สวัสดีนะคะ แน็ตจากเพจคนใจหมา วันนี้เราสัมนาครั้งแรก เพราะงั้นถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ แล้วก็อย่างที่ว่านะคะ ขอความกรุณาปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากห้องมันเสียงดังกังวาล เพราะฉะนั้นถ้าจะคุยโทรศัพท์เชิญข้างนอก ใครแอบคุยระหว่างแน็ตสัมนาอยู่ จะลงชื่อเอาไว้ แล้วก็จะเอามาเป็นอาสาสมัครในการใช้อุปกรณ์ ซึ่งวันนี้เนี่ยเรามีทั้งอุปกรณ์ปลอกคอหนาม แล้วก็มีปลอกคอไฟฟ้า ซึ่งกำลังหาอาสาสมัครมาทดลองใช้อยู่ เพราะฉะนั้นใครคุยระหว่างสัมนาจะลงชื่อไว้นะ โอเค แล้วก็อย่าอัดเสียง หรือถ่ายวิดีโอนะคะ ห้าม เนื่องจากงานนี้เนี่ย มีหมาเป็นๆมาร่วมสัมนาด้วยทั้งหมด 4 ตัว ทุกตัวมีปัญหาหมดยกเว้นหมาเรา แน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีปัญหาประการใดเกิดขึ้นมาก็ไม่ต้องตกใจนะ นั่งอยู่กับที่ไม่ต้องเครียด
โอเค เริ่มสไลด์แรกเลย ขอแตกต่างระหว่าง ครูฝึกสุนัข กับ นักปรับพฤติกรรมสุนัข นะคะ คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักคำว่านักปรับพฤติกรรม สำหรับเมืองไทยนะ ต่างชาติเขาจะคุ้นกับคำนี้มากกว่า อยากจะเปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆเลยก็คือ ครูฝึกสุนัขเนี่ยมันเหมือนกับครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ สอนสังคม สอนภาษาไทย สอนภาษาอังกฤษ นักปรับพฤติกรรมเปรียบได้เหมือนนักจิตวิทยา เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะส่งหมาของคุณไปเรียน คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณอยากได้อะไร คุณอยากได้หมามารยาทดี หรือคุณอยากได้หมาฉลาด แตกต่างกันนะ ไทนี่ไม่ใช่หมาฉลาด โง่มาก ไม่อยากจะบอก แต่มารยาทดี จะเห็นว่าเมื่อกี๊ที่เดินไปเดินมา เขาไม่กรรโชก เขาไม่เห่า เขาไม่กัด เขาไม่อะไรใคร เขาไม่กระโดดใส่ใครด้วย นี่คือหมามารยาทดี ทั้งหมดทั้งปวงเนี่ย หมาก็เหมือนเด็กน่ะ หมาเขามีสมองเหมือนเด็กอายุ 2 ขวบ เพราะฉะนั้นจิตวิทยาเด็กกับจิตวิทยาหมาจะใช้เหมือนกันเลย ทีนี้เนี่ยถ้าสมมติเรามีลูกขึ้นมาคนนึง แล้วลูกเราเข้าสังคมไม่ได้ แบบว่า ไม่ว่าจะขี้กาย ขี้กลัว เกเร ชอบไปต่อยคนอื่นเขา คุณคิดว่าคุณจะส่งลูกไปเรียนคณิตศาสตร์ หรือคุณจะส่งลูกไปหานักจิตวิทยา เพื่อให้เข้าสังคมได้ นึกออกไหม เพราะถ้าส่งลูกไปเรียนคณิตศาสตร์ น้องกลับมาคิดเลขบวกเลขได้ แต่ถามว่ายังขี้อายไหม ยังขี้อาย ยังไปต่อยเด็กคนอื่นไหม ยังไปต่อยเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นข้อนี้สำคัญมากนะคะ สำหรับความแตกต่าง
ฉะนั้นรูปแบบการฝึกเนี่ยมันก็จะมีแบ่งกันไปแต่ละแบบ แบบแรกเลยคือ ด้านพฤติกรรม ไม่ต้องอธิบายมาก เห็นหน้าคนนี้ก็รู้ว่าเขาเป็นใคร มีใครในที่นี้ไม่รู้จัก ซีซาร์ มิลลาน (Ceasar Millan) บ้าง ไม่ต้องอายยกมือได้เลย ไม่มี ดีมากเลย ไม่ต้องอธิบายเยอะ เขาคือคนนี้นะ ด้านพฤติกรรมก็คืออะไร เช่น ก้าวร้าว ตื่นเต้นเกิน ขี้กลัว เข้าสังคมไม่ได้ หรืออะไรก็ตาม ทุกอย่างที่เกี่ยวกับนิสัย จะเป็นการฝึกด้านพฤติกรรม ซึ่งเดี๋ยวที่เหลือเนี่ย เราจะอธิบายด้านพฤติกรรมในสัมนาที่เหลือเนาะ เพราะฉะนั้นข้อนี้จะข้ามไป อันถัดมาคือ ด้านการเชื่อฟังคำสั่ง เชื่อฟังคำสั่งพื้นฐาน นั่ง หมอบ คอย เรียกกลับมา หยุด พวกนี้คือการฝึกคำสั่งพื้นฐาน หมาถ้าเกิดมารยาทไม่ดี เข้าสั่งคมไม่ได้ คุณคิดว่าเขาจะไปเรียนเชื่อฟังคำสั่งได้ไหม เรียนไม่ได้ ต่อให้ครูฝึกหมามาสอน อ่ะ นั่งลง หมาก็งาบหัวครูฝึกแล้ว ครูฝึกก็สอนไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องเริ่มที่มารยาทก่อน หมามารยาทดีแล้วเขาทำอย่างอื่นได้ที่เหลือนะคะ ถัดมาก็คือด้านการกีฬา พอหมารู้จักคำสั่งพื้นฐานแล้วเนี่ย ก็เริ่มมาพัฒนาสิ่งที่มัน advance มากขึ้น คือด้านการกีฬา ในนี้มีใครฝึก Agility ไหมคะ ไม่มีเลยใช่ไหม ไม่มีครูฝึกหมาในนี้เลยหรอ ไม่มี โอเค ไม่มีก็ไม่มี ไม่ว่ากัน การฝึก Agility ของด้านการกีฬาเนี่ย จะเป็นเรื่องของการออกกำลังกายและกำลังกายสมอง อย่างเช่น ฝึกให้เดินเข้าอุโมงค์ กระโดดข้ามรั้ว หรือเดินข้ามสะพาน ทุกสิ่งทุกอย่างพวกนี้เนี่ย มันเป็นการฝึกความมั่นใจในหมา เพราะหมาส่วนใหญ่จะไม่ทำ ที่ขี้กลัวนะ แค่ขึ้นไปเหยียบกับพื้นแตกๆอย่างนี้เขาก็จะไม่ขึ้นละ เพราะฉะนั้นการฝึกด้านการกีฬาสำหรับ basic พื้นฐานเลยก็คือ เข้าอุโมงค์ เดินกระโดดข้ามรั้ว เหมาะสำหรับหมาที่ขี้กลัว การที่หมาที่ขี้กลัว แบบพวกหมาอยู่ในมุมอยู่ในรูน่ะ ที่แบบว่าทุกอย่างปิด shut down กลัวมากเลยไม่กล้าออกมา หมาพวกนั้นน่ะถ้าให้มาฝึกด้านการกีฬาแบบพื้นฐาน ถ้าเขาทำอะไรได้บางอย่าง ความมั่นใจเขาจะมา แล้วเขาก็จะเรียนรู้ว่า แบบนี้มันได้นี่หว่า ฉันสามารถทำแบบนี้ได้ ต่อไปฉันสามารถไปเจอปัญหาอย่างอื่นได้ง่ายขึ้น แต่ทีนี้เนี่ยสำหรับขั้น advance กันไปอย่างเช่น พวกวิ่งแข่ง กระโดดสูง Agility ที่แบบแข่งความเร็วกันอย่างนั้นน่ะ อันนี้จะเหมาะกับหมาอีกแบบนึงละ เหมาะกับหมาที่พลังงานเยอะเกินไป คือแบบว่าวันๆเดินชั่วโมงนึงไม่พอ ต้องหาอะไรให้เขาทำตลอดเวลา หมาพวกนั้นเนี่ยเหมาะกับ advance พวกหมาขี้กลัวไปเรียน advance ไม่ได้นะ นอกซะจากว่าเขาเรียนพื้นฐานมาแล้วเขาไม่กลัวแล้ว เขาไม่กลัวสิ่งใดแล้ว แล้วเขากลับมาเป็นหมาปกติแล้ว ค่อยเอามาสอน advance ได้
อันถัดมาคือ รูปแบบด้านการใช้งาน ทีนี้พอหมารู้จักวิธีฝึกคำสั่งพื้นฐาน เขามีความมั่นใจมากขึ้นในการสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่แปลกใหม่ เราก็เริ่มหางานให้หมาทำ เพราะจำไว้นะว่ามนุษย์เป็นคนสร้างหมา ธรรมชาติสร้างหมาป่า เราเป็นคนสร้างหมา เพราะฉะนั้นเนี่ยหมารุ่นแรกๆเลยที่ถูกสร้างมาเลยเนี่ยมีการใช้งานแค่ 2 อย่าง อย่างแรกคือลากเลื่อน อย่างที่สองคือล่าสัตว์ มีแค่นี้เองนะคะ แล้วเราก็ค่อยแยกไต่ๆกันออกมา อย่างเช่นฮัสกี้ มาลิมู ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร เพื่อให้ลากเลื่อน เพราะฉะนั้นหมาพวกนี้เขาจะวิ่งได้นานกว่า เขาจะถึกกว่า เขาต้องใช้การออกกำลังกายที่เยอะกว่าหมาปกติ เพราะฉะนั้นพวกที่เอาฮัสกี้มาเลี้ยงแล้วอยู่แต่ในอพาร์ทเมนต์ แล้วหมาโวยวาย แบบว่าทำลายข้าวของ แล้วเจ้าของสงสัยว่าทำไมหมาพี่ทำลายข้าวของคะ อะไรประมาณนี้ เราก็จะ พี่คะ พี่เลี้ยงพันธุ์อะไร พี่เลี้ยงฮัสกี้ ฮัสกี้มันควรจะไปวิ่ง นึกออกป่ะ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าหมาสายพันธุ์นั้นเหมาะกับงานนี้ทุกตัว อย่างเช่นฮัสกี้ กลับมาฮัสกี้เหมือนเดิม ฮัสกี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาเหมาะกับสายลากเลื่อนทุกตัว หมาบางตัวเกิดมาพลังงานแตกต่างกัน หมาพลังงานต่ำ หลังงานกลาง พลังงานสูง หมาพลังงานสูงคืออะไร หมาที่ต้องใช้แรงเยอะๆ ไอ้อย่างนี้มันลากได้เป็นกิโลเลย ลากได้ทั้งวันไม่เหนื่อย หมาบางตัวแนวขี้เกียจก็มี อย่างไทนี่เป็นต้น หลับไปแล้ว คือไม่สามารถใช้งานอะไรมากได้ เขาจะเป็นสายนิ่งสายนอนอย่างเดียว เพราะฉะนั้นสำคัญมากที่จะหางานให้หมาทำ ถ้าเรามีความรู้สึกว่าฉันไม่ใช่ครูฝึกหมานี่หว่า แล้วจะหางานอะไรให้หมาทำ ง่ายๆเลยให้เขาแบกเป้ก็ได้ เวลาพาหมาไปเดินเล่นอย่างนี้ เอาเป้หมาใส่น้ำหนัก ส่วนใหญ่ที่ใส่เนี่ยคือ 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักหมา 2 ข้างต้องให้เท่ากันนะ ใส่เป็นข้าวก็ได้ เม็ดข้าว หรือว่าขวดน้ำ แล้วให้หมาเดิน จะสังเกตได้เลยว่าหมาจะเดินดีขึ้น เพราะเขาจะไปโฟกัสกับงานที่เขาทำ มากกว่าโฟกัสกับสิ่งแวดล้อม
