอพีซ : อ๋อ ใช่ เพราะขึ้นอยู่กับหมาแต่ละตัวด้วยเนาะ
แน็ต : ใช่ เพราะเหมือนหมา 1 ตัว ทำแผลอย่างนี้ มันก็ต้องมีเทคนิคต่างกันไป
หมอพีซ : บางตัวต้องโอ๋ บางตัวต้องโหดๆ อะไรอย่างนี้
แน็ต : ใช่ บางตัวก็ต้องให้กำลังใจกันนิดนึง บางตัวก็มึงดราม่าเยอะไปแล้ว กูจะเลิกยุ่งกับมึง อะไรประมาณนี้ เพราะงั้นมันไม่มีอะไรตายตัว มันเป็นศาสตร์เหมือนการหาหมอ
หมอพีซ : จริง เพราะฉะนั้น ชอบศาสตร์ของใครก็ปรึกษาคนนั้น
แน็ต : ใช่ ถูกจริตใคร ก็ไปกับคนนั้น
หมอพีซ : คุยกันรู้เรื่อง
แน็ต : ใช่ อย่างบางคนแบบว่า ต้อง positive อย่างเดียว คือต้อง ภาษาไทยเรียกว่าอะไร
หมอพีซ : ให้รางวัลเท่านั้น
แน็ต : คือการฝึกวิธีนี้เขาจะรอหมาให้พฤติกรรมที่ดี แล้วค่อยให้รางวัล ถ้าไม่ดีเขาจะเพิกเฉยไปเลย ไม่สนใจ ซึ่งถามว่าหมาส่วนใหญ่เนี่ย กว่าที่มันจะมาให้พฤติกรรมดีอ่ะ มันนานนะกว่าจะมา
หมอพีซ : มันเหมือนเขาต้องลองเองเนาะ แบว่าลองทำแบบนี้ซิ อ้าว ไม่ได้แฮะ ลองทำอย่างนั้นซิ อุ๊ย แต่สงสารเขานะ ไม่ไกด์เขาซะหน่อยหรอ
แน็ต : แต่มันก็นั่นแหละ มันแล้วแต่คนว่ะ แต่เรามีความรู้สึกว่า เออ ถ้าคุณจะเลือกปรึกษาคนไหนอ่ะ ศึกษาวิธีเขาก่อน อย่าแบบว่ารู้จักคนนี้ ไปหาคนนี้ แล้วไม่ศึกษาอะไรเลย แล้วพอไปถึงปุ๊บ อ่ะค่ะ ใส่สายจูงแบบนี้นะคะ อ่ะ อย่างแน็ตอย่างนี้ถ้าเจ้าของมา ใส่สายรัดอกหมามาเลยอย่างนี้ เราก็จะบอกเจ้าของว่าเอาสายรัดอกไปทิ้งนะคะ ถ้าจะมาเรียนกับแน็ตต้องใช้สายนี้ เจ้าของก็จะตกใจว่า โอ้ คุณพระเจ้า สายนี้มันจะรัดคอหมาไม่ใช่หรอคะ เราก็จะ ใช่ค่ะ มันรัดคอหมา แต่
หมอพีซ : เพื่ออะไร
แน็ต : ใช่ ก็ต้องอธิบายกันไป รู้เรื่องก็รู้เรื่อง ไม่รู้เรื่องก็ไม่รู้เรื่อง หมาบางตัวดราม่านะ แบบใส่สายจูงกระตุกนิดนึงอ่ะ กระตุกนิดเดียวเองนะ มันร้องอย่างกับเอามีดไปเสียบมัน แบบ Oh My God! แบบกูจะตายแล้ว อะไรอย่างนี้ เราก็จะอธิบายให้ลูกค้าฟังว่าเราไม่ได้ทำอะไรนะ หมามันดิ้นของมันเองนะ ฉันยืนอยู่กับที่หมามันดิ้นมันดึงอะไรของมันเอง
หมอพีซ : ที่จริงเขาเห็นแหละว่าเราทำอะไร
แน็ต : ใช่ แต่คือคนส่วนใหญ่จะแบบ คุณทำอะไรหมาฉัน ทำไมหมาฉันร้องแบบนี้
หมอพีซ : เพราะเราแปลกปลอมไง
แน็ต : ใช่ๆ เราก็เลยจะบอกลูกค้าก่อน ต้องอธิบายทุกอย่างให้ลูกค้าฟังก่อนนั่นแหละ แต่บางทีมันก็อธิบายไม่หมด
หมอพีซ : เพราะสถานการณ์นั้นเนาะ เวลามันก็รวดเร็ว ทุกอย่างเกิดเร็วมาก
แน็ต : ใช่ ทุกอย่างจบภายใน 15 นาที ซึ่งเป็น 15 นาทีที่เจ้าของหัวใจวายได้เลยก็มีเหมือนกัน
หมอพีซ : ที่จริงมันต้องเข้าใจอ่ะเนาะ ว่าเราเข้าใจเขา เขาต้องเข้าใจเราด้วย
แน็ต : ใช่ๆ สำคัญเลยคือเราอยากให้เจ้าของรู้ว่าครูฝึกหมาเขาไม่ได้เกลียดหมานะ เขาไม่ได้ทำพวกนี้เพื่อความสะใจส่วนตัว คือไม่ได้กระตุกสายจูงเพราะว่าแบบ
หมอพีซ : เพื่อความสนุก
แน็ต : มันใช่เลย โซ่ แส้ กุญแจมือ มาทางนี้กูชอบ ไม่ใช่ คือทุกคนเขาก็มีศาสตร์มีศิลป์ในการจัดการปัญหาแต่ละอย่าง
หมอพีซ : ใช่ เพื่อให้ลูกคุณดีขึ้น
แน็ต : ไม่งั้นจะเสียตังค์มาให้สอนทำไมวะ
หมอพีซ : จริง
แน็ต : นั่นแหละ เพราะฉะนั้นจำไว้จะเอาหมาไปฝึกกับใครศึกษาวิธีให้ดีก่อน ถามเขาก่อนก็ได้ว่า ขอโทษนะคะ หมาดิฉันมีปัญหาแบบนี้ๆ ไม่ทราบว่าครูฝึกใช้วิธีฝึกแบบไหน ถ้าครูฝึกคนไหนเลือกที่จะไม่ตอบนะ อย่าไปฝึก เพราะถ้าครูฝึกยังไม่มั่นใจในวิธีที่ตัวเองฝึกเลยอ่ะ คือแบบไม่มั่นใจเพียงพอที่จะอธิบายให้เจ้าของฟัง แล้วคุณจะฝึกได้ไง
หมอพีซ : บางคนเขากั๊กไหม
แน็ต : กั๊ก มี ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่ามันจะไปกั๊กทำไมวะ
หมอพีซ : เออเนอะ เพราะว่าให้ข้อมูลไป หมามันก็ยังไม่ได้เปลี่ยน เพราะยังไม่ได้เริ่มทำเลย
แน็ต : ถูก ใช่ เพราะเจ้าของก็ทำไม่ได้ เพราะถ้าเจ้าของทำได้มันก็หายแล้วแหละ
หมอพีซ : จริง
แน็ต : เพราะถ้าเราให้ข้อมูลไป แล้วเจ้าของทำเองแล้วหายอ่ะ มันก็ดีกว่าไหม ถูกไหม อย่างน้อยก็ช่วยไปอีกหนึ่งเคส
หมอพีซ : ใช่ จริง มันสิ่งสำคัญมากด้วยนะ ถ้าเจ้าของควบคุมหมาได้นะ มาหาหมอก็ง่ายเลยค่ะ
แน็ต : ใช่ มันส่งทุกผลเลย อย่างเคสที่ไปเจอมาอันนึงเนี่ย คือแตะไม่ได้เลย ห้ามแตะเลยนะ แตะหน้าแล้วมันซัดอย่างเดียวเลยนะ แล้วหมา ก็กลายเป็นว่ามีปัญหาในเรื่องหายใจ เอาไปหาโรงพยาบาล เจ้าของก็ อันนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลประจำเขา ไม่ใช่หมอประจำเขา หมอจับหน้าไม่ได้ นู่นนี่นั่น แล้วหมามันจะตาย แล้วทำอันนี้ก็ไม่ได้ ยังไงละเนี่ย
หมอพีซ : แล้วเจ้าของเขาบังคับได้ไหมคะ
แน็ต : ไม่ได้
หมอพีซ : ไม่ได้ ตามใจหมาเลย
แน็ต : ถูก คือตามใจหมาเลยอ่ะ
หมอพีซ : หมอก็ยากเลยนะเนี่ย
แน็ต : ใช่ คือเราก็บอกอธิบายให้หมอฟังก่อนว่า เนี่ยมันสถานการณ์แบบนี้นะ เจ้าของเป็นแบบนี้นะ โดยที่เจ้าของไม่ได้ยิน แต่ก็นั่นแหละ แล้วสุดท้ายถ้าเกิดขึ้นเตียงจริงๆอ่ะ ผู้ช่วยหมอเขาก็ต้องล็อคถูกป่ะ
หมอพีซ : ใช่
แน็ต : แล้วมันก็ยิ่งแบบไปทำให้หมาเครียดกว่าเดิม
หมอพีซ : จริงค่ะ
แน็ต : แล้วเจ้าของก็ยิ่งหัวใจจะวาย
หมอพีซ : ค่ะ หมาก็เช่นกัน
แน็ต : เออ คือทุกคนจะตายกันหมดแล้ว
หมอพีซ : คือทุกอย่างยากไปหมดเนาะถ้าอย่างนั้น
แน็ต : ซึ่งของพวกนี้ถ้ามันสอนกันได้ก่อนที่มันจะไป มันก็จะดี นั่นแหละ
หมอพีซ : จริงด้วย ทุกคนก็จะสบายใจ
แน็ต : เออ สอนแล้วเนี่ย สอนแล้วอ่ะ เอากลับไปทำตาม
หมอพีซ : ค่ะ ดีแล้วนี่สอนแล้วเอากลับไปทำตาม ก็ดีแล้วนี่
แน็ต : เออ เจ้าของส่วนใหญ่ไม่ไง
หมอพีซ : อ้าวหรอ
แน็ต : เรียนกันแค่ 2 ชั่วโมงเนี่ย มีบางคนนะ 2 ชั่วโมงนะ เราสอนเจ้าของนะว่าให้หมาเดินข้างๆ 2 ชั่วโมงโอเค พอจบปุ๊บนะ จากสถานที่เรียนเดินกลับไปรถนะ แม่งให้หมาลากเดินกลับรถเลย
หมอพีซ : เหมือนเดิม คุณครูไม่อยู่แล้ว
แน็ต : คุณครูเดินตามหลังอยู่ คุณครูอยากจะเอามีดเสียบมากเลย
หมอพีซ : ออกนอกห้องเรียนปุ๊บ
แน็ต : ก็กลับไปเหมือนเดิม อะไรประมาณเนี้ย แล้วกลับบ้านไปก็ไม่ฝึกต่อ
หมอพีซ : แล้วเขามีแบบว่ามาปรึกษาเราอีกไหม ครูแน็ตคะ ไม่เห็นดีขึ้นเลย
แน็ต : มี แต่ส่วนใหญ่ก็คืออาทิตย์หน้ากลับมาเรียนต่อเงี้ย ก็ไม่หาย ก็กลับมาลากเหมือนเดิม ก็กลับมาแก้ปัญหาเดิมๆอะไรอย่างนี้ ซึ่งเราก็แบบว่า หนึ่งมันเสียตังค์คุณน่ะ ถูกไหม เสียเวลาคุณ เสียเวลากูด้วย เพราะแบบ แทนที่อาทิตย์นึงเรียนวันนี้ อาทิตย์นึงแทนที่คุณจะกลับไปฝึกต่อ คุณไม่ฝึก ปล่อยให้หมาทำตามใจทุกอย่างเหมือนเดิม อาทิตย์หน้าต่อมาก็กลับมาเริ่มใหม่ แล้วก็กลับไปเหมือนเดิม อีกอาทิตย์นึงมา ก็กลับมาเรื่องเดิม กลับมาเริ่มต้นใหม่เรื่อยๆ
หมอพีซ : ถ้าอย่างนั้นต้องซื้อพี่แน็ตไว้ที่บ้านแล้วล่ะ อย่างนี้ นี่เหมือนกันนะคะ มีเคสมาเหมือนกัน มาบอกว่า เนี่ย ไปโรงเรียนแล้วก็ยังแบบอย่างนี้ค่ะคุณหมอ ถ้าเราไม่รู้จักกันนะพีซก็จะบอกว่า ทำไมไปโรงเรียนแล้วไม่หาย
แน็ต : โทษโรงเรียน
หมอพีซ : เออ แต่ว่าพอเรารู้จักกันอย่างนี้ พีซก็เลยถามเขาว่าโรงเรียนนี่คือเอาหมาไปฝากไว้เลยให้เขาจัดการหมา หรือเราไปกับเขาด้วย ไปเรียนกับเขาด้วย เขาก็บอกว่า คือร้อยทั้งร้อยอ่ะค่ะพี่แน้ต เอาหมาไปโยนให้โรงเรียน จัดการเลยค่ะ โรงเรียนสอน เสร็จปุ๊บ กลับมาเหมือนเดิม พีซก็เลยถามเขาไปว่าแล้วคืออยู่ที่โรงเรียนน่ะ คนที่คุมเขาอ่ะ คือคุณครู แต่กลับมาบ้านน่ะ ถ้าเจ้าของไม่ทำเหมือนคุณครู หมาก็จะไม่รู้ เพราะว่าหมาเขาเลือกปฏิบัติ คือพูดง่ายๆหมาเขาเลือกปฏิบัติ ทีนี้เขาก็ อ้อ จริงด้วยค่ะ พีซก็เลย ค่ะ กลับไปฝึกใหม่เนาะ
แน็ต : แต่นั่นแหละ แล้วก็มาเยอะนะ กลับมาแบบ เสียตังค์ไปเยอะมากเลยไม่เห็นหายเลย
หมอพีซ : เออ บางทีก็โทษคนอื่นเนาะ
แน็ต : ซึ่งเราก็แบบ มันจะไปหายยังไงเล่า
หมอพีซ : เป็นความในใจมากๆ จากก้นบึ้ง
แน็ต : มันเป็นความในใจจริงๆ อย่างบางคนมาอย่างนี้ ดั้นด้นมาจากกรุงเทพฯมาเรียนถึงชะอำ ลงคอร์สไว้ 5 ครั้ง 3 ครั้งละ ยังไม่ผ่านประเด็นให้หมาเดินตามสายจูงอ่ะ แล้วพอเราสืบไปสืบมา ถึงได้รู้ว่ากลับไปก็ไม่มีเวลาสอนหมาหรอก ทำงานเลิกดึกต้องเลิกตอนเช้า บลาๆๆ คือมีข้อแก้ตัวตลอดเวลา จนเรามีความรู้สึกว่า เฮ้ย ถ้าคุณไม่มีเวลาให้หมาคุณน่ะ อย่าเลี้ยง
หมอพีซ : จริงค่ะ เวลาสำคัญมาก
แน็ต : ใช่ เพราะเขาก็เป็นหนึ่งชีวิตเนาะ
หมอพีซ : ใช่
แน็ต : มันไม่ใช่แบบว่าเป็นพระอิฐพระปูน ตุ๊กตา 1 ตัวที่ตั้งเอาไว้
หมอพีซ : ที่ปิดสวิตช์ได้ว่าตอนนี้เธอไม่ต้องการอะไรหรอก ปิดสวิตช์ เพราะฉันไม่ว่าง
แน็ต : เออ ไม่ใช่เฟอร์บี้
หมอพีซ : ใช่
แน็ต : เดี๋ยวนี้มันยังมีเฟอร์บี้อยู่ไหมวะ
หมอพีซ : เล่นยังไงนะ
แน็ต : ที่มันเหมือนตุ๊กตาไง แบบปิดเปิดได้ คือหม่มันไม่ใช่นะ
หมอพีซ : ป้อนอาหารเงี้ยหรอ
แน็ต : แต่คือหมามันต้องให้เวลามากกว่านั้น
หมอพีซ : ใช่ เพราะว่า มีคนเอามาหาหมอเหมือนกัน แล้วก็บอกว่า ไม่รู้ค่ะ พี่ไม่รู้ พี่ไม่ได้อยู่กับเขา อ้าว แต่พี่เลี้ยงเขานะ
แน็ต : เราก็มีความรู้สึกว่า ถ้าเกิดคุณยังไม่สามารถหาเวลาพวกนี้มาได้น่ะ อย่าเอาหมามาเลี้ยง
หมอพีซ : จริง เหมือนเลี้ยงลูก
แน็ต : ต่อให้รักหมาแค่ไหนก็ตาม ต่อให้คุณเป็นคนรักสัตว์แค่ไหนก็ตาม เพราะถ้าคุณไม่มีเวลาให้เขานะ เฮ้ย เลิกเถอะ เพราะถ้าหมาป่วยขึ้นมาแล้วคุณดูแลหมาได้ไหม ก็ไม่ได้
หมอพีซ : ยังบอกอาการไม่ได้เลย บางคนน่ะ
แน็ต : ใช้แล้วถ้าหมาต้องกินยาตลอดเวลา ทำได้ไหม ก็ทำไม่ได้ ถูกไหม
หมอพีซ : ใช่ ถูก
แน็ต : เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้มันสำคัญจริงๆนะ การเลี้ยงหมา 1 ตัวนี่ก็เหมือนมีลูก 1 คน
หมอพีซ : เหมือนสอนลูกนั่นแหละเนาะ อ๋อ พี่ไม่มีเวลาสอนลูกค่ะ ก็เลยเอาลูกไปเข้าโรงเรียนประจำ ก็น่าเศร้าสำหรับเขานะ
แน็ต : อืม น้องเกิดมา น้องก็ต้องมาใช้ชีวิตอะไรเนี่ย โอ๊ย ไม่เข้าใจอ่ะ
หมอพีซ : ต้องมาอยู่กับคนอื่น
แน็ต : เนี่ย มันก็จะมาโยงเข้าข้อที่ว่า หมาไม่เปลี่ยนถ้าคนไม่เปลี่ยน ฟังดูเหมือนง่ายๆ แต่ไม่ใช่ เพราะอะไร เหมือนที่เมื่อกี้ตัวเองว่า เจ้าของส่งหมาไปโรงเรียน อยู่โรงเรียนครูฝึกสอนอย่างหนึ่ง พอกลับมาบ้านปุ๊บเจ้าของยังเหมือนเดิม แล้วยังทำนิสัยเหมือนเดิม ทำทุกอย่างเหมือนเดิม
หมอพีซ : เหมือนตอนที่ก่อนส่งเขาไปเรียน
แน็ต : ใช่ เพราะฉะนั้นหมากลับมา หมาก็กลับมาเจอสิ่งแวดล้อมเดิมๆ
หมอพีซ : เคยเอาแต่ใจยังไง ก็ยังทำได้
แน็ต : ใช่ๆ เพราะคนนี้ไม่เอาจริงนี่หว่า คนนี้แน่จริง ไม่เหมือนครูฝึก ครูฝึกคือ เฮ้ย นั่งต้องนั่ง เงียบต้องเงียบ อะไรประมาณนี้ เพราะฉะนั้นเจ้าของต้องเปลี่ยน หมาถึงจะเปลี่ยน
หมอพีซ : ใช่ ต้องตั้งใจ ใจแข็งเท่าครูฝึก หมายถึงว่าแบบต้องมีความอดทนนเนาะ
แน็ต : ใช่
หมอพีซ : เขายังลังเลอยู่ ยังไม่ทำตามแบบนี้ต้องพยายามอีกหน่อยนึง บางคนแบบยอมแพ้ง่ายไง
แน็ต : ใช่ ไม่มีความอดทน หมามีความอดทนสูงมาก สูงมากๆจนบางทีแบบว่า คุณพระ ยอมแพ้ซะทีเถอะ กูเหนื่อยแล้ว แต่อย่างแบบเคสล่าสุดที่เราไปรับปรึกษามาอย่างนี้ เจ้าของบอกว่า ไม่เข้าใจเลยค่ะ พอหมาไปอยู่กับครูฝึกนะมันเป็นแบบนี้ ทำไมครูฝึกจับปุ๊บปั๊บ หมาทำได้ทุกอย่างเลย แต่ทำไมเรากลับมาทำเองทำไม่ได้ เราก็จะบอกเขากลับไปบอกว่า ถ้ามาหาครูฝึกอ่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับหมายังไม่มี รักหมาไหม รัก แต่ไม่ได้รักตัวนี้เหมือนลูก ก็รู้เป็นสัตว์โลก 1 ตัว นึกออกป่ะ
หมอพีซ : คือก็ไม่ทำร้ายเขา ไม่ทำให้เราเจ็บปวด
แน็ต : ใช่ ไม่ได้เดินไปอยู่ดีๆ ตบหมาป้าบ อะไรเงี้ย คือไม่ใช่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเจอหน้ากัน ถ้าดึงสายจูง ฉันก็ต้องกระตุกอ่ะ ใช่ แล้วถามว่าแน็ตกระตุกแรงไหม ก็ต้องกระตุกแรง แต่ถ้าให้เจ้าของมากระตุก เจ้าของจะไม่กล้ากระตุกแรง เพราะเจ้าของจะสงสารมัน อะไรเงี้ย เราถึงบอกว่าถ้ามาเรียนกับเราเนี้ย เราจะสอนเจ้าของ เพื่อให้เจ้าของกลับไปเรียนรู้กับหมาต่อ เพราะสุดท้ายแล้วเจ้าของคือคนที่ต้องเปลี่ยน