วิธีการฝึกสุนัข จริงๆน่ะมันมีเยอะมากเลยนะ วิธีการฝึกสุนัข จริงๆถ้าไปเสิร์ชในอินเตอร์เน็ตมันมีค่อนข้างเยอะสิ่ง ยเอะจนแบบอธิบายไม่ถูก เราเอามารวมๆ หลักๆก็จะมีอยู่ 3 อย่าง เป็นแบบความเป็นจ่าฝูงและการฝึกแบบ Balance การฝึกแบบจ่าฝูงคืออะไร หมาต้องเคารพเรา เราต้องมีหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมที่ให้หมาคอยตามเรา พวกนี้ก็คืออะไร เวลาเดินหมาต้องเดินข้างๆหรือเดินตามหลัง จะเข้าออกประตู หมาต้องให้เราเข้าออกก่อนแล้วเขาค่อยเดินตามมา ไม่ใช่แบบเดินปุ๊บหมาตัดหน้า อะไรประมาณนี้ เวลากินข้าวเขาต้องรอก่อนที่เราจะให้เขากิน แล้วการฝึกแบบ Balance ก็คือถ้าหมาทำดีเราให้รางวัล ถ้าหมาทำไม่ดีการลงโทษจะตามมา สิ่งต่อมาก็คือการเสริมแรงทางบวก ซึ่งเดี๋ยวนี้ต่างประเทศจะโฆษณาเยอะมาก
การฝึกหมาแบบเสริมแรงทางบวก บางคนจะมาที่เป็นภาษาอังกฤษ คือ Pure Positive Reinforcement คือฉันจะไม่ลงโทษหมาเลย การกระตุกสายจูงหมา การตี การทำเสียงดุหมา สำหรับสายนี้นะ เขาจะไม่ ถามว่าฝึกหมาได้ไหม ฝึกได้เหมือนกัน ใช้เวลานานไหม ใช้เวลานาน เพราะวิธีนี้คือวิธีที่เขารอพฤติกรรมดีอย่างเดียว พฤติกรรมดีมาปุ๊บเขาให้รางวัล พฤติกรรมดีไม่มาเขาเพิกเฉย ซึ่งบางที่ที่เราเพิกเฉยพฤติกรรมไม่ดีอย่างนี้ มันก็เหมือนกับการลงโทษแบบนิดๆน่ะ แต่มันอาจจะไม่ถึงขั้นตบตีหมาอะไรประมาณนั้น อีกอันนึงก็คือการสร้างเงื่อนไข พวกนี้จะใช้อุปกรณ์นะคะ อย่างเช่น clicker หรือว่าปลอกคอไฟฟ้า เพื่อให้หมารู้ว่าเสียงนี้มันคืออะไร การสั่นอันนี้มันคืออะไร เหมือนที่ว่าในวิทยาศาสตร์สมัยก่อนที่ว่าเขาฝึกกระดิ่งหมา ที่พอเอากระดิ่งมาแล้วหมาน้ำลายไหลน่ะ นี่คือการสร้างเงื่อนไข อารมณ์เดียวกัน ของไทนี่ ไทนี่เขาจะฝึกโดยการสร้างเงื่อนไขคือใช้ปลอกคอไฟฟ้า ทุกครั้งที่ปลอกคอสั่นหรือปลอกคอมีเสียง เขารู้ว่าหน้าที่เขาคือต้องวิ่งกลับมาหาเจ้าของนะคะ เพราะฉะนั้น 3 วิธีนี้เนี่ย บางคนก็ฝึกแบบ hardcore ไปเลย คือฉันจะฝึกแต่วิธีนี้วิธีเดียว วิธีอื่นไม่เอา บางคนก็มั่วๆกันไป เพราะสุดท้ายแล้วมันถามว่ามันมีความซับซ้อนไหม ทุกอย่างมันมีความซับซ้อนกันหมด แล้วถามว่ามันมีวิธีฝึกที่ถูกต้องไหม มันไม่มี แล้วมีวิธีฝึกที่ผิดมีไหม ก็ไม่มีเหมือนกัน มันมีแต่วิธีฝึกที่คุณเข้าใจหรือเปล่า มัน make sense กับเจ้าของไหม ต่อให้คนอธิบายอะไรมาทั้งหมด แต่ถ้ามันไม่ make sense กับเราอ่ะ เราก็ไม่สามารถที่จะปฏิบัติมันได้ถูกป่ะ เนาะ เพราะฉะนั้นเนี่ย สำหรับตัวแน็ตเองเนาะ แน็ตใช้วิธีฝึกแบบการส่งผลกระทบ คือแน็ตใช้ทุกวิธีรวมกัน แน็ตใช้ทั้งวิธีการสร้างเงื่อนไข แน็ตใช้ทั้ง Positive Reinforcement แน็ตใช้ทั้ง Balance และการเป็นจ่าฝูง แต่ทั้งหมดทั้งปวงเนี่ย concept เนี้ย จะสื่ออย่างเดียวคือ ไม่ว่าหมาจะทำอะไรก็ตาม มันจะมีเอฟเฟคตามมา ถ้าเขาทำดี เอฟเฟคตามมาคือแล้วอะไร เราให้รางวัล ถ้าเขาทำไม่ดี เอฟเฟคที่ตามมาคืออะไร การลงโทษจะตามมา มันเหมือนกับเวลาคุณออกกำลังกาย คุณกินอะไรเข้าไป กินน้ำตาล คุณกินเค้ก กินอะไรที่แบบอ้วนๆน่ะ ผลกระทบที่ตามมาคืออะไร เราอ้วน แล้วต่อให้คนมาพูดอะไรก็ตาม สุดท้ายถ้าคุณอยากจะกลับมาผอมเหมือนเดิม สิ่งที่คุณทำได้คืออะไร คุณต้องออกกำลังกาย คุณลดอาหาร พวกนี้มันคือเอฟเฟคที่ตามมาหมดเลย ถ้าเจ้าของไม่เลือกที่จะเป็นคนส่งเอฟเฟคหรือผลกระทบพวกนี้ให้หมา คุณคิดว่าใครจะต้องเป็นคนโดนผลกระทบนี้แทน เจ้าของจะโดนแทน ถ้าเวลาเราเดินกับหมา หมาดึงไปข้างหน้าแล้วเราไม่กระตุกหมา ส่งผลกระทบให้หมา สิ่งที่เราต้องเสียแทนคืออะไร เราก็ต้องโดนหมาลากไป เพราะฉะนั้นจำไว้ว่าผลกระทบมันต้องลงกับใครสักคนแหละ ไม่หมาก็คน แรงสุดคืออะไร ไปลงกับคนอื่น ไปลงกับหมาตัวอื่น ซวยกันไป
เมื่อไรที่ควรจะเริ่มฝึกสุนัข เราควรจะเริ่มฝึกสุนัขให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนใหญ่ที่ทำได้หลักๆเลยนะ สำหรับเจ้าของทั่วไปโดยที่ท่านไม่ใช่ครูฝึกสุนัขนะ สิ่งที่คุณทำได้นั่นคือวันแรกที่คุณเอาหมามาเลี้ยงน่ะ คุณต้องสร้างเงื่อนไขให้หมาละ นี่คือที่ๆคุณนอน นี่คือที่ๆคุณกิน นี่คือที่ๆคุณขับถ่าย เก้าอี้ห้ามโดด เตียงนอนห้ามขึ้น ชั้นบนห้ามขึ้น อะไรว่ากันไป ถ้าคุณตั้งกฎระเบียบให้หมาตั้งแต่วันแรกนะ เขาเข้าใจ เขาจะรู้แล้วว่า อ๋อ ตรงนี้ไปไม่ได้ อ๋อ นอนตรงนั้นนะ กินตรงนั้น ขี้ตรงนู้น อะไรก็ว่าไป แต่เจ้าของส่วนใหญ่วันแรกที่ได้หมามาคืออะไร เอาเลยลูก เต็มที่เลยลูก ตามสบาย หนูอยากทำอะไรทำเลยลูก บ้านนี้เป็นของหนูหมดเลย นึกออกป่ะ เสร็จแล้วก็มาสงสัยทีหลัง ทำไมหมามันไม่ฟังพี่เลยคะ ทำไมหมามันอยากขี้ตรงไหนมันก็ขี้หมดไปเลยล่ะคะ อ้าว ก็วันแรกมาพี่ไม่คิดจะบอกหมานี่คะ เขาก็เลือกของเขาสิ มุมนี้มันน่าจะใช่นะ ลมมันกำลังมากำลังโกรกกำลังดี อุ่นๆ ไม่มีปัญหา งั้นปล่อยตรงนี้แล้วกัน พอเขาปล่อยตรงนี้เจ้าของไม่เคยว่านี่ แรกๆเราไม่ว่าเพราะเราเตามใจหมาถูกไหม ก็ถือว่ามันเพิ่งมาวันแรกอย่าไปกดดันหมา ตามใจมันไว้ก่อน เขาก็เรียนรู้สิว่าตรงนี้ฉี่ได้ แล้วทีนี้เราจะมาสร้างเงื่อนไขให้หมาทีหลังหลังจากนั้นเนี่ย ถามว่าได้ไหม ได้เหมือนกัน แต่ใช้เวลาไหม ใช้เวลา เพราะหมาจะถือว่า ก็ทุกทีขี้ตรงนี้ก็ได้นี่หว่า ทำไมอยู่ดีๆวันนี้ห้ามขี้ ไม่เข้าใจ งง แล้วเราฝึกหมาเนี่ย เราไม่คุยกับหมา เราไม่สามารถอธิบายให้เขาฟังได้ว่า ขี้ตรงนี้ไม่ได้นะลูก มันเป็นวงที่มาม๊านอน ถ้าหนูขี้ตรงนี้เนี่ยมาม๊านอน ถ้ามาม๊าลงมาเหยียบขี้หนูมาม๊าลื่นหัวแตก เขาฟังไม่รู้เรื่อง เขาไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างเขาเรียนรู้จากประสบการณ์ ถ้าเขาขี้ตรงนี้แล้วอยู่ดีๆเจ้าของเดินมาทำเสียง อ๊ะ! อย่านะ เขาก็จะ โอ๊ะ ขี้ไม่ได้ แล้วเดี๋ยวเจ้าของก็ต้องใส่สายจูงแล้วลากไปจุดที่จะให้มันขี้ อ่ะ ขี้ตรงนี้ พอมันขี้แล้ว เออ ก็ขี้ได้นี่หว่า ไม่มีใครว่าอะไร อ๋อ ต่อไปนี้ ขี้ตรงนี้นะ พูดเหมือนง่ายนะ แต่ใช้เวลา เพราะเขาก็ต้องกลับมาจุดเดิม ก็ตรงนี้ฉันเลือกอ่ะ เพราะฉะนั้นฝึกหมาอีกอย่างก็คืออย่าให้ Option หมา อย่าให้หมาเลือกว่า มาไหมลูก มาหาแม่ไหม นั่งไหมลูก กินข้าวไหมคะ อย่า มันมีคำสั่งเดียวเลย มา เรียกให้มาจงมา สั่งให้นั่งคุณต้องนั่ง เพราะฉะนั้นห้ามเลยห้ามที่จะแบบว่าเอาไหม ให้ Options เลือกได้ จะทำหรือไม่ทำ เพราะถ้าคุณให้เขาเลือก เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ เขาก็ต้องเลือกสิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับเขา มันฟังดูโหดร้ายนะ แต่ถ้าคุณอยากมีหมามารยาทดี อยากมีหมาที่เราคุมเขาได้ นี่คือวิธีที่ต้องทำ