หมอพีซ : เพราะเขาคือคนที่อยู่กับหมาตลอด
แน็ต : ใช่
หมอพีซ : ตลอดไปต่อจากนี้ หรือเขาจะซื้อครูฝึก
แน็ต : ไม่ๆๆ ครูฝึกไม่ไป ถ้าคุณหล่อล่ำอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที แต่มันจะเหมือนคล้ายๆแบบว่า ถ้าสมมติเวลาเจ้าของเอาหมามาหาหมอ เจ้าของส่วนใหญ่จะ create สิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีมาละ ตั้งแต่อยู่บ้านละ เชื่อว่าเจ้าของส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวหรอก แต่ส่วนใหญ่จะเป็น จะชอบพูดบิ๊วด์หมาประมาณว่า จะไปหาหมอแล้วนะ เนี่ยดื้ออย่างเนี้ยต้องพาไปหาหมอ
หมอพีซ : แล้วมันเข้าใจหรอ
แน็ต : มันไม่เข้าใจคำพูด แต่มันเข้าใจอารมณ์ แบบ เดี๋ยว ใจเย็น อีนี่ วันนี้เปลี่ยนไป
หมอพีซ : ถ้าพูดแบบนี้แปลว่าอีกสักพักจะต้องไปเจอหมอ
แน็ต : อะไรเกิดขึ้น งง อะไรประมาณเนี้ย แต่ถ้าเกิดเราเอาเขาขึ้นรถไปหาหมอ เหมือนกับการที่เอาขึ้นรถไปสวนสาธารณะ หมาก็จะแบบ อ้าว วันนี้ไปไหน ไม่รู้เรื่องเลย
หมอพีซ : เออเนาะ มันน่าจะสงสัยนะว่า เอ๊ จะไปไหนน้า
แน็ต : เหมือนอย่างถ้ากับคนน่ะ พ่อแม่ก็จะแบบ
หมอพีซ : นี่เลย ถ้าดื้อหมอจะฉีดยา
แน็ต : เออ นั่นแหละ อย่างนั้นแหละ
หมอพีซ : ลูกก็จะแบบ หมอเป็นใครวะ แล้วทำไมต้องมาฉีดยา
แน็ต : คือถึงแม้ว่าลูกไม่เคยเจอเข็มฉีดยานะ แต่ฟังจากน้ำเสียงคำพูดที่แม่ใช้ขู่ ฉีดยานี่ต้องเป็นเรื่องที่แย่มากแน่ๆ
หมอพีซ : จริง ถึงเอามาขู่เรา
แน็ต : ใช่ ถ้ามันไม่แย่คงไม่เอามาขู่หรอก ถูกป่ะ
หมอพีซ : ใช่
แน็ต : กับหมาก็เหมือนกัน มันก็เลยจบที่กลายเป็นว่าหมาตัวไหนเจอหมอ ก็จะสติแตกแล้วก็กลัว
หมอพีซ : เออใช่ ทั้งๆที่บางตัวไม่รู้เลยนะ แบบว่ามาครั้งแรกฉีดวัคซีนค่ะ ก็ทำท่ากลัว เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย
เพราะงั้นมันก็เหมือนว่ามาเจอคนใหม่ 1 คนน่ะ
หมอพีซ : ใช่ make sense มากเลย พีซไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยนะ เพราะคิดว่าหมาเขาไม่รู้เรื่องหรอก แสดงว่าภาษากายสำคัญมากๆ
แน็ต : ภาษากายสำคัญ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสื่อออกมาจากตัวเราเองกับหมามันสำคัญมาก เขาจะรับรู้เลยว่าบางอย่างมันกำลังจะมาละ เพราะแม่กูเปลี่ยนไป
หมอพีซ : เออ เพราะผู้หญิงก็ชัดเจนเลยพี่แน็ต
แน็ต : ใช่ไหม
หมอพีซ : ใช่ๆ
แน็ต : ชัดเลยเลยใช่ไหม
หมอพีซ : เออใช่ พอเนี่ยย้อนกลับไปละ เริ่มเข้าตัวเอง
แน็ต : ซะงั้นน่ะ
หมอพีซ : ใช่ๆ จะไปหาหมอ!
แน็ต : เออใช่ไหม แล้วก็จะเริ่มขู่ เริ่มมา เริ่มเยอะละ
หมอพีซ : ใช่
แน็ต : จากที่ปกติ ทุกทีแทนที่จะแค่จับหมาลงมา เอาใส่สายจูงลงมา เดินเข้าไปหาหมอนั่งรอ ไม่ต้องอะไร อ่ะเก่งมากๆ อ่ะ ยกขึ้นเตียง นู่นนี่นั่น เก่งมากๆ ปกติ
หมอพีซ : คือตอนเด็กๆ เวลาพ่อพาหมาที่บ้านไปหาหมอ เวลาจะอุ้มหมา แกจะเกร็ง เกร็งเหมือนแกจะไปหาหมอเอง แล้วหมาคงรู้อ่ะ
แน็ต : เราก็คงไม่ค่อยชอบหมออยู่แล้วใช่ไหม
หมอพีซ : ใช่
แน็ต : เพราะเรารู้เลยว่าเราเป็นคนกลัวเข็ม แน็ตโคตรกลัวเข็มเลย เวลาหมอจะฉีดวัคซีนหมา เราจะไม่เอาตัวเราเข้าไปอยู่ในนั้นเลยเว้ย
หมอพีซ : แต่เราไม่โดนนะ
แน็ต : มันทำใจไม่ได้ ทำใจไม่ได้จริงๆ เราจะให้สามี บอกพอล มาจับหมา แล้วหมอก็จะงงว่าทำไมล่ะ เราก็บอกเราก็กลัวเข็ม ตอนนี้ฉันไม่ใช่พลังงานที่ดีที่จะให้หมาแล้วตอนนี้ นึกออกป่ะ คือเรารู้ตัวเรา เราก็จะเฟดตัวออกไป ถ้าเกิดคุณเป็นเจ้าของคนเดียว แล้วคุณก็กลัวเข็มด้วย อันนี้มันก็ซวยคุณละ
หมอพีซ : หมามันก็รู้อ่ะเนาะว่าแม่เรากลัว
แน็ต : เออ ขนาดแม่กูยังกลัวเลยแล้วกูจะไม่กลัวได้ไงวะ
หมอพีซ : ถูก อะไรก็ไม่รู้แหละ
แน็ต : ฉะนั้นสำคัญมาก คล้ายๆอีกประเด็นหนึ่งคือเวลาเจ้าของออกจากบ้าน แบบว่าจะไปทำงานแล้วทิ้งหมาเอาไว้ที่บ้าน แทนที่มึงจะออกไปเงียบๆ ต้องทำให้มันเป็นดราม่า
หมอพีซ : อ๋อ แบบว่า บ๊ายบาย ไปแล้วน้า อยู่ดีน้า
แน็ต : เออ คิดถึงน้า เดี๋ยวกลับมาจะซื้อขนมมาให้กินน้า เดี๋ยวแม่ไปทำงานนะแม่จะได้หาเงินมาให้หนูกินนะ
หมอพีซ : ไม่ทิ้งนะ ไม่ทิ้ง
แน็ต : แล้วนึกสภาพ นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่หมารู้ก่อนที่คุณจะออกนอกประตูไป
หมอพีซ : เออใช่ ทุกครั้งที่คุณทำแบบนี้
แน็ต : แล้วหมาก็จะแบบ เฮ้ย มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอวะ คือแบบแทนที่จะจบแบบเฉยๆ ดันจบแบบดราม่า แล้วพอดราม่าปุ๊บ ช่วงเวลากี่ชั่วโมงไม่รู้แหละ หรือบางทีแค่ 10 นาทีน่ะ ที่เจ้าของไม่อยู่ตรงนั้น แต่หมาเขายังมีอารมณ์ค้างอยู่น่ะ เค้าก็จะแบบ เฮ้ย ทำไงอ่ะ จะกลับมาไหม แล้วถ้าไม่กลับมาแล้วกูจะอยู่ยังไง ก็เริ่มทำลายข้าวของ เริ่มเห่าเริ่มหอนเริ่มโวยวาย แล้วพอเจ้าของกลับมาทีก็แบบ โฮๆ ฉันนึกว่าเธอจะไม่กลับมาแล้ว แล้วแทนที่เจ้าของกลับมาบ้านนะจะแบบพูดธรรมดาว่า กลับมาละนะ
หมอพีซ : ทำเหมือนปกติ
แน็ต : เออ ไม่
หมอพีซ : จะเสียงสูง คิดถึงจังเลย
แน็ต : เข้าไปขยำๆ คิดถึงมาม๊าไหม คิดถึงมากเลยนะ งุ้งงิ้งๆ อะไรอย่างนี้ แล้วหมาก็จะแบบ เฮ้ย นี่มันแย่มากเลยนะเนี่ย อะไรอย่างนี้ เห็นภาพไหม
หมอพีซ : เนี่ย เห็นภาพเพราะมีเหมือนกัน เคส สมมตินะว่า ต้องแอดมิท คืนเดียว สมมติทำหมัน เจ้าของก็บอกว่า คุณหมอคะ ให้เขาอยู่กับคุณหมอเลยละกันจนแบบแน่ใจว่าแข็งแรง เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มารับ อะไรอย่างนี้ แต่ก่อนไปเจ้าของก็จะแบบ ไม่ทิ้งนะไม่ทิ้ง อยู่กับคุณหมอนะคะ นู่นนี่ๆ พอหลังจากนั้นน่ะ โอ้โห หมาเห่าทั้งวันทั้งคืน แล้วทุกคนก็จะคิดว่า อ๋อ มันติดคนค่ะ
แน็ต : เปล่าเลย
หมอพีซ : เขาคง sense ได้แหละ
แน็ต : ใช่ sense ได้ว่าบางสิ่งบางอย่างมันไม่ปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะเจ้าของทำแบบนี้หมาถึงเป็นแบบนี้ มีเหมือนกันที่เจ้าของไม่ได้ทำแบบนี้ แต่หมามันเป็นเอง