การทักทายสุนัข อันนี้ก่อนที่จะอธิบายเพิ่มเติมเนี่ย เราต้องย้ำกันก่อนนะว่าเราไม่รู้จักใครในนี้เลยนะ ทุกคนไม่มีใครรู้จักแน็ตเนาะ รู้สึกยังไงคะ ประหลาดไหม รู้สึกแบบ อีนี่เป็นอะไร มือเหม็นปลาร้ามากเลยมาทำอะไรแถวนี้ นี่คือสิ่งที่เจ้าของทำเวลาคุณทักทายมาหมา หมาจร หมาคนอื่น ท่านี้หมดเลย ดมสิลูก ดมเลย ดมเลยลูก ดมๆ แล้วหมาส่วนใหญ่ก็งาบกลับมา เพราะอะไร 4 อย่างเลย คุณไปมองตาหมา คุณไปเรียกหมา คุณไปแตะต้องหมา แล้วคุณก็เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของหมา 4 ข้อนี้สำคัญมาก เพราะอะไร หมาทุกตัวไม่พร้อมที่จะเจอเรา จำไว้คำนี้เลยนะ หมาทุกตัวไม่พร้อมที่จะเจอเรา เอาง่ายๆ อย่างไอ้ตัวเนี้ย ไอ้ตัวขาว ชื่อ เอ็มม่า เขาเป็นหมาขี้ตื่นเต้น ถ้าเราไปมองตาเขาหรือไปแบบเอ็มม่าๆๆ สิ่งที่เอ็มม่ารู้สึกคือ โอ้ พระเจ้า เธอเห็นฉันแล้ว ตื่นเต้นมาก กระโดดงาบไปเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้กับหมาตัวนี้ที่ดีที่สุดคือ อย่าไปยุ่งกับเขา อย่าไปมองเขา เพราะถ้าเราเดินเข้าไปหาเจ้าของเขาโดยที่เราไม่สนใจหมา หมาก็จะมีความรู้สึกว่า คนไม่เห็นฉันนี่หว่า เพราะมันง่ายๆมากเลยนะ สบตาปุ๊บเมื่อไหร่มันจะรู้เลยว่าเรามองเห็น ถ้าไม่สบตาเขาก็ถือว่าเรามองไม่เห็น กฎของหมามีแค่นี้เองเพราะฉะนั้นหมาที่ขี้กลัวหรือหมาที่ตื่นเต้น การที่เรายิ่งไปมองหน้าเขา พูดถึงขี้กลัวก่อนเนาะ ถ้าหมาขี้กลัวนะ การที่เราไปมองเขา เขาก็จะรู้สึกว่าตายห่าแล้วกูเริ่มมีตัวตน คนเริ่มมอง ไม่ไว้ใจ เอายังไง หลบไม่ได้ ติดดฝาแล้ว อะไรอย่างเนี้ย หรือว่าการที่เราเรียก คือทั้งหมดทั้งปวงมันขึ้นอยู่กับ Concept เดียวกันหมดเลย คือทำให้หมามีความรู้สึกว่าเขามีตัวตน ทั้งๆที่อยู่ในสถานการณ์ที่เขามีความรู้สึกว่ากูไม่อยากมีตัวตน อย่าเข้ามา ไม่พร้อม ไหว้ล่ะเลิกยุ่งเหอะ เอาง่ายๆเลยเปรียบเทียบให้กับเหมือนคนที่เป็นพวกชอบรักสันโดษน่ะ คุณมีความสุข แฮปปี้มากเลยกับการได้อ่านหนังสือในห้องสมุดอยู่คนเดียว แล้วนึกสภาพถ้าอยู่ดีๆมีวันนึงมีคนมานั่งตรงข้าม แล้วก็เริ่มมานั่งคุย สวัสดีค่ะ วันนี้มาอ่านหนังสือหรอคะ อ่านเรื่องอะไร อ่านไปกี่เล่มแล้วอ่ะ คุยกันหน่อยสิ เราก็จะเริ่มรู้สึกแบบ เฮ้ย ขอกูอยู่คนเดียวได้ไหม เหมือนกัน ของมนุษย์เรายังคุยกันได้ว่า ขอโทษนะคะ ขออ่านหนังสือเงียบๆได้ไหม ไปเถอะ ใช่ไหม หมาเขาพูดไม่ได้ เขาน่าจะส่งภาษากายที่ให้รู้ว่ายังไม่พร้อม แม่จ๋าหนูไม่พร้อม เอากลับบ้านเถอะ อะไรอย่างเงี้ย ซึ่งเจ้าของและมนุษย์ส่วนใหญ่มักจะไม่เห็นสัญญาณพวกนั้น เพราะฉะนั้น Option สุดท้ายที่เขามีในเมื่อเขาหนีไม่ได้ เขาก็ต้องสู้ อันนี้ใช้ได้ทั้งคนและกับหมาด้วยกันเองนะคะ
พื้นที่ส่วนตัว พื้นที่ส่วนตัวคืออะไร คือ 50 เซนติเมตรจนถึง 1 เมตรรอบตัวเรา นี่คือพื้นที่ส่วนตัว เหมือนกับที่เมื่อกี๊ ที่อยู่ดีๆแน็ตเดินมา เข้ามาท่านี้เลย สวัสดีค่ะพี่ ใช่ เราก็จะรู้สึกแบบ เอ่อ เอ็งใจเย็น เรายังไม่สนิทกันขนาดนั้น เหมือนกัน การที่หมาอยู่ดีๆเดินเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวเราเลยอ่ะ คนส่วนใหญ่จะคิดว่า นั่นแหละคือการที่เราอยู่ดีๆเราเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวเขาทั้งๆที่เขาส่งสัญญาณมาแล้วว่าอย่าเข้ามา อย่าอะไรประมาณนี้ แล้วถ้าเรายังเพิกเฉยสัญญาณพวกนั้น หมาเขาก็มี 2 ทางคือเขาวิ่งหนีไปเลย ไม่ก็เขากระโดดกัดเราเลย เจ้าของส่วนใหญ่จะคิดว่าการที่หมาเดินมาหาเรานี่แหละ คือหมามันต้องรักเรานะ เขารักเรามากเลย แต่จริงๆแล้วไม่ หมาเขากำลังจะบอกให้รู้แล้วว่า เฮ้ย ฉันใหญ่กว่าแกนะ เพราะฉันเข้ามาในพื้นที่แกได้ แล้วสิ่งที่มนุษย์ทำคืออะไร งุ้ย น่ารักจังเลย หมาก็แบบ ใช่เลย นี่แหละ กูมี Power กูมีอำนาจ กูคุมทุกอย่างในบ้านนี้แล้ว อะไรประมาณนี้ อีกวิธีหนึ่งก็คือถ้าไม่ใช่หมาที่แบบว่าจะมา ใช่ พื้นที่ส่วนตัว เพราะฉะนั้นทำไมเวลาเราจูงหมาของเราอย่างเงี้ย หมาอีกตัวนึงอยู่ดีๆวิ่งมาเลย โอ้ กูพังทุกอย่าง กูเข้ามา หมาเรานี่กระโดดงาบไปแล้ว อารมณ์เดียวกันคือพื้นที่ส่วนตัว กรุณาอย่าเข้ามา เพราะฉะนั้นจำไว้พื้นที่ส่วนตัวของเราสำคัญมากนะ ถ้าแน็ตเรียกให้หมามา สิ่งที่แน็ตต้องการคืออะไร อยู่แค่ตรงนั้นแหละ หมาที่บ้านจะรู้ว่าเขาเข้าได้ถึงตรงไหน แล้วเขาก็จะนั่งรอแบบ เดินได้ยัง โอเคไหม พอไหมแม่ อะไรอย่างนี้ พอเราเรียกให้เข้ามาเขาถึงจะเข้ามา วิธีนี้ก็เอามาใช้กับตอนให้อาหารหมาได้เหมือนกัน เพราะเวลาเราถือชามอาหารหมา เราไม่ต้องการให้หมาเข้ามาเองในพื้นที่ส่วนตัว เพราะมันคืออะไร เฮ้ย กูกินอยู่ กรุณาให้พื้นที่นิดนึง สงสัยอะไรไหม ไม่สงสัยนะ โอเค สอนเก่งมาก อ้อ อีกอันนึง ขออภัย ย้อนกลับไปใหม่ พวกกลัวหมาขี้กลัวจะชอบมายืนอิง อีกวิธีหนึ่งที่เขากำลังจะบอกให้เรารู้แล้วว่าเขามีอำนาจเหนือเรา คือหมาชอบมาอิง กับอีกอันคือ ชอบเอาตีนมาวางบนตีนเรา หรือมาวางบนขาเรา หรือหนักหน่อยวางบนไหล่เรา อะไรประมาณนี้ เจ้าของก็จะ ว้าว หมารักฉัน ถ้าหมาปกติส่วนใหญ่เขากำลังจะบอกแล้วว่าฉันน่ะเป็นเจ้าของแกนะ เพราะฉะนั้นไปเอาข้าวให้ฉันกินซะ อะไรประมาณนี้ แต่ถ้าหมาที่ขี้กลัวแล้วเขาทำท่านั้นน่ะ ส่วนใหญจะเอามาพิง หรือเอาเท้ามาวาง อันนี้คือเขากำลังจะบอกเราแล้วว่า ไม่สบายใจ ขอช่วย support หน่อย ช่วยฉันนิดนึง ซึ่งเวลาเราฝึกหมาพวกนี้เราจะไม่ให้เขาพิง ถ้าเขาพิงปุ๊บเราต้องดันออก ซึ่งข้อนี้สำคัญมากเพราะเวลาหมาเข้ามายืนพิง พอเขาเอียงมาโดนเราปุ๊บ สิ่งที่เราทำคือเราเดินหลบ หมาเรียนรู้อะไร มันเข้า Space เราละ มัน invade พื้นที่เรามาแล้ว เมื่อกี้มีพี่ข้างหลังคนนึง เขาเอาวีดีโอให้ดู หมาเขาอยู่ดีๆก็มากัดเขา เหมือนเขาหวงอะไรบางอย่าง น่าจะหวงพื้นที่ตรงนั้นแหละ แล้วเจ้าของเดินผ่านไปหมาก็กระโดดเลย แบบงาบๆมาเลย ดีนะมันยังไม่เป็น คือแบบรัวๆมาเลย สิ่งที่เราชี้ให้เจ้าของคืออะไร ทุกครั้งที่หมากระโดดเข้ามา เจ้าของถอย นึกออกป่ะ พอยิ่งเขาเดินเข้ามา เจ้าของถอยๆ สุดท้าย เจ้าของเข้าบ้านไปค่ะ คือหมาต้องการบอกอะไร พื้นที่นี้ของกู เข้าบ้านไปซะ อยู่นิ่งๆเงียบๆ
ฉะนั้นข้อนี้จำไว้นะ พื้นที่ส่วนตัวสำคัญมาก สำคัญมากๆเลย ที่นี้เนี่ย เรื่องของการเข้าหาสุนัขด้วย Energy หรือ inner ก่อนที่เดี๋ยวจะโชว์ให้ดูนะคะ ถ้าใครดู Cesar Millan เขาจะชอบพูดคำว่า Energy Energy คืออะไร Inner คืออะไร Energy กับ Inner คือสิ่งที่เราสื่อจากข้างใน ไม่ใช้คำพูด ทุกสิ่งทุกอย่างสื่อจากภาษากาย สายตาและท่าทาง เพราะมันคือวิธีที่หมาคุยกัน เอาง่ายๆเลยเหมือนพวกดารานักแสดงในหนังในทีวีอ่ะ ตัวตนบทละครเขาตอนนั้นน่ะ เขาต้องสื่อออกมาให้รู้ว่าตอนนี้ปวดมากเลยนะ ตอนนี้ตัวละครเขากำลังโกรธมากเลย เขาต้องสื่อจากข้างใน เพราะหนังบางเรื่อแทบไม่คุยกันเลย แต่เรารู้สึกถึงอารมณ์ทุกอย่างผ่านทางตัวละคร มันคืออารมณ์เดียวกันนะคะ เดี๋ยวแน็ตขออาสาสมัครคนนึงได้ไหม ขึ้นมาเลยๆ เอาเลยค่ะพี่เสื้อดำ ไปยืนตรงนู้นเลยค่ะ ทีนี้เนี่ย การเข้าหาด้วย Inner ที่ต่างกัน คือ Inner ที่สูงกว่า หรือ Inner ที่ต่ำกว่า เดี๋ยวแน็ตจะเข้าหาพี่เขาให้ดูนะ
แน็ต : รู้สึกยังไงคะ
อาสาสมัคร : กลัวครับ
แน็ต : กลัวใช่ไหม โดยที่เราไม่ได้พูดอะไรเลย เพราะอะไร ร่างกายเรา อกผาย ไหล่ผึ่ง หน้าตึง นมตั้ง ให้เขารู้ว่า เฮ้ย อันนี้เป็นที่ฉันนะ แล้วหมาที่ว่ากัดๆเจ้าของจนเจ้าของเข้าบ้านน่ะ คือเขาอารมณ์เดียวกันเลย คืออะไร เขาเข้าท่านี้ เข้าท่าที่อกขึ้น แล้วเขาก็เข้าท่านี้ สิ่งที่เจ้าของทำคืออะไร ตกใจ ถอยหนี ถอยเข้ารูไปเลย นี่คือการเข้าหาที่สูงกว่า ทีนี้เราจะมาเข้าหาด้วย Energy ที่ต่ำกว่า
แน็ต : เนี่ย รู้สึกยังไง
อาสาสมัคร : โอเคกว่าเลยครับ