หมอพีซ : อ๋อ ยากละ
แน็ต : เออ ซึ่งไอ้พวกนี้มันก็ต้องไปฝึกกันต่อไป แต่ประเด็นส่วนใหญ่ก็คือ 90% จะเป็นเพราะเจ้าของ หมาไม่รู้เรื่องหรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่ามึงเดินออกนอกประตูไปเนี่ยมึงแบบดูเครียดมากเลยอ่ะ แถมกลับมามึงก็ดูเครียดมากเลย มันดูไม่ใช่
หมอพีซ : เพราะงั้นฉันป้องกันตัวดีกว่า
แน็ต : ใช่ๆ เพราะงั้นมันต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเกิดมาแน่ๆเลย อะไรประมาณเนี้ย
หมอพีซ : ละเอียดอ่อนมาก
แน็ต : ใช่ เจ้าของไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าเป็นเพราะเจ้าของนี่แหละ ที่ทำให้หมาเป็นอย่างนี้
หมอพีซ : แล้วเวลาเตือนฟังเปล่า
แน็ต : เจ้าของอ่ะนะ ส่วนใหญ่เราเตือนไม่ได้หรอก ต้องให้เขาคิดเอง
หมอพีซ : เออจริงเนาะ เขาอยู่อย่างนั้นมาตลอด ก่อนมาเจอเราอีก
แน็ต : ใช่ แล้วส่วนใหญ่ก็คือเราจะไม่พูดอะไรเลย เราจะถามว่าถ้าอย่างนี้เวลาจะออกไปนอกบ้านทำยังไง อ๋อ พี่ก็ลาหมาเฉยๆ เราก็จะ อ่ะไหนทำให้ดูหน่อยได้ไหมคะ ซึ่งคนส่วนใหญ่มันจะโกหกเว้ย
หมอพีซ : ใช่ คือเขาจะเกร็งนิดนึง แล้วความดราม่าจะลดลง
แน็ต : ใช่ ซึ่งเราก็รู้ว่ามันไม่ใช่ ไม่ใช่วิธีนี้ อันนี้มันไม่ใช่วิธีที่คุณทำ
หมอพีซ : พี่แน็ต แต่มันก็เหมือนแบบว่า เวลาคุณกระตู้วู้เรื่อง อะไรดีอ่ะ เรื่องได้ของใหม่หรืออะไรอย่างเงี้ย สมมติเขากระตู้วู้ประมาณนึง แล้วอยู่ดีๆคุณไปบอกเขาว่า ไหนแสดลงให้ดูซิ เดี๋ยวจะอัดวิดีโอ
แน็ต : อืม แข็งละ
หมอพีซ : อ่ะ ความกระตู้วู้จะแบบน้อยลง ฉันจะไม่เป็นตัวเอง
แน็ต : ใช่ แต่พอเราเห็นว่าเจ้าของอ่ะ บางทีมันก็ sense ได้นะว่าเจ้าของกำลังจะโกหกละ
หมอพีซ : เออ ตาแข็ง
แน็ต : เออๆ ร่างกายแข็ง เราก็จะเริ่มทำให้ดูว่าคุณได้ทำแบบนี้ไหม เจ้าของก็ ใช่ๆ เราก็รู้เรื่อง เข้าใจละ อะไรมาเนี้ย แล้วหลักๆนะ ส่วนใหญ่คือเวลาเจ้าของเดินกับหมา เดินตามสายจูงอ่ะ แล้วหมามันก็ดึงอยู่นั่นแหละ เจ้าของก็กระตุกอยู่นั่นแหละ กระตุกอีกหมาก็ดึงอีก เราก็จะบอกเจ้าของว่า อ่ะ เจ้าของหยุด ก่อนที่จะคุยเรื่องหมา ตอนนี้รู้สึกอะไร
หมอพีซ : อ๋อ กังวล
แน็ต : เจ้าของ 80% 90% จะตอบ ก็เฉยๆนี่คะ
หมอพีซ : อ๋อ เออ
แน็ต : เราก็จะจริงหรอ เฉยจริงหรอ อย่าโกหกนะ เพราะหมามันสื่อทุกอย่าง เขาบอก ก็เฉยๆค่ะไม่ได้อะไรเลย แน็ตบอกคิดดีๆ เอาลึกๆ ไม่ใช่เอาเอาความรู้สึกแบบตื้นๆน่ะ ลงไปลึกอีกตอนนี้รู้สึกยังไง
หมอพีซ : กังวลอะไรอยู่
แน็ต : อืม คุณหงุดหงิดไหม คุณโกรธไหม คุณเครียดไหมตอนนี้ เจ้าของก็จะบอก ก็ไม่นะ แต่ก็รำคาญอ่ะที่มันดึงอยู่นั่นแหละ แน็ตบอกก็นั่นไง เขาเรียกว่าหงุดหงิด นึกออกป่ะ พอเขาบอกว่าเนี่ย พอหาอารมณ์ตัวเองได้ พอเขารู้ว่าตัวเองอารมณ์ไหนอ่ะ เราก็แก้ตรงนั้นแหละ แต่อย่าไปคาดหวังว่าหมามันจะเดินตามสายจูงข้างๆดี โดยที่คุณสติแตกอยู่อ่ะ นึกออกไหม เหมือนหมาไปหาหมอเจ้าของก็สติแตก แล้วหมามันจะไม่สติแตกได้ยังไงวะ
หมอพีซ : มันคนเดียวที่จะคุ้มครองเขาได้สติแตกไปแล้ว
แน็ต : ใช่ๆๆ
หมอพีซ : ฉันไม่เหลือใครแล้วอ่ะ
แน็ต : แล้วกูจะรอดไหมเนี่ย
หมอพีซ : ใช่ นี่ก็คนแปลกหน้า
แน็ต : แบบนี่ไม่ใช่ที่ๆกูคุ้นเลย อยู่ดีๆก็ขึ้นมา มีคนแปลกหน้ามาจับ นี่มันอะไร แม่กูก็ดูเครียด ฉิบหายวายวอด หนักกว่านั้นอีกคืออะไร หมอก็เริ่มเครียด เพราะหมาก็เริ่มโชว์ฟัน เริ่มยิงฟันอะไรอย่างนี้ มันจะกัดหมอไหมเนี่ย อย่างเคสป้าซัมมะที่ไปฝึกหมา หมากลัวโรงพยาบาล กลัวโรงพยาบาลแบบว่า 2 ปีที่แล้วมั้ง ที่เขาพาไปโรงพยาบาลเกษตร จับล็อคเลย จับล็อคเลยเพราะว่าหมาไม่อยู่นิ่ง ผู้ช่วยล็อค หมอล็อค เจ้าของล็อค สุดท้ายหมาซัดเรียบเลย กัดทุกคน แม้แต่เจ้าของ
หมอพีซ : กรี๊ด
แน็ต : กรี๊ดไปแล้ว เราก็เลยถามเจ้าของว่าเนี่ยรู้สึกยังไงตอนที่เอาไปอ่ะ จริงๆอ่ะก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก จริงหรอ เขาก็บอกมันก็รู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆแหละ มีความรู้สึกว่าหมาเราจะเป็นอะไรหรือเปล่า
หมอพีซ : เริ่มมา เริ่มมาทีละคำๆ
แน็ต : ใช่ ค่อยๆขุดมาจนบางทีเราว่าเราก็อยากจะไปเรียน counseling นะ แบบว่าใช้วิธีพูดยังไงที่จะดึงความลับของคุณออกมาให้ได้ ไม่ต้องโกหกกันนะ ถ้าโกหกกันมันจะไม่รู้เรื่องแล้วมันก็สอนไม่ได้ละ
หมอพีซ : จริง เหมือนซักประวัติอย่างนี้เหมือนกัน เจ้าของจะกั๊กไว้นิดนึง
แน็ต : ไม่รู้จะกั๊กไปทำแมวอะไร
หมอพีซ : เออ นี่ฉันช่วยคุณอยู่นะ
แน็ต : แต่ส่วนใหญ่เขาจะบอกกับหมาหมดเลย แต่ทุกอย่างที่เป็นเกี่ยวกับตัวเจ้าของเองจะไม่บอก เราก็จะแบบว่าทุกอย่างมันจะเกิดจากเจ้าของ ฉะนั้นถ้าแกกั๊กน่ะ ฉันก็แก้ไม่ถูก อะไรประมาณนี้
หมอพีซ : มันเหมือนลูกถูกเลี้ยงมายังไง ลูกก็จะเป็นแบบนั้นแหละ
แน็ต : ใช่ๆ เราจะชอบอธิบายให้เจ้าของฟังว่า เหมือนกับพ่อแม่ตามใจลูกตัวเอง อยากได้อะไรเอาเลยลูก ลูกเดินไปตบคนใช้ แม่ก็บอกไม่เป็นไร ก็มันเป็นคนใช้นี่ แกมาทำอะไรลูกฉัน ลูกฉันถึงไปตบแก ให้ท้ายลูกอีก อะไรอย่างนี้ พออีเด็กนี่ออกไปสังคมข้างนอก
หมอพีซ : มันก็จะไปตบใครก็ได้
แน็ต : เออ มันก็คิดว่ามันตบได้ทุกคน ถูกป่ะ เพราะขนาดอยู่ในบ้านมันน่ะ มันยังตบคนในบ้านแม่มันยังไม่ว่าเลย พอออกไปมันก็ไปตบทุกคน ละไอ้คนข้างนอกน่ะ เขาไม่ได้รักมึงทุกคนนะ เขาไม่ใช่คนใช้มึงทุกคน โดนตบทีเขาก็หันกลับมาต่อย
หมอพีซ : ก็เลยไฟว้ท์กันเลย
แน็ต : ใช่ แล้วตัวแม่ก็ตกใจ ตายแล้วคุณมาต่อยลูกฉันได้ยังไง อ้าว กูไม่ต่อยมึงก็บุญแล้วนะ ซึ่งความจริงไม่ควรต่อยลูก ควรกลับมาต่อยแม่ นั่นแหละ อารมณ์คล้ายๆกัน เพราะฉะนั้นถ้าพ่อแม่คุณไม่คิดที่จะดูหมาตั้งแต่อยู่ที่บ้านน่ะ ออกมานะ มันก็ต้องมีใครสักคนนึงสอนหมาล่ะวะ
หมอพีซ : ใช่ ไม่หมาคนอื่นที่มันสอน ก็จะเป็นคนอื่นเลย
แน็ต : ซึ่งมันก็จบไม่ค่อยดีเท่าไหร่
หมอพีซ : พีซว่าเจ้าของส่วนใหญ่ถ้าเขาจะปิดขนาดนั้นแล้วอ่ะ เหมือนเขาจะรับไม่ได้หรือว่ารับได้ยาก
แน็ต : ใช่ เคสพวกนี้จะลำบากละ ส่วนใหญ่เราก็จะถ้าเห็นว่าเจ้าของไม่เปิดไม่อะไรพวกนี้ เราก็จะคืนเงินไป เพราะอย่างนี้มันเหมือนจริตมันไม่ถูกกันแล้ว มันไม่ link กัน ถ้ามันไม่ link กันน่ะ เสียเวลาคุณ เสียเวลาแน็ต เสียดายเงินคุณน่ะ
หมอพีซ : มันเสียอันนี้ด้วย พลังงานภายใน เรียกว่าอะไรดี
แน็ต : ใช่ โคตรเหนื่อยมากเลยอ่ะ energy ข้างในมันจะแบบ คุณพระ 2 ชั่วโมงกับแกนี่เหมือน 5 ชั่วโมง แต่กับบางคนนะคือขออะไรไปนะ บอกค่ะ เข้าใจค่ะ นู่นนี่นั่น
หมอพีซ : ใช่ แต่แบบ 3 ชั่วโมงผ่านไปฉันก็ยังไม่รู้สึกว่ามันมา
แน็ต : ใช่ๆ นั่นแหละ มันเป็นอะไรที่ยากจริงๆ
หมอพีซ : ใช่ คุยกับเจ้าของหมาจริงๆมันก็รู้สึกแบบนี้แหละค่ะ
แน็ต : ใช่ไหม
หมอพีซ : ในมุมมองของหมอเองก็ตาม บางคนนะคุยได้เรื่อยๆเลยว่าทำไมเขาเข้าใจเราง่ายขนาดนี้ล่ะ สนุกกับการให้ข้อมูลกับเขา
แน็ต : บางคนนี่แบบว่า ไม่ค่ะ หมาพี่ไม่เคยทำแบบนั้นค่ะ ไม่ค่ะ พี่ไม่เคยให้อันนี้ค่ะ ไม่ค่ะ หมาพี่ไม่ใช่อย่างนี้ค่ะ หมาพี่ไม่เคยกัดค่ะ งาบกูมา 1 ที นั่นแหละ
หมอพีซ : ทุกคนคะ แผลก็ยังอยู่ตรงหน้านะคะ เห็นกันอยู่
แน็ต : ใช่ ที่ว่าเคยมีโดยคนนึงนี่ ใช่ไหม ที่ว่าหมาขึ้นเตียงแล้วหมากลัว แล้วที่เจ้าของบอกว่าไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวจับเอง แล้วมันกัดหูเจ้าของ
หมอพีซ : ใช่ กัดหูเจ้าของมีรูเลยค่ะ คือว่า คือไม่ได้เป็นหมาใหญ่นะ เป็นหมาเล็กนี่แหละ ที่แบบพาดบ่าได้ size ประมาณแมว เขาก็ไม่รู้ว่าเขากังวลอะไร แต่ว่าวันนั้นน่ะมาครั้งแรกเลย มาครั้งแรกก็ไม่รู้ว่าเขาไม่ไว้ใจเราหรือว่าอะไร คือหมายังไม่ได้แสดงออกอะไรเลย ว่าเขากลัวหรือเขาอะไร แต่ทีนี้พอเรากำลังจะจับหมาเขาล่ะ เขาพูดออกมาว่า ไม่กัดค่ะไม่กัด หมาพี่ไม่กัดค่ะ
แน็ต : ตีตนไปก่อนไข้
หมอพีซ : เขาแสดงออกถึงแบบ เหมือนเขา panic น่ะ เขากลัวอะไรไม่รู้ เราก็ sense ได้ ทีนี้หมาเอาละ ค่หมามันเริ่มเหลือกว่าแบบ เฮ้ย แม่ อะไรอย่างเงี้ย คือรู้สึกนี้นะ ถ้าหมาพูดได้เขาคงจะพูดว่า เฮ้ย แม่ อะไรอ่ะ เกิดอะไรขึ้น พอเจ้าของบอกไม่กัดค่ะๆ ปุ๊บ เราก็เริ่มรู้สึกว่า ก็ตามสัญชาตญาณน่ะค่ะ ถ้าเจ้าของพูดว่าไม่กัดค่ะ แสดงว่าน่าจะเคยกัด
แน็ต : อืม ยิ่งไม่ได้ถามก่อนด้วยนะ อยู่ดีๆก็พูดขึ้นมา
หมอพีซ : ใช่ ไม่ได้ถามก่อนด้วย คือเราจะเข้าไปหาเขาดีๆ ทีนี้พอบอกไม่กัดปุ๊บ เราก็ลังเลเหมือนกัน ทีนี้พอหมาเริ่มเหลือกตาปุ๊บ ว่าแบบ ฉันกังวลว่ะเจ้าของก็รีบคว้าเขาไป แล้วก็บอกว่า คุณหมอเดี๋ยวคุณหมอฉีดเลยนะคะ ฉีดเลยนะคะ อย่างนี้เลยนะ inner ประมาณนี้ แล้วก็เอามาพาดบ่า ฉีดเลยนะคะๆ เนี่ยพอเราจับเขาปุ๊บ เขาเริ่มรู้สึกแล้วว่ามือใครไม่รู้มาสัมผัสฉัน แล้วฉันมองไม่เห็น เพราะมันเป็นตรงก้น เราก็เช็ดแอลกอฮอล์อะไรปกติน่ะค่ะ แล้วจากนั้นหมาก็เริ่มสั่น คือความกลัวมาเต็มเลย ทีนี้กำลังจะฉีด เอ๊ะ หรือว่าฉีดไปแล้ว ประมาณนั้นแหละ แต่มันเป็นวัคซีนที่แบบว่าแป๊บเดียวน่ะ เข็มเดียวเท่านั้น อะไรอย่างนี้ แล้วปกติเข็มวัคซีนจะเล็กอยู่แล้ว คือมันก็ไม่ใช่เข็ม size ใหญ่ที่จิ้มไปแล้วจะเจ็บมากอะไรอย่างนั้นน่ะค่ะ ก็ฉีดเข้าไปปุ๊บ ทีนี้หมาก็แบบว่า เหมือนกระจายเลยอ่ะ กระจัดกระจาย
แน็ต : อืม สติแตกเลย
หมอพีซ : ใช่ สติแตกเลย เหมือนแบบเรียกชื่อก็ไม่รู้เรื่องแล้ว แล้วก็กัดหูเจ้าของเป็นรู เลือดออกเลย แล้วเจ้าของก็ อุ๊ย! เลือดออกค่ะ คือหมอก็ตกใจว่าแบบฉันต้องทำยังไงกับเจ้าของไหม หรือฉันต้องจัดการกับหมาก่อน อะไรอย่างนี้ ก็สงสารเขา แต่ว่าเขาก็ไม่โทษหมานะ แต่จริงๆเขาควรจะโทษตัวเองแหละ
แน็ต : ใช่ มันไปโทษหมาไม่ได้หรอก
หมอพีซ : ขอโทษนะคะ ความในใจหมออีกแล้ว
แน็ต : ไม่เป็นไรค่ะ ปล่อยออกมาให้หมด นั่นแหละ
หมอพีซ : คืออยากให้เปลี่ยนเพราะว่าคุณจะได้ปลอดภัย แล้วหมาคุณก็จะได้ปลอดภัยด้วย คิดว่าพี่แน็ตคงจะคิดเหมือนกัน
แน็ต : ใช่ คิดเหมือนกันเลย เพราะว่าถ้าหมาเขาขี้กลัวอย่างเงี้ย การที่เราขี้กลัวไปกับหมาด้วย มันไม่ช่วยอะไรเลยนะ วันนี้เลยล่าสุดเลยเนี่ย เจ้าของเพิ่งได้ป้ายแดง เพิ่งได้ใบขับขี่ เพิ่งจะขับรถเป็นเลย เข้าทางกูเลย ก่อนจะพูดเรื่องนั้นเนี่ยคือหมาเขาเนี่ยขี้กลัว เวลาออกไปเดินถนนนะแค่มอเตอร์ไซค์ผ่าน ตกใจ หนีไปอีกทางนึง อะไรอย่างเนี้ย แค่มีคนเดินผ่าน สติแตกแล้ว อะไรประมาณเนี้ย เขาบอกไม่เข้าใจอ่ะ ทำไมหมาเป็นแบบนี้ เราก็บอกเอางี้นะ เหมือนคุณน่ะ คุณเพิ่งได้ใบขับขี่มา คุณเพิ่งขับรถเป็น ออกไปขับถนนใหญ่กลัวป่ะ กลัว กลัวมากเลยแน็ต ไม่กล้าขับเกิน 40 เกิน 40 แล้วเหมือนเร็วเกิน เนี่ยเราเข้าใจเพราะเราก็เคยเป็น แต่ประเด็นคือคุณออกไปคุณขับไปอ่ะ มอเตอร์ไซค์มาข้างๆน่ะ คุณตกใจป่ะ จักรยานมาข้างๆก็ตกใจแล้วว่ามีอะไรมา
หมอพีซ : เพราะเราจะระแวงตลอดเวลา
แน็ต : ใช่ เพราะเราไม่ชิน แต่ถ้าเกิดว่าเราทำทุกครั้ง ทำบ่อยๆ ขับบ่อยๆ เดี๋ยวต่อไปเราก็ชินว่า เออ ก็ไม่มีอะไรนี่หว่า แค่เรารักษาระยะห่าง
หมอพีซ : ก็แค่หันไป ไม่ได้จะชนนี่
แน็ต : ใช่ ทุกคันมามันไม่ได้จะมาชนเรา แล้วเราก็ไม่ต้องเครียด ไม่จำเป็นว่าพอเห็นมอเตอร์ไซค์มากูปาดไปทางนู้น อะไรอย่างเงี้ย เพราะความชินมันเกิดจากการทำบ่อยๆ ทีนี้เนี่ยถ้าเกิดเวลาเราขับรถใหม่ๆอย่างนี้ ถ้ามีครูสอนขับรถอ่ะ นั่งอยู่ด้วย แล้วถ้าผู้สอนขับรถที่ดีนะ เขานั่งแล้วเขาจะให้ความมั่นใจเรา เพราะเขาจะแบบ อ่ะ มีมอเตอร์ไซค์มานะ
หมอพีซ : เพราะพีซไม่เคยไปเรียนขับรถ ขับเอง พ่อสอน
แน็ต : อันตรายนะอีนี่ ไม่ แต่ตอนพ่อสอนเขาให้ความมั่นใจเราใช่ไหม ไม่สิ เขาให้ความมั่นใจเหมือนแบบว่า
หมอพีซ : อ๋อ พ่อบอก ออกไปเลย ลองดู
แน็ต : โอ๊ย อันนี้ออกแนวตายเอาดาบหน้าละ กลับมาๆ อย่านอกเรื่องสิ คือถ้าเป็นครูฝึกที่ดีเขาก็จะนั่งอยู่ข้างๆ เขาก็จะให้ความสงบกับเรา อ่ะ 10 ล้อมานะไม่ต้องตกใจ อ่ะค่อยๆผ่อน
หมอพีซ : เขาก็จะแบบ ไม่แว้ดๆ
แน็ต : ไม่แว้ดๆ ทุกอย่างทำด้วยความสงบเขาจะเตือนเราก่อน อันนี้มานะไม่เป็นไร เปิดไฟเลี้ยวซ้าย ตรงเข้าไป เอ้าชะลอครับ โอเคทุกอย่างดีมาก ทุกอย่างทำในความสงบและมั่นใจ นึกสภาพถ้าเอา
หมอพีซ : คุณแม่
แน็ต : คุณแม่
หมอพีซ : คุณแม่เป็นคนสอนที่ไม่โอเค
แน็ต : อันนี้ถ้าแม่น้องพีซฟังอยู่ก็อย่าด่าอะไรครูแน็ตเลยนะ
หมอพีซ : ก็คุณแม่สอนหนึ่งครั้ง ก็เปลี่ยนไปเรียนกับคุณพ่อทันที
แน็ต : มันเป็นอย่างนี้นี่เอง คืออารมณ์ประมาณนั้นน่ะ เพราะว่ามัน panic ป่ะ
หมอพีซ : ใช่ๆ มันจะแบบ ตายแล้วฉันทำอะไรก็ผิด
แน็ต : ใช่ๆ แล้วมันจะดูสติแตก แล้วเราจะเอายังไง ไปทางไหน ไปทางนี้ดีไหม เพราะคนข้างๆก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย
หมอพีซ : จริง แล้วรถข้างนอกมันไม่รู้นี่ว่าเราฝึกอยู่ เราก็กลัวไปใหญ่เลย
แน็ต : ถูก ยิ่งคนข้างๆแบบยิ่งแบบ เฮ้ย รถมา เฮ้ย ชะลอดิ เฮ้ย ไฟเลี้ยวเปิดดิ เฮ้ยจะทำอะไรอ่ะ เฮ้ยนั่นเฮ้ยนี่ เราเครียดอยู่แล้วมันจะยิ่งทำให้เราเครียดมากกว่าเดิม
หมอพีซ : เออ หมาก็เช่นกัน
แน็ต : หมาเช่นกัน ทีนี้เนี่ย เจ้าของอยากจะเป็นครูสอนแบบไหนล่ะ
หมอพีซ : แบบแม่หรือแบบคุณครู
แน็ต : เฮ้ย อย่าพูดแบบนั้น แม่บางคนสอนลูกขับรถได้ ก็สงบอยู่ แต่นั่นแหละคือคุณอยากจะนำเสนอวิธีการสอนแบบไหนล่ะ มันขึ้นอยู่กับเจ้าของละ คือเราจะเดินออกไปบอก เอ้า รถมาไม่เป็นไร เอ้าย้ายมาฝั่งขวานะ เอ้านั่งลง อะไรอย่างนี้ หรือว่า รถมา เฮ้ย วิ่ง หรือแบบดึงสายจูงแน่นอะไรพวกนี้ พอเราอธิบายเรื่องแบบนี้ให้เจ้าของฟัง เจ้าของก็บอก จริงแน็ต เวลาเราเอาหมาออกไปเดินนะ เห็นรถมาทีนะ เรากลั๊วกลัว กลัวหมาจะไปโดนชน หรือกลัวรถจะมาชนเรา อะไรอย่างเงี้ย
หมอพีซ : คือตัวเขาเขาก็กลัวอ่ะเนาะ กลัวรถจะชนเขาด้วย
แน็ต : ใช่ๆ แต่คือแบบ ปัญหามันยังไม่เกิด อย่าเพิ่งไป กลัวแต่ไม่ได้หมายความว่าปล่อยวางนะ
หมอพีซ : ไม่ได้หมายความว่าต้องไม่ระวัง แต่ต้องไม่ระแวง
แน็ต : ใช่ อ้า ถูกต้อง จำไว้นะคะ #ระวังแต่ไม่ระแวง เออ จริงมันถูกต้องเลยอันนั้นแหละ คุณระวัง คุณต้องมองซ้ายมองขวาว่ามีอะไรมาหรือเปล่า แต่ระแวงคืออาการแบบ ลุกลี้ลุกลน กลับไปรอบด้าน อะไรอย่างนี้ แล้วยิ่งหมาขี้กลัว เขาต้องการคนที่มีความเป็นผู้นำแบบสุดติ่ง ช่วยเสริมความมั่นใจให้เขา
หมอพีซ : ณ เวลานั้นเนี่ย รางวัลก็ไม่ช่วยแล้วใช่ไหม
แน็ต : โอ้ย อะไรก็ไม่ช่วยเลย
หมอพีซ : เช่นแบบ อ่ะกินขนมก่อนนะ อะไรอย่างนี้
แน็ต : ไม่ช่วยเลย หมาไม่กินด้วย แล้วถ้าหมากินนะ ก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่เครียด บางตัวเอาเข้าปากไปแล้วกลืนไปเลย
หมอพีซ : อ๋อ คือไม่มีสติแล้ว ลืมเคี้ยว
แน็ต : ไม่มีสติ อะไรเข้ามาก็ได้ หรือเอาเข้าซ้ายออกขวา แบบถุยออกเลย อะไรอย่างนี้ มีๆ ซึ่งเราก็จะไม่ให้อาหารไม่ให้ขนมเวลานั้น แต่เราจะอาศัยว่าดูร่างกายหมาว่าเขาเครียดไหม เขาตึงไหมเขาผ่อนไหม นั่นแหละ
หมอพีซ : แล้ว อันนี้แอบถาม ให้ความมั่นใจไหมคะ สมมติว่าเรารู้สึกว่าเราค่อนข้างมั่นใจละ แต่เราจะแบบว่าตบไหล่เขาได้ไหม แบบ โอเคนะบัดดี้ เราเชื่อใจนายนะ อะไรอย่างนี้ โอเคไหมพี่แน็ต หรือควรจะแบบว่ายืนเฉยๆ
แน็ต : มันขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีนะ
หมอพีซ : เออจริง เพราะว่ามีปัจจัยอย่างอื่นมากมาย
แน็ต : ถ้าแบบว่าสั่นแบบเจ้าเข้าแล้ว เราจะให้เจ้าของตบไหล่หมา เหมือนแบบเวลาเพื่อนตบไหล่กันและกัน แบบเฮ้ย มึง ใจเย็นเว้ย อะไรเงี้ย แต่ไม่ใช่ไปลูบ ยิ่งลูบยิ่งส่งเสริมพฤติกรรมนั้น
หมอพีซ : ค่ะ
แน็ต : หมาก็จะยิ่งแบบ โห ที่กลัวเนี่ยมันโอเคนะเว้ย
หมอพีซ : เออ ที่กลัวเนี่ยเจ๋งไปเลย
แน็ต : เออเนาะ เพราะเหมือนคนน่ะ ถ้าเกิดควรเดินมาลูบไหล่ กับคนเดินมาตบไหล่ ไม่ได้ตบป้าบๆนะ ตบแบบให้ตกกำลังใจ
หมอพีซ : เราก็จะหันไปแบบ เฮ้ย อะไรอ่ะ
แน็ต : ประมาณนั้นๆ แต่หมาบางกรณีเหมือนกันก็คือ ถ้าส่วนใหญ่ตะให้ทำเฉยๆเลย เพิกเฉยเลย ก็คือหมากลัวแต่ไม่มาก อยากไทนี่เงี้ย ถ้าเกิดสิบล้อขับผ่านมา คือเขาเห็นว่าวัตถุใหญ่ๆมานั่นแหละ เขาก็จะเริ่มออกอาการแล้วเขาจะเริ่มมอง เริ่มมอง เราก็จะ อ่ะ โอเคนั่ง กดให้นั่งแล้วเราก็เฉยๆ ถ้าเกิดรถผ่านไปแล้วเขายังนั่งอยู่ที่เดิม เราก็ค่อยลูบหัวเขา เก่งมาก ไม่ขยับเลยนะ ไม่อะไรเลย เก่งจัง
หมอพีซ : แต่ข้างในอาจจะแบบกลัวจะแย่แล้ว แต่ยังควบคุมตัวเองได้
แน็ต : ใช่ แต่ยังควบคุมตัวเองได้ เราก็บอก เนี่ย เก่งมากเลย คุณกลัวเราไม่ว่าเว้ย แต่คุณต้องควบคุมตัวเองให้ได้ แต่ไอ้พวกที่แบบควบคุมตัวเองไม่ได้เลยเนี่ย เราต้องให้กำลังใจผ่านทางการสัมผัส
หมอพีซ : ตบไหล่นิดนึง
แน็ต : ตบไหล่แบบ ป้าบๆ แบบเฮ้ย ใจเย็นเว้ย ใจเย็น ไม่ใช่แบบ ใจเย็นนะลูก อย่านะ ฉิบหายวายวอดเลยอันหลังเนี่ย
หมอพีซ : ก็ลองไปดูกันนะคะว่าเป็นยังไงบ้างสำหรับที่บ้าน
แน็ต : ใช่ แล้วก็ข้อสุดท้ายนะ เจอมากเลย หมาป่วยเนี่ย ไหว้เลย อย่ามาถามครูฝึกหมา
หมอพีซ : ถามพีซนี่สิ
แน็ต : เออ มีนะ พี่คะ หมาหนูอ้วกน่ะค่ะ ให้หนูฝึกยังไงดีคะ ฮะ คือคำถามยังงงอ่ะ เอาใหม่นะคะ หมาอ้วก จะให้ฝึกอะไรคะ ฝึกยังไง ฝึกไม่ให้มันอ้วกหรอ มันฝึกไม่ได้นะคะ ควรจะไปหาหมอ
หมอพีซ : แต่มันมีนะคะพี่แน็ต ที่การอ้วกเป็นพฤติกรรม เหมือนสอดคล้องกับการเรียกร้องความสนใจ แต่ว่ายากมากที่จะมีแบบนั้น คือเวลาอ้วกเนี่ย เราจะสงสัยว่าป่วย จนเราวินิจฉัยนู่นนี่นั่น คือมันจะใช้เวลาค่อนข้างนาน หลาย step กว่าเราจะสรุปว่ามันเป็นพฤติกรรมค่ะ เพราะฉะนั้นน่ะครั้งแรกเลยแล้วเป็นพฤติกรรมเลยโดยที่หมอไม่ได้วินิจฉัยเนี่ย ยากค่ะ
แน็ต : เพราะเราก็บอกเจ้าของนะ บอกว่าเอาไปให้หมอตรวจก่อนดีกว่า ถ้าหมอตรวจออกมาแล้วว่าปกติ โอเคเราค่อยมาดูเรื่องพฤติกรรม