แน็ต : นี่ไม่ได้เตี๊ยมกันมาก่อนเลยไม่ค่อยตรงเท่าไร คือรู้สึกว่ามันซอฟต์กว่าไหม รู้สึกแบบว่าไว้ใจกว่าใช่ไหม ขอบคุณมากค่ะ เชิญนั่ง การเข้าหาหมาที่สูงกว่า เราจะเข้าหาหมาที่ดุ ที่หวงอาหาร เข้าหาโดยใช้พลังงานพวกนี้ เพื่อให้เขารู้ กูเอาจริงนะ มึงลองกัดกูสิ กูกัดมึงกลับนะ แต่ถามว่าเรากัดเขากลับไหม ไม่กัด เพราะกัดไม่ได้ค่ะ แต่เรากำลังจะสื่อให้เขารู้ว่าถ้าคุณทำอะไรเรามา เราพร้อมที่จะสู้กลับ ทีนี้การเข้าหาหมาด้วย Energy ที่ต่ำกว่า นั่นคือเข้าข้างๆ อันนี้คือใช้สำหรับหมาที่ขี้กลัว ที่ว่าเจอกันครั้งแรกใช้วิธีเข้าวิธีนั้น คือเดินเข้าไป ไม่ต้องมองหน้า ไม่ต้องเรียก ไม่ต้องอะไรเดินเข้าไปแล้วเราก็นั่งให้หมาดม เพราะสิ่งที่เราต้องการจากหมาคือท่านี้ การที่เขายกจมูกขึ้นเนี่ยคือเขากำลังดมเราแล้ว พอเขาดมเราเขาก็จะเริ่มทำความเข้าใจแล้วว่า ไอ้นี่มันเป็นใคร กลิ่นนี้ไม่เคยได้กลิ่นเลย หรือแบบ อ๋อ กลิ่นนี้รู้จักๆ มาบ่อยๆ ชอบเอาของกินมาให้ ทีนี้พอหมาดมแล้วเนี่ย สิ่งถัดไปก็เป็นเรื่องของเขา เขาอยากจะมาเล่นกับเรา หรือเขาอยากจะเดินหนีไป เป็นเรื่องของเขา แต่เราทำให้เขารู้แล้วว่าเรามาแบบไม่มีพิษไม่มีภัยนะเว้ย หมาดมๆ หมาก็ โอเค เล่นก็ได้วะ หมาก็จะเดินมา แล้วค่อยมายืนแบบ เอียงหัวให้ เล่นสิ เกาป่ะ อะไรประมาณเนี้ย หมาบางตัวคืออะไร ดมๆๆเสร็จ แล้วหมาก็ อืม ไปละ จบ แล้วก็เดินไป ซึ่งคนที่ทำผิดส่วนใหญ่คือ จะไปไหน กลับมาเล่นกันก่อน กลับมาๆ รักฉันนะๆ หมาก็หันกลับมางาบให้ แล้วคนก็จะแบบผิดตรงไหนอ่ะ ทำไมหมายังมางาบอ่ะ มันก็อารมณ์เหมือนคุณไล่ตามหาความรักที่เขาไม่ได้รักคุณกลับมาน่ะ นึกออกป่ะ มันแปลกประหลาด
นั่นแหละ ทีนี้เนี่ย วิธีหยุดหรือสนับสนุนพฤติกรรมสุนัขที่เราต้องการหรือไม่ต้องการนะคะ วิธีก็คือการให้รางวัลและการลงโทษ มีแค่ 2 วิธีแหละ การให้รางวัลคืออะไร การให้รางวัลไม่ใช่อาหารอย่างเดียว การให้รางวัลคือทุกสิ่งทุกอย่างที่หมาต้องการตอนนั้น เข้าใจนะ ตรงกันนะ ไม่ใช่อาหารนะ ไม่ใช่ของเล่นด้วย ถ้าตอนนั้นเขาอยู่ในกรง เขาเห่าหอน เขาตะกายกรง เขาต้องการอะไร ต้องการออกมาจากกรง ถ้าเราเปิดให้เขาออกจากกรง หมาเรียนรู้อะไร อ้อ เมื่อกี๊ตะกายเลยได้ออก เพราะฉะนั้นเนี่ยพอเรารู้แล้วว่าหมาต้องการอะไร เราจะเอาพฤติกรรมไหนมาจับคู่กับคำตอบตรงนั้นเนี่ยมันเป็นเรื่องของเราแล้ว คุณจะรอพฤติกรรมที่หมาตะกายกรง เห่าหอน หรือคุณจะรอพฤติกรรมที่หมานั่งนิ่งๆ แล้วค่อยปล่อยออกมา ตรงนี้มันเป็นเรื่องของเจ้าของแล้วว่าจะเอายังไง จะสอนอะไรกับหมา เพราะหมาส่วนใหญ่ให้เขากรงก็ไม่ค่อยมีใครชอบเข้าหรอก น้อยมากที่จะแบบเข้าไปแล้วก็นอนเลย ส่วนใหญ่พอเข้าปุ๊บปิดกรงก็สติแตกโวยวายประมาณนั้น ส่วนเรื่องการลงโทษ การลงโทษเนี่ยเราไม่อยากให้คิดว่ามันคือการตบตีหมานะ อย่าเข้าใจผิดนะ การลงโทษคือเอฟเฟคที่เราให้กับหมา ในระยะเวลาตอนนั้น อย่างเช่นสมมุติถ้าต้องให้อาหารเนี่ย ถ้าเราถือชามมาแล้วหมากระโดดกระโดดๆๆ แล้วเราไม่ให้เขาอ่ะ การที่เราเพิกเฉยเขาก็คือการลงโทษเขาละ เวลาเราเดินสายสายจูงกับหมา เราเดินๆอยู่แล้วหมาเดินนำหน้า เรากระตุกสายจูง ปึ้บ! อันนี้ก็คือการลงโทษหมา เราลงโทษเพื่อให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำ ณ ตอนนั้นน่ะมันไม่โอเคนะเว้ย เพราะฉะนั้นเนี่ย ถ้าลงโทษเนี่ย คุณควรจะลงโทษให้แรงทีเดียวจบ อย่าแบบว่าดึงสายจูงแล้วพูดซ้ำๆๆว่า หยุดเถอะลูก หยุดๆๆ หมาก็ไม่เข้าใจอ่ะ งงอ่ะ หมาก็เริ่มหงุดหงิด คนก็เริ่มหงุดหงิด สติแตกบรรลัยเกิด แต่ถ้าเรากระตุกสายจูงทีเดียวเลย จบ หมาก็จะ โอเค ไม่ทำแล้ว เพราะฉะนั้นเนี่ย ถามว่าแน็ตแนะนำให้ตีหมาไหม ในบางกรณีถ้ามันจำเป็นต้องตี มันก็ต้องตี แต่การที่ควรจะตีเนี่ย ควรจะตีแบบ ป้าบเดียวจบ ไม่ใช่ผั้วะๆรัวๆ ทำไมไม่ฟังกูเลย ซ้อมหมา อันนี้ไม่ได้เรียกว่าลงโทษหมาละ อันนี้เรียกว่าทำร้ายร่างกายหมา แต่ทั้งหมดทั้งปวง เราต้องทำด้วยอะไร เราต้องสงบนะ เพราะถ้าเราอารมณ์เสีย หงุดหงิด เราโมโห เราลงโทษไป หมาไม่ฟัง แย่สุดคือมันหันกลับมาสู้เราด้วยซ้ำ เพราะเราไม่สงบ การที่เราจะสงบ ไอ้ของพวกนี้มันต้องไปฝึก เหมือนการนั่งสมาธิอ่ะ คือตัวแน็ตไม่นั่งสมาธินะ แต่พอคุณนั่งสมาธิได้ถึงจุดนึง คุณจะมีความรู้สึกว่า โอเค เราต้องจัดการปัญหาด้วยความสงบ เหมือนคนทำงานเป็นแอร์โฮสเตสบนเครื่องบิน เครื่องบินจะตก คิดว่าจะแอร์โฮสเตสจะสงบ หรือแอร์โฮสเตสจะสติแตก ถ้าแอร์โฮสเตสสงบ คุมสถานการณ์ทุกอย่างด้วยความสงบ แต่ถ้าแอร์โฮสเตสสติแตก อะไรอย่างเนี้ย คนก็จะแบบ เอ่อ มึงก็ดูไม่รอด แล้วกูจะไหวไหมเนี่ย อะไรประมาณนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องจัดการสถานการณ์ทุกอย่างด้วยความสงบ ย้ำ สงบเท่านั้นถึงจะครองโลก ส่วนการให้รางวัลเนี่ย ถ้าเกิดจะให้ขนม สำหรับฝึกคำสั่งพื้นฐานเนี้ย แบบว่าเรียกมา เอ้านั่ง เจ้าของส่วนใหญ่คือทุกครั้งที่ทำคือให้ขนม ปัญหาที่ตามมาคือพอไม่มีขนม หมาไม่ทำ พอมันดมๆละไม่มีอะไรในมือนี่หว่า ทำไมต้องทำล่ะ อย่างนี้เขาเรียกว่าเกิดปัญหาติดบนหมา วิธีแก้ก็คือ สมมุติเอามาฝึกคำสั่ง เพราะรู้แล้วว่ามันเข้าใจคำสั่งแล้วว่านั่งคืออะไร สมมตินะ ทุกครั้งที่พอเขานั่งปุ๊บแล้วให้ ขนมครั้งที่ 2 ให้ขนม ครั้งที่ 3 ชมเก่งมากๆ ครั้งที่ 4 ให้ขนม ครั้งที่ 5 ให้ขนม ครั้งที่ 6 เก่งมากๆ ไม่ได้ให้ขนมทุกครั้ง เปลี่ยนจากขนมเป็นเล่น แล้วสุดท้ายเปลี่ยนจากขนมก็ค่อยๆหายไปๆ จนกลายเป็นเล่นมากกว่า พอจากเล่นปุ๊บ ก็ค่อยๆหายไปเรื่องการเล่นกลายเป็นไม่ให้อะไรเลย นั่งก็คือนั่ง จบ ทีนี้หมาก็จะเริ่มเรียนรู้แล้วว่า อ๋อ ทุกครั้งที่นั่งเนี่ย มันจะได้อะไรบางอย่างหรืออาจจะไม่ได้อะไรเลย อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แต่ว่าไม่เป็นไรขอนั่ง เพราะว่าเผื่อได้ขนม ได้เล่น หรือไม่ได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นได้อะไรบางอย่างอัน 2 อันนะคะ อันนี้เหมือนเอาไว้ใช้ฝึกคำสั่งเรียกกลับมา เจ้าของส่วนใหญ่จะมีปัญหาคือเรียกไม่กลับเลยค่ะคุณน้อง หลุดออกจากบ้านไปวิ่งทุ่งลาเวนเดอร์มาก หายไปเลย เหนื่อยแล้วถึงกลับประมาณนั้น เราก็จะสอนเจ้าของว่า คุณต้องฝึกเขาเรียกกลับมา พอเรียกกลับมาปุ๊บให้ขนมเขากิน แล้วก็ปล่อยเขาไป เพราะอะไร ส่วนใหญ่คือเรียกกลับมาปุ๊บ ใส่โซ่ เดินกลับบ้าน หมางง กูยังเล่นอยู่เลยอ่ะ กลับบ้านแล้วหรอ อะไรวะ งั้นรอบหน้าไม่มาละ มาทีไรกลับบ้านทุกทีเลย น่าเบื่อ เราก็ต้องเรียก มาเร็วๆ แล้วให้ขนม แล้วให้เขากลับไป ไปเล่นต่อ สักพักมาใหม่ๆ มาๆให้ขนม เอ้า กลับไป ครั้งที่สามเรียกมาอีก อ่ะมาๆ เก่งจังๆ เอ้า กลับไป ครั้งที่สี่เรียกมาคิดว่ามันจะมาไหม มา เพราะอะไร กูรู้ว่ากูได้อะไรบางอย่างแน่ๆ พอมาปุ๊บใส่สายจูงเดินกลับบ้าน ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะอะไร เดี๋ยวรอบหน้าเรียกนะอาจจะได้ขนมก็ได้ เพราะส่วนใหญ่ที่เขาได้คืออะไร เขาไม่ได้ขนมเขาก็ได้ความรัก กลับบ้านคือสิ่งที่ได้น้อยที่สุดต้องจำไว้นะ