แน็ต : แต่อย่างหมาลูกค้าเจ้านึงอย่างนี้ ถ้าเกิดเขาถูกขังไว้ในกรงตัวเดียวนะ โดยที่เขารู้นะว่าเจ้าของเอาหมาอีกตัวนึงออกไปเดินนะ มันจะขี้ แล้วมันจะฉี่ในกรง แล้วก็ร้องให้เจ้าของมาทำความสะอาด
หมอพีซ : ค่ะ เพราะทำแบบนี้ทุกครั้งนี่ พอทำแบบนี้เจ้าของกลับมา
แน็ต : ใช่ ก็คือสามารถขี้ได้ 4-5 กอง แบบว่าขี้อันนี้เสร็จ มันขี้อีกกองนึง
หมอพีซ : เออเก่งเนาะ
แน็ต : เป็นหมาที่ธาตุเบามาก แล้วเจ้าของก็เลยถามว่าแบบนี้ให้พี่ฝึกยังไงคะ เราก็บอกก็ไม่ต้องไปสนใจมันสิคะ
หมอพีซ : ก็ไม่เก็บ เออแต่ก็ดูโหดไปนะ แต่ถ้าเกิดว่ามันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่ามันก็ควรจะทำ มันก็คุ้มนะ
แน็ต : ใช่ อย่างมากก็อาบน้ำให้มันใหม่แค่นั้นแหละ มันจะขี้ได้เท่าไหร่เองวะ ถูกป่ะ
หมอพีซ : ขี้หมดกระเพาะไปแล้ว แต่พีซว่ามันก็คล้ายๆกับว่าเวลาเราตื่นเต้นน่ะ บางทีก็ปวดนะ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนหรอก
แน็ต : มันเป็นสัญชาตญาณของคนเว้ย
หมอพีซ : หรอ
แน็ต : เหมือนสัตว์เลย จริงๆ คือถ้าเราตื่นเต้น กลัว ตกใจ สิ่งแรกที่เกิดเลยคือ มือชา เพราะหัวใจอ่ะจะเริ่มสูบฉีดเลือดไปส่วนที่สำคัญที่สุด คือขา
หมอพีซ : ใช่ เตรียมวิ่งละ เตรียมวิ่ง
แน็ต : เออ ใช่ เตรียมวิ่ง เตรียมหนีละ หัวจะเริ่มมึนๆเล็กๆน้อยๆ เพราะเลือดมันลงข้างล่าง อันที่สองคือเริ่มปวดขี้ เพราะการที่เราขี้ มันทำให้ร่างกายเราเบาตัวลง
หมอพีซ : วิ่งเร็วขึ้นอีก
แน็ต : เหมือนหมาทั่วไป หมาจรที่จะไปจับมันน่ะ แล้วมันตกใจขี้แตกออกมา ก็คือกลวิธีที่มันเกิดขึ้น
หมอพีซ : นี่เป็นแบบพฤติกรรมเชิงลึกจริงๆ
แน็ต : จริงๆ ซึ่งคนก็เป็น เวลาอาจารย์จะเรียกออกไปพูดหน้าห้อง ปวดขี้ขึ้นมาเลยอ่ะ
หมอพีซ : ใช่ เออ เหมือนเป็นโรคติดต่อ ปวดขี้ทั้งห้องเลย
แน็ต : ใช่ ห้องน้ำนี่ไม่พอค่ะ แต่ถามว่าอยากขี้จริงๆไหม บางทีมันไม่อยาก แต่มันแค่เป็นกลยุทธ์หนึ่งอย่างในร่างกายที่มันถูกสร้างขึ้นมา นั่นแหละ
หมอพีซ : ลึกซึ้ง
แน็ต : แต่มันแบบ ขี้ on demand ได้นี่แบบ ตัวนี้คือเรานับถือมันเลยอ่ะ
หมอพีซ : หรือว่าตัวนี้มันเป็นอย่างนี้คือมันกังวลอะไรหรือเปล่า กังวลว่าเพื่อนมันจะไม่กลับมาหรือเปล่า หรือว่าอิจฉา
แน็ต : อิจฉา ต้องการเรียกร้องความสนใจให้แม่กลับมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ย ถ้าถามว่าถ้าจะกลับไปล้างอ่ะ ให้ล้างยังไง คือล้างโดยที่ไม่สบตาหมา
หมอพีซ : หรือไม่ก็ปล่อยออกไปเลย แล้วก็ล้างแต่กรง
แน็ต : ใช่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ต้องสบตาหมา ไม่ต้องเรียกไม่ต้องอะไรเลย เดินเข้าไปเหมือนไม่มีตัวตนอย่างนั้นน่ะ มันก็จะไม่ได้สิ่งที่มันต้องการละ คือมันไม่ได้อะไรจากเรา เพราะการที่เราสบตาหมาเขาได้อะไรจากเราใช่ไหม
หมอพีซ : ห้ามแตะต้องเลย
แน็ต : ใช่ ไม่ต้องพูดไม่ต้องอะไร เดินเข้าไป อยากไปไหนไปเลย ไม่สนใจ
หมอพีซ : สนใจแต่ขี้เนาะ
แน็ต : เออ สนใจแต่ขี้ สบตาขี้ไว้ สบตาขี้ อะไรประมาณนั้น แต่นั่นแหละ ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ย ถ้าทุกอย่างมันออกอาการแบบว่า เกี่ยวกับร่างกาย ถามสัตวแพทย์ อย่าถามครูฝึกหมา
หมอพีซ : โอเคนะคะ
แน็ต : ในทางเดียวกันเหมือนกัน พฤติกรรมอย่างนี้ ไม่ต้องไปถามสัตวแพทย์ด้วย มาถามครูฝึกหมา
หมอพีซ : หมอไม่ฝึกหมาค่ะ แต่ถ้าเกิดแบบเป็นทริกเล็กๆน้อยๆ อย่างหมอสนิทกับพี่แน็ตอย่างนี้ก็เป็นผลพลอยได้ หมอก็จะแนะนำได้เล็กๆน้อย อะไรอย่างนี้
แน็ต : แต่หมอส่วนใหญ่ไม่รู้ไง
หมอพีซ : จริง
แน็ต : ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจ ทำไมไม่ลงหลักสูตรวะ
หมอพีซ : อยากเหมือนกันนะเนี่ย มันดีมากเลย ตอนที่ไปฟังสัมมนาคราวที่แล้ว พี่แน็ต ชอบมาก
แน็ต : ได้ประโยชน์มากเลยใช่ไหม เพราะเราก็ไม่ทำให้หมาเครียดด้วย
หมอพีซ : พอเราอ่านเขาได้เราก็รู้ว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อม เขาไม่พร้อม แต่ถ้าเราพร้อมแล้วเราพุ่งเลยอย่างนี้ เขาก็จะทำร้ายเราหรือไม่ก็จะกลัวยิ่งกว่าเดิม
แน็ต : ใช่ แล้วมันไม่ได้เป็นการฉีดยาวันนี้วันเดียว อีกไม่นานก็ต้องเอามาฉีดใหม่
หมอพีซ : ใช่
แน็ต : เพราะฉะนั้นถ้าเรามาผูกสัมพันธไมตรีแรกๆตั้งแต่ตอนนี้มันก็ดีกว่าป่ะล่ะ
หมอพีซ : จริง เหมือนแบบฝรั่งอ่ะค่ะ ในวงการสัตวแพทย์ เขาก็จะบอกว่า first impression ก็คือความประทับใจแรกเนี่ยสำคัญมากๆ โดยเฉพาะในแมว ถ้าเกิดว่าแมวมันมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับสถานที่นี้ คนๆนี้ อะไรอย่างนี้ ทุกๆครั้งที่มาเขาก็จะดี มีเคสนึงเหมือนกัน เขาพามา แล้วเขาบอกว่า ฉันแค่อยากมาลองว่าคุณจะเข้ากับแมวฉันได้ไหม พอเราได้ยินแบบนี้ ด้วยความเป็นหมอของเรา เราก็งงว่า อ๋อ หรอ โอเคๆ ลองก็ลอง แต่เขาคิดลึกซึ้งกว่านั้น เพราะเขารักมัน
แน็ต : เพราะเขาไม่อยากสร้างความเครียดให้มัน
หมอพีซ : ใช่ เขาก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้นะ แบบเปิดประตูเข้าไปปุ๊บที่อื่นอ่ะ กรี๊ด ทั้งๆที่เขาไม่รู้ว่าแมวกรี๊ดอะไร จนเขาเริ่มสังเกต แล้วเขาก็เริ่มนึกว่า อ๋อ ครั้งแรกที่มา แมวเขาต้องล้างหู เจ็บหู แบบสกปรกอะไรอย่างเงี้ย มันก็เป็นความทรงจำที่ไม่ดี เราก็เลยคิดกับตัวเองว่า เออ จริงนะ เราก็ต้องเหมือนต้องสร้างสถานการณ์ที่ดีๆขึ้นมา
แน็ต : แต่ก็พูดตรงๆนะ เจ้าของส่วนใหญ่ก็ไม่พาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตวแพทย์หรอกถ้ามันไม่ป่วย
หมอพีซ : จริง คือครั้งแรกของทุกๆตัวควรจะเป็นวัคซีน หรือถ่ายพยาธิ ง่ายๆ น่ารักๆ
แน็ต : แต่ในมุมมองเรานะ เราว่าถ้าหมาขี้กลัวสุดๆนะ ครั้งแรกนะ แค่ไปเดินเล่นพอ เดินเข้าแล้วก็นั่ง แล้วก็เดินออก ถ้าหมอให้ความร่วมมือหน่อยก็ให้หมอมาเล่น ไม่ต้องตรวจไม่ต้องอะไรเลย