เดี๋ยวเราจะยกตัวอย่างให้ดูเกี่ยวกับการสนับสนุนพฤติกรรมที่ต้องการ หรือว่าการที่เราไม่ต้องการพฤติกรรมนั้นๆ โดยการใช้เรื่องการให้อาหารสุนัข การให้อาหารสุนัขมันสำคัญมาก เพราะถ้าคุณสามารถควบคุมหมาคุณได้ เวลาให้อาหารสุนัขคือมีชัยไปแล้วกว่าครึ่ง เพราะในสังคมหมาด้วยกันเองเรื่องอาหารเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดนะ จ่าฝูงเท่านั้นที่จะได้กิน จ่าฝูงกินตัวแรกเลย จ่าฝูงกินเสร็จแล้ว เบื่อแล้ว เขาก็จะเดินไป ตัวอื่นก็ค่อยเข้ามากิน ไม่รู้ในนี้มีใครเคยไปให้อาหารหมาจรไหม จะรู้เลยตัวไหนเป็นจ่าฝูง มันจะเดินเข้ามาแล้วมันกินก่อนใคร เดินผ่านมาข้างๆ มันง่ำอย่างเดียวเลย อารมณ์เดียวกัน เดี๋ยวจะขอใช้บริการไทนี่ ถ้ามันมานะ นี่คือหูวัว การให้อาหารหมาคืออะไร เราถืออาหารอยู่ในมืออย่างนี้ ไม่ใช่ว่าเขาจะมากินได้ ไม่ใช่ว่าเขาจะกระโดดมางาบ ไม่ใช่ว่าเขาจะเริ่มเห่าโวยวาย การที่เราเอาอาหารลง อาหารตกพื้น ไม่ได้แปลว่าเขามีสิทธิ์มากิน สำคัญนะ ตัวนี้ถูกฝึกมา ไม่ว่าการที่เราเดินไป ก็ไม่ได้แปลว่าเขากินได้ ต่อให้เราไม่อยู่ข้างหน้าอาหารเขา เขาก็ไม่มีสิทธิ์กิน แต่ถ้าตามธรรมชาติเนี่ยถ้าไม่ได้ฝึงถึงขั้นนี้นะ ถ้าเราเดินไปเขากินได้อันนี้ก็โอเค แต่อันนี้คือห้ามกิน แล้วเขาก็จะมองตาม ว่ากินได้ยังๆ โอเคยังๆ ซึ่งเนี่ยเราคือรอพฤติกรรมที่ดี พฤติกรรมที่คุณนั่งนิ่งๆ พฤติกรรมที่คุณสงบ พอคุณสงบ คุณนิ่ง เสร็จแล้วทำไง อ่ะกินได้ กินไปเหอะไม่ว่า พอเดี๋ยวเขากินไปสักพักนึงเนี่ย แน็ตจะสอนวิธีเคลมอาหารหมา อันนี้อย่าว่าแต่เคลมอาหารหมาเลย บางทีหมามันเล่นอะไรอยู่ มันไปกินซากแมวหรือมันไปกินอะไรก็ตาม แล้วเราต้องการของกลับมา เจ้าของส่วนใหญ่เดินเข้าไปหมาก็งาบเราใช่ไหม ทำไมแน็ตถึงรอให้เขากินก่อน เพราะตอนนี้มันกำลังเป็นของเขาเองละ ถ้าเวลาหมากินจะสังเกตนะ ขาอยู่อย่างนี้ อาหารอยู่ข้างล่าง อกเขาอยู่ข้างบน อันนี้เขากำลังบอกแล้วว่าอันนี้เป็นของๆเขา สำหรับเจ้าของที่มีปัญหาหมาหวงอาหาร จะแก้ปัญหาได้เนิ่นๆเลยก็คือ อย่าให้อาหารกับพื้น ยกชามขึ้นสูง ให้ชามอยู่ท่านี้ หมาจะไม่มาอยู่ในท่านี้ มีใครมีขนมอยู่ในกระเป๋าเนี่ย ห้ามเอาออกมา ที่พูดนี่คือห้ามเอาออกมา เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะเคลมให้ดูเลยแล้วกันนะ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำผิดคืออะไร เอามือหยิบแล้วก็ดึงออกมาเลย ไม่ว่าจะเป็นของเล่นหรืออาหาร การที่เราอยู่ดีๆเอามือไปหยิบแล้วก็ดึงออกมาเลยอย่างเนี้ย กลายเป็นว่าเราขโมยของหมา ถ้าเราไม่มีความเป็นผู้นำ สำหรับหมาอยู่แล้วนะ ถ้าในสายตาหมาเนี่ย เขาไม่เห็นว่าเราเป็นผู้นำอยู่แล้ว คือในมุมมองหมาเราต่ำกว่าหมา แล้วอยู่ดีๆ เดินมาขโมยของมันน่ะ มันก็หวงถูกไหม และอันตรายสุดคืออะไร รอบหน้าแค่เดินผ่านแค่นั้นเอง มันกัดละ เพราะอะไร มึงจะมาขโมยของกูแน่นอน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ถูกต้องควรจะทำคือ เขากินๆอยู่นะ หยิบเลย จับอย่างนี้ คืออะไร เมื่อกี้ของวางอยู่ มือแน็ตแค่วาง แค่นั้นเองไม่ได้หยิบออก ข้างหลังถ้ามองไม่เห็นลุกขึ้นยืนได้เลยนะคะ เวทีมันต่ำ สิ่งที่เราทำคือเรากดเอาไว้ ให้เขารู้ว่าเนี่ยเป็นของเรา เพราะเราใช้ภาษากายบอกเขาแล้ว เหมือนที่หมาทำน่ะ อกอยู่ข้างบน ตัวอยู่ข้างบน ให้รู้ว่านี่คือของฉัน แล้วสิ่งที่แน็ตต้องการคืออะไร เขาเดินออกไป เพราะการที่เขาเดินถอยแค่ก้าวเดียว มันเป็นการที่เขาบอกเราแล้วว่า เออ กูยอม เอาไปเลยแม่ แต่นี่ฝึกมานะ เพราะครั้งแรกที่ได้เขามา ให้เขากินหูวัวนี่แหละ ให้เขาปล่อย เขาไม่ยอมปล่อย พอเอามือไปหยิบหูวัวในปากเขาอ่ะ เขาปล่อยนะ แล้วเขาหันมางับอีกมือ สิ่งที่แน็ตทำคืออะไร แน็ตตบปากไปทีนึง ไม่ได้ทำร้ายหมาแต่ให้เขารู้ว่าการที่มึงกัดกูเนี่ย ผลกระทบที่ตามมาคืออันนี้นะ จากนั้นไม่เคยหวงอีกเลยค่ะ แม่จะเอาอะไรแม่เอาไปเลย ซากกระรอกอะไรหนูคาบมาแม่เอาไปได้หมดทุกอย่างเลย ใช่ไหมคะ เก่งมากค่ะ ไม่ให้ความร่วมมืออะไรกับกูเลยค่ะ เอาไป เก่งมาก เย้
เดี๋ยวต่อไปจะเอาอีกตัวนึง ไอ้เตี้ยนี่เลย หวง 100% ตัวนี้ ชื่อว่ารอน รอนอายุ 7 เดือน ดูไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร แต่นี่ไม่ใช่เจ้าของเขานะ เจ้าของเขาคือยัยนั่น ยัยนั่นยังพอคุมหมาได้อยู่ ยัยนี่คุมไม่ได้เลย ไม่อยากจะบอก เขายอมให้หมาแบบว่าตะเกียกตะกายได้ทุกอย่าง คือจะเอาหมามาจูบ แล้วคือหมาบอกสัญญาณแล้วว่าอย่ายุ่งกับกู กูไม่เอา ยัยนี่ก็ยังแบบรักฉันเถอะรักฉัน สุดท้ายงสบมานี่ แล้วสิ่งที่เขาทำคืออะไรรู้ไหม เก่งมากเลย เก่งมากๆๆ แต่หมางาบหน้ามันอยู่ ครูฝึกได้แต่มองแล้วก็ถอนหายใจ เดี๋ยวเราจะให้คนนี้เขาเคลมอาหารให้ดูเขา เพราะเมื่อกี้ลองอ่ะ มีปัญหา เขาจะทิ้งของลงบนพื้นโดยที่หมาห้ามเข้ามา แล้วเดี๋ยวเราก็จะอนุญาตให้หมากินโดยการที่เราเตะอาหารไปให้เขา แล้วเดินออกมา กินสิคะลูก รอนตื่นเวทีนิดหน่อยนะคะ โอเค พองับแล้วเขาจะหาที่ซ่อน รอนเป็นหมาขี้กลัว ขี้กลัวชนิดที่เรียกว่าถ้าคนเดินเข้ามาใกล้เขาจะหลบสายตา เขาจะหลบทุกอย่างเลย ข้อดีคือยังไม่เรียนรู้ที่จะกัด ยัง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่กัดนะ ตอนนี้ เนื่องจากเป็นหมาขี้กลัว อยู่ในที่เปิด เขาจะไม่กล้ากิน ต้องไปซุกสักทีนึง ซ่อนๆกิน ซึ่งส่วนใหญ่เราจะไม่ให้ทำ เพราะพอเป็นแบบนั้นปุ๊บเนี่ย ถ้าเราเดินผ่านปุ๊บนะ มันฉกเราทันที รอนคะ รอน ช่วยกันทำมาหากินก่อนดิ จบ เดี๋ยวจะให้เขาจับอาหารหมา เห็นไหมสิ่งที่เขาทำคืออะไร เขาดึงออก หมายังไม่ปล่อยเลย ทุกทีไม่มารยาทดีอย่างนี้นะบอกไว้ก่อน เราจะให้เขาเข้าไปใกล้หมา คือพอมันไม่ห่วงก็ไปต่อไม่ได้นะเรื่องของเรื่อง แต่คือจะเห็นว่าท่าที่เขาเดินเข้าหาหมา ดูที่คนนะ ไม่ใช่ดูที่หมา คนเข้ามาแบบ Soft แบบจะเอาดีไม่เอาดี จะเข้าไหมวะ เอ้า ก็ถ้ามึงยังไม่แน่ใจในสิ่งที่มึงจะทำเลย
แต่คือจะเห็นว่าท่าที่เขาเดินเข้าหาหมา ดูที่คนนะ ไม่ใช่ดูที่หมา คนเข้ามาแบบ Soft แบบจะเอาดีไม่เอาดี จะเข้าไหมวะ นี่นั่น หมาเขาก็จะรู้สึกว่าก็ถ้ามึงยังไม่แน่ใจในสิ่งที่มึงจะทำเลย แล้วมึงจะมาเอากับกูนี่นะ มึงจะบ้าหรอวะ เพราะสิ่งที่เราต้องการจากหมาคืออะไร การที่เราเดินเข้าไป แล้วตอนนี้คือแข่งกันละ ใครจะยอมแพ้ก่อนกัน ถ้าเรายอมแพ้คืออะไร เราเดินหนี เพราะนี่มันไม่ขยับ นึกออกป่ะ นี่ลงทุนเพื่อทุกคนเลยนะเนี่ย ขนขนมมาทั้งบ้าน เอาสิลูก กินสิลูก เดี๋ยวจะให้เจ้าของเขามาเป็นคนให้ขนมนะคะ โอเค ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เรียนรู้เรื่องการให้อาหารหมา แต่เราเรียนรู้ได้อย่างหนึ่งก็คือหมาโฟกัสได้แค่อย่างเดียว ใน 1 สถานการณ์นะ เขาโฟกัสได้แค่อย่างเดียว ตอนนี้เขาจะโฟกัสอาหาร หรือเขาจะโฟกัสกับคนรอบข้าง เขาต้องเลือก ทุกคนเป็นสถานที่ใหม่ ไม่เคยมาที่นี่เลย มีแต่คนแปลกหน้า แถมมีหมาตัวอื่นอีก มันเครียด เพราะฉะนั้นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว จะให้เขาเดินเข้าไปใกล้รอน โอเคค่ะ วันนี้นอนมารยาทดีค่ะ จบ นึกว่าจะได้เห็นเลือดเห็นอะไรออกมา
ไม่เป็นไร เรากะแล้วแหละว่าอันนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะงั้นเราเลยเตรียมวิดีโอมาให้ทุกคนดู ให้ดูก่อนเดี๋ยวจะอธิบาย สรปุคือ มีหมา 2 ตัว ตัวนึงนั่งอยู่กับที่ ถึงแม้ว่าเขาจะใกล้เจ้าของก็เถอะ แต่เขาไม่ได้เหมือนไอ้นี่ ที่แบบจะพุ่งเข้ามา เอาอาหารมาให้กินซะดีๆ เขานั่ง เขาให้ space เจ้าของเขา แล้วตาเขามองเจ้าของอย่างเดียว เหมือนที่เมื่อกี๊ไทนี่มองแน็ตตลอดเวลา คือกินได้ยัง โอเคไหม ได้ไหม นี่คือสงบ นี่คือไม่สงบ เขาไม่รู้คิว เขาไม่รู้ว่าจริงๆเขาต้องทำอะไร เพราะฉะนั้นเขาเห่า เห่าเพื่อบอกอะไร ให้กูกินซะทีสิ มาเร็วๆ กับข้าวมันน่ากิน อะไรอย่างนี้ เจ้าของส่วนใหญ่ก็แบบ อย่าเห่าสิ เห่าแล้วก็ให้กิน หมาเรียนรู้อะไร ยิ่งเห่ายิ่งได้กินเร็ว เพราะฉะนั้นจิตวิทยาหมาง่ายมากเลย ตีกลับด้าน มึงเห่าก็เห่าไปสิคะ เห่าไปก็ไม่ได้กินค่ะ ยิ่งเห่ายิ่งรอ นิ่งเมื่อไหร่ สงบเมื่อไหร่ ค่อยให้ แล้วหมาก็จะเรียนรู้ อ๋อ อาหารมาเมื่อฉันสงบ ถ้ารอบหน้ามาเจออาหาร สงบ ข้อดีคืออะไร พอเวลาออกไปเดินข้างนอก เมืองไทยเรามีอาหารทุกที่ ร้านข้างทางเยอะแยะไปหมด กลิ่นอาหารทุกอย่างจะทำให้หมาสงบ ถ้าหมาที่มีปัญหาเวลากินคือเห่าเจ้าของเวลากิน หรือพยายามแบบกระโดดใส่เวลากิน อะไรเงี้ย หมาพวกนี้ถ้าออกไปเดินข้างนอกจะสติแตกกระจาย แบบว่าลากไปหาหมูปิ้ง ไก่ย่าง ส้มตำ ทุกอย่างมันช่างดูน่ากิน เป็นทุ่งลาเวนเดอร์กันไป แล้วเมื่อกี้สิ่งที่เราทำ อันแรกเลยหมาเดินเข้ามา เขาเตะหมา ไม่ได้เตะว่าทำร้ายหมา เขากำลังจะบอกให้หมารู้ว่ามันเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวแล้ว เราใช้ร่างกายเราส่วนไหนก็ได้ดันให้หมารู้ว่าอย่าเข้ามา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาไม่ได้ถีบหมาออก เขาแค่เตะให้หยุด ให้รู้ว่าอย่าเข้ามา อย่างที่สองคือหมาเริ่มเดินเข้ามาใกล้ ดมชาม สิ่งที่เขาทำเลยคือเขาฉก นี่คือสิ่งที่หมาทำกันกับหมากันเอง ลองเอาไก่ให้ไทนี่แล้วให้รอนเดินผ่านสิ ไทนี่ก็ฉก แต่เขาไม่ได้ฉกเพื่อฆ่า เขาฉกเพื่อให้รู้ว่าของกูอย่าเข้ามา เพราะฉะนั้นการฉกเนี่ยใช้ได้ทุกสถานการณ์ แต่ต้องฉกให้ถูกนะ ถ้าฉกไม่ถูกมันหันกลับมางาบเราต่อนะ แต่ทั้งหมดทั้งปวง เหมือนเดิมเลย ถ้าหมาไม่เห็นว่าเราเป็นผู้นำอยู่แล้วอ่ะ แล้วถ้าเราจะไปทำร้าย จะไปพยายามบอกให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ดี มันก็ต้องมีการสู้กลับมาเป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น ฉกตรงไหน ฉกตรงนี้นี้ หรือฉกตรงนี้ สีข้างหมา ไทนี่มา ฉกตรงนี้หรือตรงนี้ ตรงที่เป็นเนื้ออ่อนๆ ไม่มีกระดูก หมาไซส์ใหญ่ไซส์เล็กใช้แรงฉกตามกันไป หมาไซส์เท่าชิวาวาฉกผั้วะเข้าไปแบบนี้ก็ไม่ได้ ไส้ทะลัก ตัวขนาดนี้ ฉกเบาแค่นี้ก็ไม่รู้สึก ต้องใช้แรง เพราะเรากำลังทำเหมือนมือเราเป็นปากแม่หมา เวลาแม่หมาเขาสอนลูกหมาเขาสอนวิธีนี้ เพราะถ้าลูกหมาเริ่มมาวุ่นวายกับแม่หมา สิ่งแม่หมาทำคือฉกเพื่อให้ลูกมันหยุดซะที รำคาญ ประมาณนั้น เก่งมากค่า ไป หมดประโยชน์ เรื่องการให้อาหาร มีใครสงสัยอะไรไหม ไม่มีนะ มีก็เก็บไว้ก่อน ถามไปงั้นแหละ
เรื่องการเดินเข้าสายจูงกับสุนัข เรื่องนี้ ทุกคน สำคัญมาก เพราะฉะนั้นถ้าเราเลี้ยงหมาเนี่ย เราสามารถทำให้หมาเดินตามข้างๆเราได้ เราสามารถเคลมอาหารกับหมาได้ 90% ในชีวิตคุณกับหมาดีขึ้นแล้วค่ะ ก่อนที่เราจะเข้าไปถึงเรื่องเดินยังไงเนี่ย เราต้องคุยเรื่องอุปกรณ์กันก่อน อุปกรณ์สำหรับฝึกหมามันมีหลากหลายเยอะแยะมากเลย แต่ต้องจำไว้ว่าทุกอุปกรณ์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราสื่อสารกับหมาได้ง่ายขึ้น จำได้ใช่ไหมว่าเราคุยกับหมาไม่ได้ อย่าดึงแม่ ลูกอย่าดึง อย่าดึง จะดึงไปไหน อย่าไปงาบหมาเขาลูก ไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเขาต้องเรียนรู้จากประสบการณ์หมด คือพอเขาดึงปุ๊บต้องมีการกระตุกสายหรืออะไรก็ว่ากันไปนะคะ อุปกรณ์แรกเลยคือสายรัดอก ในที่นี่มีใครใส่สายรัดอกกับหมาบ้าง สารภาพมาแต่โดยดี แล้วเป็นไง หมาดึงไหม ไม่ดึง หมามีมารยาท จบไป ไม่คุยด้วยละ ดึงกระจายเลยใช่ไหม อันนี้ค่อยน่าคุยหน่อย สายรัดอกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้หมาลากเลื่อน แบบฮัสกี้ มาลิมู พวกขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ หรือแม้แต่ลากของ ใช้สายรัดอกหมดทุกตัว เพราะอกหมาเป็นจุดที่แข็งแรงที่สุด ถ้าใส่สายรัดอกให้ไทนี่นะ ลากกันไปเลย ดึงกันไม่อยู่ เพราะตรงนี้เป็นจุดที่แข็งแรงที่สุดของหมา อก การที่เราพยายามจะดึงเขากลับมา เรายิ่งส่งแรงส่งไปให้เขามากขึ้น เราเข้าใจนะว่าบางคนที่ใช้สายรัดออกเนี่ยเพราะไม่อยากทำร้ายหมา แต่สายรัดอกถ้าใส่ไม่ถูกวิธี ใส่ไม่ถูกไซส์ แล้วไปฝืนดึงเขากลับมาตลอดเวลาอย่างนี้ ร่างกายเขาก็เจ็บปวดเหมือนกันนะคะ เพราะฉะนั้นจำไว้ ถ้าท่านต้องการที่จะฝึกหมาให้เดินข้างๆ อย่าใส่สายรัดอก แต่ถ้าอยากจะฝึกหมาให้ลากของ ใส่สายรัดอกซะ เพราะถ้าใส่อย่างอื่นก็ทำร้ายหมาเหมือนกัน อย่างถัดมาคือ ปลอกคอกับสายจูงแบบตะขอ อุปกรณ์พื้นฐานบ้านเราเลย แบบนี้ ใส่ปลอกคอ แล้วก็ใส่แค่นี้เอง จบ ถามว่าได้ไหม ได้เหมือนกัน ข้อเสียคืออะไร เราไม่เคยใส่ปลอกคอหมาแน่น การใส่ปลอกคอที่ถูกต้อง อย่างน้อยต้อง 2 นิ้วอยู่ข้างในสอดได้ไม่แน่นเกินไป บางคนมากกว่านั้น อีกประเด็นคืออะไร พอเวลาหมาตื่นเต้น หมาลากหมาดึงายจูงปุ๊บ ดิ้นๆลาก หัวหลุดออกจากปลอกคอ ไปเลยค่ะลูก ทุกลาเวนเดอร์ไปเลยค่ะลูก เอาหมาไม่อยู่เหมือนกัน อันถัดมา Slip leash คือสายจูงสำหรับฝึกหมา สายจูงพื้นฐานสำหรับฝึกสุนัขคือสายจูงที่เป็นเชือกเส้นเดียว เป็นสายจูงที่ถูกผลิตขึ้นมาตั้งแต่มีการเลี้ยงสุนัขในโลกมนุษย์ สายจูงอันนี้มันมีหน้าที่คือมันจะรัดนะคะ ที่รัดเพราะอะไร ถ้าเกิดหมาดึง มันไม่หลุดจากหัวหมา แล้วเราจะใช้การรัดอันนี้นั่นแหละเอามาฝึกหมาทีหลัง เดี๋ยวจะอธิบายเรื่องอุปกรณ์นี้เพิ่มเติม
อันถัดมาคือสายจูงแบบคล้องปาก อันนี้เราอยากจะให้มองว่ามันเหมือนบังเหียนม้า หรือว่าที่ใส่ให้วัวอ่ะ เพราะอะไร เราคุมหัวเขาง่ายขึ้น การใช้อุปกรณ์พวกนี้เหมาะสำหรับหมาที่ตัวใหญ่ เรากระตุกไม่ไหว เพราะอย่างไทนี่อย่างนี้ ตอนที่แน็ตได้ไทนี่มาเนี่ย เขามาด้วยปัญหาที่ว่าลากเจ้าของ คือลากแบบ เจ้าของอายุ 72 ก็ลอยตามหมาไป ประมาณนั้น พอเราจับสายจูงนี้เราจะกระตุกเขามา สังเกตได้ว่าข้าน้อยไม่มีกล้ามแขน กระตุกได้ 2 ทีปวดแขนเหนื่อยมาก ไม่ฟังไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอเปลี่ยนเป็นสายคล้องปากปุ๊บ กระตุกทีเดียวรู้เรื่องค่ะ จะสังเกตได้ว่าหมาที่มาวันนี้ทุกตัวใส่สายคล้องปากหมด เพราะเจ้าของคุมหมาไม่ได้สักคน เอาไทนี่มาก่อน เดี๋ยวจะให้ดูนะ คืออะไร เราแค่กระตุกแค่นี้ มันมาทั้งหัวแล้ว ถามว่าแบบนี้มันช่วยเรื่องการกัดไหม ไม่ช่วย เขายังงาบ ปากยังอ้า อาจจะอ้าได้ไม่สุดแต่ว่าถ้าเขาจะกัดเขายังกัดได้เหมือนกัน ยังดื่มน้ำยังทำได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้น สายคล้องปากไม่ใช่ตะกร้อครอบปากหมา แนะนำสำหรับคนที่มีหมาพันธุ์ใหญ่ หรือคนที่มีหมาที่ใช้โซ่กระตุกมาก่อนแล้วไม่ได้ผล อันนี้ควรจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ เพราะเวลาเราเดินน่ะ จำได้ใช่ไหมที่แน็ตบอกว่าหมาโฟกัสได้แค่อย่างเดียว พอเขาใส่ไอ้เนี่ยปุ๊บ สิ่งที่เขาจะโฟกัสคือไอ้แถบนี้ แทนที่จะเป็นสิ่งแวดล้อม แต่ทีนี้พอเขาใส่แบบนี้ปุ๊บเขาจะเดินดีขึ้น เพราะว่าเขาจะแบบ อะไรมันอยู่ข้างหน้ากูวะ จะพยายามเขี่ยออกๆ ถ้าเราสอนให้เขารู้ว่า ถ้าคุณใส่เส้นเนี้ย คุณเดินแบบเนี้ย รอบหน้าแค่ใส่ปุ๊บ โดยที่ไม่ต้องกระตุกสายอะไรเลย บางทีไม่ต้องมีสายไม่ต้องจับสายด้วยซ้ำ มันเป็นการ condition สร้างเงื่อนไขกับหมา ให้รู้ว่าทุกครั้งที่มันมีเส้นอะไรอยู่ข้างหน้าเขาเนี่ย เขาต้องเดินข้างๆ งงป่ะ ไม่งงนะ เหมือนการที่บางคนฝึกโดยใช้สายโซ่กระตุกหรือสายจูงสำหรับฝึกหมา แล้วให้หมาลากมาตลอดเวลา หมาก็จะเรียนรู้ว่าความรู้สึกเนี่ยคือกูต้องลาก ทีนี้ใส่อันนี้ปุ๊บความรู้สึกคือต้องสงบ นะคะ แตกต่างกัน