หมอพีซ : ให้ขนมอะไรอย่างนี้ด้วยซ้ำ
แน็ต : เนาะ แล้วครั้งที่สองหมาก็จะจำได้ว่าแบบ เฮ้ย มาที่นี่ได้หนมกินด้วยนะ ไอ้คนนี้ กลิ่นนี้กูได้ มันให้ไก่กูด้วย
หมอพีซ : ใช่ ที่จริงอ่ะอยากอยากจะทำแบบนี้ แล้วก็อยากให้สัตวแพทย์หลายๆที่ทำแบบนี้
แน็ต : ใช่ แต่อันนี้ต้องขอความร่วมมือจากเจ้าของ
หมอพีซ : ใช่
แน็ต : คือกูไหว้ล่ะ อย่าพาหมาไปตอนที่มันป่วย เพราะถ้าหมาป่วยปุ๊บอ่ะ หมอเขารอไม่ได้ถูกป่ะ คือหมาพะงาบๆแล้ว จะมารอให้มัน calm down มันก็ไม่ใช่ไหม
หมอพีซ : แล้วหมาก็จะจำว่า นี่ไง ตอนฉันพะงาบเนี่ยฉันอยู่ที่นี่
แน็ต : ใช่ๆ
หมอพีซ : กับคนแปลกหน้ากลุ่มนี้ ที่มาทำฉันเจ็บ
แน็ต : ใช่ แล้วรอบหน้าแค่เห็นน่ะ แค่ได้กลิ่นน่ะ เพราะสำหรับหมา ภาพ เสียง กลิ่น สร้างสถานการณ์
หมอพีซ : เป็นความทรงจำ
แน็ต : ใช่ กลิ่นแบบนี้กูจำได้ อย่างแน็ตนะโคตรกลัวหมอฟันเลย ถ้าได้ยินได้ยินเสียงเครื่องกรอนะคือขนลุกแล้ว แค่คิดก็ขนลุกแล้วเนี่ย
หมอพีซ : ไม่บอกไม่รู้เลยนะคะเนี่ย
แน็ต : เพราะตอนเด็กๆเวลาไปทำฟันน่ะ แม่พาไป ไม่ขอเอ่ยชื่อโรงพยาบาล แต่เขาให้นิสิตมาทำ
หมอพีซ : อ๋อ ก็เลยนาน
แน็ต : นานและเจ็บและเครียด เพราะถ้าให้หมอทำนะ ปุ๊บปั๊บแป๊บเดียวจบละ
หมอพีซ : อ๋อ แต่เขาไม่รู้เนาะว่าเป็นครั้งแรกของเรา หรืออะไรอย่างนี้
แน็ต : ใช่ มันก็เลยแบบว่า คือตอนนี้ถ้าได้กลิ่นร้านทำฟัน มันจะมีกลิ่นเฉพาะตัว ทุกร้านมีกลิ่นนี้ แค่ได้กลิ่นนะก็จะเริ่มหน้าซีดมือซีดปวดขี้ขึ้นมาทันที เริ่มเข้าสู่โหมด panic อยากจะหนี
หมอพีซ : เออ ใช่ๆ
แน็ต : ใช่ไหม เพราะฉะนั้นเนี่ย ครั้งแรก ถ้าคุณมีลูกหมานะ เอาไปเลยไปนั่งเล่นอยู่โรงพยาบาล ไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าหมอถามว่ามาทำอะไรคะ อ๋อ เปล่าค่ะ มาทำให้หมาคุ้นชิน
หมอพีซ : อุ๊ย มี มีบางเคส ไม่รู้เขาตั้งใจเพื่อให้เป็นแบบนี้ หรือว่าบังเอิญ เขาจะอุ้ม อุ้มมาซื้อเพ็ทช็อป ประมาณ 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะมาฉีดวัคซีน ซึ่งพีซรู้สึกว่าน่ารักมาก แล้วบ้านนี้ดีมาก คือบางทีอุ้มมา อ๋อ มาซื้อนมค่ะคุณหมอ ปล่อยแมวเล่นแป๊บหนึ่ง เนี่ย ชื่นชมเขามากเลยว่าแบบ เขาเตรียมให้มัน
แน็ต : นั่นแหละ ฉะนั้นเจ้าของสำคัญมาก เพราะทุกอย่างมันเริ่มตั้งแต่เจ้าของเนาะ ถ้าเจ้าของทำดี ทุกอย่างคุณเตรียมพร้อมหมาคุณดีเหมือนการที่คุณมีลูก 1 คนน่ะ คุณเตรียมพร้อมเขาให้ดีในการเข้าสังคมให้ได้ ที่เหลือมันก็ง่ายแล้วหมอก็ไม่ต้องเครียดเวลามาฉีดวัคซีน คุณครูก็ไม่ต้องเครียดเวลาสอน สอนบางทีแทนที่จะแบบ เข้าไปเลย เอ้า นั่ง หมอบ คอย รอ เรียกกลับมา อะไรอย่างนี้ ครูฝึกต้องมาแบบสอนให้ อย่าเพิ่งงาบครูฝึกค่ะ
หมอพีซ : เวลาก็จะต้องใช้เยอะไปอีก
แน็ต : ใช่ มันก็ยาวไปอีก แทนที่จะเป็นเรื่องของ 5-6 ครั้ง ก็กลายเป็น 10-20 ครั้ง แล้วยิ่งบวกกับว่าเจอเจ้าของที่กลับบ้านไปก็ไม่ฝึกต่ออีก ก็ลากกันไปเลยเป็นปี แล้วมาหาว่าเราเลี้ยงไข้
หมอพีซ : เออ มีคนพูดว่าเลี้ยงไข้ไหม พี่แน็ต
แน็ต : ยังไม่มี
หมอพีซ : อย่างแบบเคสอย่างนี้ หาว่าหมอเลี้ยงไข้ ทำไมถึงมองหมอในแง่ลบแบบนี้
แน็ต : เออ ของเรายังไม่มีนะ
หมอพีซ : เพราะเขาเห็นมั้งว่าเราทำอะไร
แน็ต : แต่เราเคยปฏิเสธลูกค้านะ เขาเหมือนเขามีตังค์แหละ เขาไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายตังค์ ซึ่งในมุมมองเราตังค์มันไม่ได้ทุกสิ่ง ถ้าคุณเอามา หมาคุณก็ไม่พัฒนา ตัวคุณก็ไม่พัฒนา จะเอาตังค์มาจ่ายด้วย ฉันไม่ได้เห็นแก่เงินอย่างเดียวนะ ฉันมาทำตรงนี้เพราะอยากให้คนกับหมาอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข อะไรประมาณนี้ พอจบคอร์ส 5 ครั้งไปนะ เรามีความรู้สึกว่ามันไม่ไปไหนเลย เจ้าของไม่เปลี่ยน หมาไม่เปลี่ยน ไม่ฝึกไม่อะไรเลย พอเขาบอก เนี่ยจะมาจองอีก 5 ครั้ง เราก็บอกว่า อย่าเลยคุณไปเรียนกับคนอื่นดีกว่า เขาบอก อ้าว ทำไมเขาทำอะไรผิด เราบอกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เรามีความรู้สึกว่า มันจริตไม่ตรงกัน มันไม่ Connect กัน ไปหาคนอื่นที่เขาสามารถ Link กับคุณได้ดีกว่า ซึ่งมันเป็นความผิดเจ้าของไหม มันไม่ใช่ เป็นความผิดแน็ตไหม มันก็ไม่ใช่ ก็แค่คนสองคนคุยกันไม่รู้เรื่อง ฉะนั้นจากกันไปแต่โดยดีดีกว่า
หมอพีซ : เออเนาะ จริง
แน็ต : เหมือนแบบมีแฟนน่ะ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องเลยจะทู่ซี้คบต่อไหม
หมอพีซ : ไม่คุยแล้ว
แน็ต : เออ ก็ไปหาคนใหม่ แยกย้ายหาผัวใหม่เลย จบ
หมอพีซ : ค่ะ ทุกคน
แน็ต : นั่นแหละค่ะ จำไว้ คนใจหมาไม่ได้ให้คำปรึกษาเรื่องหมาอย่างเดียว ปรึกษาเรื่องชีวิตคู่ได้ด้วย นั่นแหละ 5 ข้อ หลักๆก็ประมาณนี้เลย มีอะไรอย่างอื่นเสริมอีกไหม ถ้าจะให้บ่นอีกก็เหมือนรอบที่แล้วอ่ะ บ่นได้อีก 2 ชั่วโมงอ่ะ แต่ก็อย่ากระนั้นเลย เดี๋ยวจะไม่มีคนฟัง
หมอพีซ : เออเนาะ
แน็ต : ถ้างั้นวันนี้ก็จบแค่นี้
หมอพีซ : ค่ะ
แน็ต : โอเค
หมอพีซ : ได้เลย
แน็ต : จะปิดอะไรไหมคะ ถ้าไม่ปิดแน็ตจะปิดละนะ
หมอพีซ : เชิญค่ะ
แน็ต : โอเค episode นี้ ใครชอบไม่ชอบยังไง กด like กด subscribe ได้เลยนะ แล้วก็ถ้ามีคำติชม ก็ติชมมาได้
หมอพีซ : หรือว่าคำถามอื่นๆ หัวข้อที่น่าสนใจ
แน็ต : อยากให้เราพูดเกี่ยวกับเรื่องอะไร เขียนมาได้เลย แบบว่า หมอคะ ทำไมหมาหนูเป็นเกย์หรือเปล่าคะ อ่ะ มีนะ มีๆ
หมอพีซ : ละเอียดอ่อนมากๆ ตอนนี้เรากำลังสงสัยว่าหมาที่บ้านตัวนึงอาจจะเป็นทอม
แน็ต : อันนี้ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
หมอพีซ : อ่ะ อีกประเด็นหนึ่ง
แน็ต : หรือแบบว่า ครูแน็ตคะ หมามันชอบกินขี้ตัวเอง อะไรอย่างนี้
หมอพีซ : เกี่ยวกับสุขภาพไหมคะ หรือเกี่ยวกับพฤติกรรมกันแน่
แน็ต : ใช่ ถามมาได้เลย แล้วเดี๋ยวแน็ตกับหมอพีซจะเอามาลงใน episode ถัดๆไป
หมอพีซ : ค่า ฝากติดตามด้วยนะ
แน็ต : โอเค ขอบคุณนะคะ สวัสดีค่ะ