อันถัดมา ปลอกคอแบบหนาม มันดูโหดร้ายนะ แต่เขาถูกสร้างมาอย่างมีเหตุผล ปลอกคอหนามถูกสร้างมาทำหน้าที่คล้ายๆปากแม่หมา เวลาแม่หมาคาบลูกหมา คาบข้างหลัง ถูกไหม ก็ดึงขึ้นมา ทีนี้เนี่ย ปลอกคอแบบหนามมันจะเหมาะสำหรับหมาตัวใหญ่ หน้าสั้น ทำไมหน้าสั้น เพราะพอเป็นหน้าสั้นปุ๊บจะใส่สายคล้องปากไม่ได้ละ ก็เลยใส่อันนี้แทน พวกพิทบูล พวกบ้านบูลลี่ มาสทิฟฟ์ อะไรพวกเนี้ย จะแนะนำพวกนี้ แต่อันนี้ถ้าใส่ผิดมีโทษเหมือนกัน อุปกรณ์ทุกอย่างถ้าใช้ไม่ถูก มีโทษหมดทุกอันนะจำไว้ แต่อันนี้เนี่ย ใส่ปุ๊บต้องให้อยู่หลังคอหมา หลังหูหมาเลย แล้วใส่ต้องแน่น เพื่อที่อะไร ถ้าเวลาหมาดึง เรากระตุกแค่นี้เอง มันจะขบเข้ามา พอขบเข้ามาหมาจะหยุดทันที ส่วนใหญ่ที่ถ้าไป search ในเน็ตเนี่ย ปลอกคอแบบนี้ถูกแบนในหลายประเทศ เพราะอะไร เพราะคนใช้ไม่เป็น ใส่แบบหลวม พอเวลากระตุกทีเราต้องกระตุกแรง พอกระตุกแรงปุ๊บแทนที่มันจะขบแค่นี้นิดเดียว มันกลายเป็นปิดเข้ามา แล้วหนามคือฝังลงไปแล้ว เหมือนกัน สายรัดอกถ้าใส่ไม่ถูกก็ทำร้ายหมา ปลอกคอปกติถ้าใส่ไม่ถูกต่อมไทรอยด์หมาก็เสียนะ ไอ้สายแบบอย่างเงี้ย ใส่ไม่ถูกก็ทำร้ายหมาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานอย่างถูกวิธี นะคะ
อันถัดมาคือปลอกคอไฟฟ้า นี่เลยปลอกคอไฟฟ้า ปลอกคอไฟฟ้ามี 3 Option Option แรกคือสั่น เสียงช็อต มีใครอยากลองช็อตไหม ยังไม่มีใครคุยในงานเลยไม่มีอาสาสมัครโดนลากมาเรื่องนี้ แต่ถ้าอย่างไทนี่อย่างนี้ ไทนี่เขาจะใส่ตลอดเวลาเพราะที่บ้านแน็ตไม่มีรั้ว ที่บ้านมันเป็นทุ่งนากว้างๆ อยากจะวิ่งไปไหนก็วิ่งไปเลย เพราะกดให้สั่นปุ๊บ อันนี้เสียง พอมีเสียงปุ๊บเขาจะรู้ว่า อ๋อ ต้องกลับมา นี่คือพื้นฐานการ Setting แบบว่า default เลย ถ้าได้ยินเสียงนี้คุณต้องวิ่งกลับบ้าน ทีนี้เนี่ยเราจะใช้อุปกรณ์อันนี้กับการฝึกหมาขั้น advance เหมือนกัน คืออะไร ถ้าคุณไม่ทำตามเรา ถ้าสมมุติสั่งให้นั่งแล้วไม่นั่ง เครื่องเนี้ยจะสั่นทันที สั่นเพื่ออะไร เพื่อให้รู้ว่ายังรออยู่ ยังรอให้แกนั่งอยู่ คนเราทุกทีเวลาฝึกหมาใส่สายจูง สายจูงมันก็จะยาวได้แค่ถึงระยะห่างหนึ่ง ปลอกคอไฟฟ้าทำหน้าที่เหมือนโทรศัพท์มือถืออ่ะ หมาอยู่เป็นกิโลเรายังสื่อสารกับเขาได้ เพราะมันไม่มีใครมีสายจูงหมา 1 กิโล ถูกไหมคะ เพราะถ้ามีนี่ กระตุกกันที่นี่สาวกันตายเลย เพราะฉะนั้นมันใช้เทคนิคเดียวกัน ประเด็นคือ ไอ้ปลอกคอไฟฟ้านี้ถ้าใช้ผิด หมาดุกว่าเดิมไหม มีเยอะมาก ใช้ผิดหมาเป็นโรคประสาทมีไหม มีเยอะมากนะ เพราะฉะนั้นทั้งหมดทั้งปวงเนี่ยไอ้อุปกรณ์ชิ้นนี้เนี่ย เรากำลังจะใช้สื่อเขาให้รู้ว่าตอนนี้เราต้องการอะไร ถ้าเราสั่งให้คุณนั่ง เราสั่งให้คุณหมอบแล้วคุณไม่ทำ แล้วเราไม่มีสายจูงในการเตือนหมาว่า เฮ้ย ยังรอให้มึงนั่งอยู่นะ หรือหมอบนะเว้ย อะไรอย่างเงี้ย การที่เรากดสั่นหรือกดช็อตอ่ะ มันก็เหมือนเป็นการเตือนสติหมาให้รู้ว่า อ๋อ โอเค เขายังรอเราอยู่ เพราะไอ้ความรู้สึกพวกนี้มันจะหายไปทันทีเลยถ้าคุณทำตามเรา ปลอกคอไฟฟ้าเนี่ย ถูกๆก็มี อันไม่กี่ร้อยก็มี ช็อตต่ำสุดนี่ก็พอๆกับไม้ตียุง แต่เดี๋ยวนี้มันก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆเหมือนกัน ที่แบบว่าเขาใช้เทคโนโลยีเหมือนพวกกระตุ้นกล้ามเนื้อ สำหรับคนไข้ที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง ใช้ไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อปึ๊บๆ แบบนั้นน่ะ ซึ่งตอนนี้ซาช่าใช้อยู่ เพราะสิ่งที่เราต้องการคืออะไร เราต้องการให้เขารู้สึกให้ต่ำที่สุด แค่ให้รู้สึกว่ายังรออยู่นะเว้ย แค่ให้รู้สึกว่ายังมีอะไรกระตุกอยู่แค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นจำไว้ว่าอุปกรณ์ทุกชนิดเนี่ยต้องศึกษาให้ดีก่อนใช้ ปลอกคอไฟฟ้า ปลอกคอหนาม เป็น 2 อุปกรณ์ที่ถ้าคุณจะใช้กรุณาศึกษาให้ดี สอบถามผู้รู้หรือศึกษาทาง Internet อย่าใช้โดยที่ไม่รู้ อันตรายมากสำหรับหมา แต่ถามว่าถ้าคุณใช้แล้วคุณใช้เป็นใช้ถูกอ่ะ หมาเปลี่ยนเลยนะ คุมหมาง่ายมาก สื่อกันรู้เรื่อง เพราะบางทีการที่เราใช้คำพูดเราอ่ะ น้ำเสียงเราแตกต่างกันหมาก็ไม่เข้าใจละ แต่นี่มันคืออันเดียวกันเลยคือสั่น ก็แค่รู้สึกสั่นแค่นั้นเอง มันเป็นความรู้สึกเดียว สื่อสารง่ายที่สุด เหมือนปากกา ถ้าแน็ตให้ปากกาคุณไปด้ามนึง คุณสามารถใช้ปากกานี้เขียนจดหมายบอกรักใครก็ได้ ไม่มีใครเขียนหรอกนะสมัยนี้ ขออภัยด้วย คือเขียนอะไรก็ได้สื่อสารได้โดยใช้ปากกา ในทางเดียวกันก็สามารถเอาปากกาเนี่ย แทงตาใครก็ได้ กลายเป็นอาวุธ เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ทุกอันมันมีทั้งคุณและโทษ ศึกษาให้ดี
มาคุยเรื่องการเดินสายจูงกับหมาก่อน เดี๋ยวขออาสาสมัคร 1 คนสิ ใครก็ได้ ถ้าไม่มีจะสุ่มแล้วนะ ไม่มีใครอยากรู้เลยหรอ ขึ้นมาเลย ขึ้นมาเลยค่ะ ตบมือค่ะตบมือ ดีมากค่ะ เราจะใช้อันนี้นะพี่นะ พี่จะเป็นหมานะ สมมุตินี่คือคอหมา เวลาเราเดินสายจูงกับหมา เราจับแค่ 2 นิ้ว ข้างหลังถ้ามองไม่เห็นลุกขึ้นยืนเลยนะคะ จับแค่ 2 นิ้ว เจ้าของส่วนใหญ่เวลาจับสายจูงคือไง สาวเลยลูก สาวมาเลยค่ะ เสร็จแล้วสิ่งที่ได้คืออะไร มือคุณกำแน่น พอมือคุณกำแน่น ร่างกายกล้ามเนื้อจะถูกสร้างขึ้นมาให้แขนคุณอยู่ในท่านี้ แขนจะยกขึ้นมา นึกออกไหม มันก็จะรัด พอมันรัดปุ๊บ มันก็จะไม่ใช่การเดินที่สุนทรีย์อีกต่อไป ลองนึกสภาพถ้าเราเป็นหมา แล้วมันมีอะไรรัดคอ แล้วมันก็อยู่ท่านี้ตลอดทาง ไม่สนุกเลยว่ะ นึกออกไหม เพราะฉะนั้นจำไว้จับสายจูงจับแค่ 2 นิ้ว ทีนี้ถ้าสมมุติสำหรับหมาที่เพิ่งเริ่มฝึกใหม่ๆ ส่วนใหญ่ใส่สายจูงปุ๊บมันพุ่งเลย เดี๋ยวแน็ตจะเดินๆกับพี่แล้วจะให้พี่เดินต่อไปเลยนะ พี่พุ่งไป อ่ะ หนึ่ง สอง สาม อ่ะพุ่ง ยื้อไว้ๆ หมาส่วนใหญ่มันจะยื้อ ถูกไหม คุณอยู่ท่าเดิม ขาคุณเอาอยู่ให้มั่น รู้สึกยังไง เจ็บใช่ไหม หมารู้สึกอย่างนั้นแหละ ทีนี้หมามี 2 Option ให้เลือกละ คือดึงต่อไปก็ได้ เชิญตามสบาย หรือจะเดินกลับมา เพราะกลับมาเกิดอะไรขึ้น สายหย่อน ทุกอย่างผ่อนคลาย เขาเรียนรู้ทุกอย่างผ่านประสบการณ์ ถ้าดึงมันตึงนะ ถ้าเดินกลับมามันหย่อนว่ะ งั้นต่อไปก็เดินข้างๆละกัน แต่ทีนี้เจ้าของส่วนใหญ่คืออะไร พอหมาดึงปุ๊บ สงสารหมา วิ่งตามหมาเลยค่ะ หมาเรียนรู้อะไร เอ้า กูลากมันได้นี่หว่า อีกกรณีหนึ่งคือหมาขี้เกียจ แบบว่าน้องหมาที่ขี้เกียจน่ะ เดินๆอยู่มันก็นั่ง แล้วมันก็ไม่เดินเลย พี่ต้องไปอุ้มมันขึ้นมาหิ้วกลับบ้าน ใครเจอปัญหานี้บ้าง ยิ้มๆแบบนี้รู้นะว่ามีหลายคน เราก็จะบอกว่าหมาคุณไม่ขี้เกียจหรอก แต่หมาเขากำลังจะบอกว่าก็กูไม่อยากเดินน่ะ เพราะฉะนั้นก็อุ้มฉันกลับไปเพราะแกเป็นทาสฉัน เพราะฉะนั้นใช้ Concept เดียวกัน เดี๋ยวแน็ตจะเดินต่อแล้วพี่หยุดเดินนะ พอหยุดปุ๊บ เราก็ค้างเอาไว้ ที่สำคัญคืออย่าหันไปสบตาหมา อย่าแบบ ตามแม่มาสิลูก มาเถอะนะลูกนะ อย่าไปคุยกับหมา เพราะการที่เรายิ่งมองหมา หมายิ่งแบบรู้ว่าเราสนใจมันแล้วมันได้อะไรบางอย่างกลับมา แต่ถ้าเขาหยุดแล้วเราก็ยืนอยู่เฉยๆ ไม่ต้องลากหมาด้วยนะ นี่แน็ตคือยืนนิ่งๆ คุณดึงคุณก็ดึงไป เรื่องของคุณ หายใจไม่ออกอึดอัดก็เรื่องของมึง จะเอายังไงก็เรื่องของแก สุดท้ายหมาก็แบบ รั้งไว้มันก็ไม่มา นู่นนี่นั่น หายใจไม่ออก งั้นเดินตามมาแล้วกัน พอทีนี้เนี่ยหมารู้ Concept แล้วว่าถ้าเขาดึงหน้าไม่ได้ เขาดึงหลังไม่ได้ สิ่งต่อไปที่เราต้องการคืออะไร กระตุกเตือน เพราะจำไว้ว่าคุณกำลังดีลกับเด็กอายุ 2 ขวบอยู่ ที่เขาไม่รู้หรอกว่าเราต้องการอะไร บางครั้งเราก็ต้องเตือน แบบเดินๆไปด้วยกัน หมาจะนำหน้า เราก็กระตุกปึ๊บ แล้วก็หยุด การกระตุกคืออะไร สั้นๆแค่นี้เอง เจ้าของส่วนใหญ่กระตุกยังไง ลากมาเลย เราก็จะบอกอันนั้นไม่เรียกกระตุกค่ะ อันนั้นเรียกลาก เพราะฉะนั้นจำไว้ กระตุกแค่นี้เอง เราต้องการให้คุณกระตุกแรง ปึ๊บ หมาโอ๊ะ โอเค รู้เรื่อง เข้าใจ ไม่ทำแล้ว เพราะการที่เรากระตุกเนี่ยเหมือนเรากำลังดึงสติเขากลับมา เพราะการที่หมาลากเราอ่ะ เขากำลังสนใจอย่างอื่นอยู่ อู้วหมา อู้วแมว อู้วอะไรก็ว่ากันไป เขาสนใจอย่างอื่นแล้วเขากำลังจะไป เรากระตุกปุ๊บเพื่อเตือนให้เขากลับมาว่าใจเย็น กูอยู่นี่ กรุณาอยู่ข้างๆ ทั้งหมดทั้งปวงไม่ต้องรู้สึกผิดที่แบบว่ามาทำแบบนี้กับหมา เราไม่ได้ทำร้ายเขา เรากำลังสอนให้เขารู้ว่า เฮ้ยสิ่งนี้มันไม่ทำร้ายคุณตราบใดที่คุณสงบ อุปกรณ์ทุกอย่างที่เอาขึ้นมาจะไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างจะนิ่งหมดเลยถ้าคุณสงบ ถ้าคุณเริ่มสติแตกบ้าบอเมื่อไหร่ ทุกอย่างจะเริ่มทำงานทันที ขอบคุณมากค่ะ
หลักๆก็คือตามนั้น 3 อย่าง จำไว้ ถ้าหมาดึงไปข้างหน้า ยืนอยู่กับที่ยืนให้มั่น อย่ายืนท่านี้นะ ยืนท่านี้มหาลากต่อก็จะไหลกันไป ยืนให้มั่น ฐานต้องให้มั่นคงแล้วก็เฉยๆ อย่าลากกลับมา จำไว้ว่าห้ามลากกลับมา การที่เราลากหมากลับมาเหมือนเรากำลังบังคับหมาให้ตามเรามา เราได้แต่ตัวเราไม่ได้ใจ จำไว้นะคะ ไม่ควรจะจีบผู้ชายแบบนั้น อย่าลาก พอลากกลับมาปุ๊บตัวมันมาแต่หัวมันยังอยู่นู่น พอเราเลิกลากมันแล้วมันยิ่งวิ่งกลับไปใหม่ อะไรประมาณนี้ อารมณ์เดียวกัน เพราะฉะนั้นยื้อไว้ แล้วแต่มึง จะเอายังไงว่ามา นี่คือวิธีที่หนึ่ง เดี๋ยวอันถัดมาเราจะสอนให้หมารู้จักโฟกัสกับขาเราแทนที่จะโฟกัสกับสิ่งรอบข้างนะคะ อันนี้ข้างหลังต้องยืนเลยเพราะมองไม่เห็นแน่นอน สิ่งที่ฝึกได้คืออะไร จับสายยาวๆนะ ให้พื้นที่มันเต็มที่เลย แล้วเราก็เดิน ถ้าเขาตั้งท่าจะนำเราปุ๊บเราเลี้ยว เลี้ยวคือหมุนด้วยความรวดเร็ว ไทนี่มันฝึกมาแล้วแหละ มันรู้ว่าถ้าเกิดแม่เลี้ยว พอเราเลี้ยวปุ๊บ เขาก็จะ โอเค ขาไปแล้ว เปลี่ยนเป็นเอ็มม่าดีกว่า เห็นไหม พอดึงปุ๊บ เราย้ายกลับ มันก็จะงงๆนิดนึง ทีนี้หมาก็สับสนอยู่ช่วงนึง แล้วเขาก็จะเริ่มรู้สึกว่าถ้าเขาไม่โฟกัสกับขาตรงเนี้ย สิ่งที่เขาได้คือเดินๆอยู่จะโดนดึงกลับมา เพราะฉะนั้นอย่างแรกที่ทำได้ก็คือ พอหมาเริ่มแซงเราหมุน หมุนด้วยความรวดเร็ว แล้วไม่ใช่หมุนแล้วหยุดนะ ไม่ใช่หมุนแล้วก็หยุด 1 ที ไม่ใช่ แต่คือหมุนแล้วไปเลยนะคะ มีใครอยากลองไหม ไม่มีเลยหรอ การที่เราทำแบบนี้โดยใส่สายจูงหย่อน ทำให้หมาเรียนรู้แล้วว่าเขาต้องเลือกที่จะตามขาเรา จากตอนแรกที่เราจับสายจูงสั้นเราต้องเป็นคนเตือนเขา ให้รู้ว่าถ้านำปุ๊บจะโดนกระตุก แต่ถ้าเป็นสายจูงหย่อนมันเป็นการเริ่มต้นการฝึกเดินสายจูงกับหมาโดยที่ไม่ต้องใส่สายจูง ทีนี้เรื่องการเดินสายจูงกับหมาเนี่ย เวลาเจ้าของเอาหมาไปเดินข้างนอกควรจะให้หมาสงบก่อน ถ้าตั้งแต่อยู่ในบ้านแค่หมาเห็นสายจูงหมาก็กระโดดเป็นหมาสติแตกไปแล้วอ่ะ แล้วคุณเอาสายจูงใส่เข้าไปอ่ะ หมาก็จะสติแตกไปตลอดการเดิน หมาส่วนใหญ่พอเห็นสายจูงปุ๊บ โหตื่นเต้น ตื่นเต้นมากเลย จะได้ออกไปข้างนอก สติแตก กระโดดกระโจน เห่าโวยวาย เป็นเรื่องปกติ ถ้าเป็นแบบนั้นเราแนะนำว่าอะไร พอเดินไปหยิบสายจูงแล้วหมากระโดด วางเลย แล้วก็เดินไปทำอย่างอื่น แล้วหมาก็จะโวยวายอยู่อย่างนั้นแหละ จะไปเที่ยวๆๆได้ยัง พอมันนิ่งปุ๊บ เราเดินไปใหม่ หยิบสายจูง หมาโวยวายอีก อ่ะ วาง ให้เขารู้ว่าการที่มาหยิบสายจูงอ่ะ ก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น Step ถัดไปจะมาก็ต่อเมื่อคุณสงบ เพราะลองทำแบบนี้สักพักหนึ่งเดี๋ยวหมาจะเบื่อ หมาก็จะแบบ ก็ไม่มีอะไรนี่หว่า งั้นกูเบื่อแล้วกูไปนอน พอถึงจุดนั้นน่ะเราก็หยิบสายจูงมาไปใส่คอมัน ทีนี้พอใส่คอมันปุ๊บ สิ่งที่ตามมาคือ ถ้าหมาตื่นเต้นอีก จะไปข้างนอกๆ สติแตกอีกรอบ ถอดออกวางค่ะ หมาก็จะอีกแล้วหรอ จะเอายังไงกับกูเนี่ย ไม่เข้าใจ ป่านนี้กูวิ่งแล้วนะเนี่ย ทำไมวันนี้ยังไม่ไปไหน เอาใหม่ พอสงบปุ๊บเดินไปใหม่ ใส่ไป สมมุติรอบนี้สงบแล้ว นิ่งแล้ว โอเค ใส่สายจูงเดินมา ถึงประตูหน้าบ้าน สำคัญมากที่เราควรจะเป็นคนออกจากบ้านก่อนหมา นั่นคือนั่งลง แล้วก็ปล่อยสายจูงหย่อน แขนอยู่กับที่ จำไว้นะ แขนอยู่กับที่ ขาก้าวไปได้ แขนอยู่กับที่ปุ๊บ พอขาก้าวไป ถ้าหมาตามมา กระตุกปึ๊บ ให้เขารู้ว่าการที่ขาเราก้าวเดินไม่ได้หมายความว่ามึงจะตาม พอเขานั่งเสร็จปุ๊บ แขนอยู่กับที่ พอเราก้าวออกมา ออกมาข้างนอกเสร็จ ใส่รองเท้าเรียบร้อย นู่นนี่นั่น หมาไม่พยายามวิ่งออกมา เราก็ค่อยเรียกเขาออกมา เนี่ยคือเราคุมหมาตั้งแต่ในบ้าน เพราะถ้าคุณคุมหมาได้ตั้งแต่ในบ้านอ่ะ ออกมาข้างนอกสิ่งเร้าเยอะมาก คุณก็จะคุมเขาได้ แต่ถ้าคุมไม่ได้ตั้งแต่ในบ้าน อะไรทำให้พวกหล่อนคิดว่าหล่อนจะคุมเขาได้ที่อยู่ข้างนอก ตั้งแต่ในบ้านเรามันคุมเรามาตลอดแล้วอ่ะ คือยิ่งเห่าแรงเท่าไหร่เรายิ่งใส่ไวมากขึ้น ยิ่งตะกายมากเท่าไหร่มันยิ่งได้ไปไวมากขึ้น พอออกมาข้างนอกเจอสิ่งเร้า ต่อให้กลัวต่อให้อะไรก็ตาม เขาก็จะมีความรู้สึกว่ากูต้องเป็นคนจัดการ เพราะฉะนั้นต้องคุมให้ได้ตั้งแต่ในบ้าน
การเดินกับหมาเนี่ย เดินชั่วโมงนึง 2 ชั่วโมง ว่ากันไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าช่วงแรกๆที่ฝึกใส่สายจูงอ่ะ ครึ่งชั่วโมงแรกเป็นแค่การเดินไปหยิบสายจูงแล้ววาง หยิบแล้ววาง ได้ ไม่มีปัญหา เพราะเราฝึกสมองหมาละ เพราะหมาคิดแล้วว่า นี่มันจะเอายังไงกับกูวะเนี่ย ทุกทีป่านนี้กูวิ่งแล้วนะ ทำไมวันนี้ไม่ไปอ่ะ แล้วเขาก็จะเริ่มคิดแล้วว่าเมื่อกี้ที่เราได้ใส่สายจูงมา เราทำอะไรวะ อ๋อ ฉันนิ่ง อะไรประมาณเนี้ย แล้วสุดท้ายออกไปเดินแค่ 15 นาที ครึ่งชั่วโมงก็ได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ตามมาก็คืออะไร เจ้าของต้องจดนะว่าวันนี้ตั้งแต่ไปหยิบสายจูงยันเดินออกนอกบ้านใช้เวลากี่นาที เพราะวันถัดมามันควรจะใช้เวลาน้อยลง วันแรกครึ่งชั่วโมง อีกวันนึง 28 นาที น้อยลงไป 2 นาทีนะ อีกวันนึง 20 นาที 15 นาที จนสุดท้ายคืออะไร ใส่สายจูงหมาจะนั่งเฉยๆ เอาเลยแม่ จัดการ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเร่ง การฝึกหมาไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะเร่ง อะไรที่เราเรียนรู้เร็วๆอ่ะมันเรียนรู้ได้ไม่นานหรอก แต่ถ้าอะไรที่ใช้เวลาในการเรียนรู้มันจะจำได้นาน แล้วยิ่งถ้าให้หมาเรียนรู้ได้เองว่า อ๋อ ถ้านั่งนะแล้วจะได้อย่างนี้ ถ้าเมื่อกี้เราเดินนะ เราโดนกระตุกแบบนี้นะ อะไรแบบนี้ เขาจะเรียนรู้ได้ไวมากขึ้น เขาจะจำได้ไวมากขึ้นนะคะ
การออกกำลังกายคืออะไร เราออกกำลังกาย อันนี้ต้องเล่าตัวอย่างให้ฟังก่อน เคสล่าสุดที่แน็ตไปทำมา เจ้าของบอกว่าหมาเขาเห่าไม่หยุดเลย เห่าทุกสิ่งอย่างอยู่ในบ้าน เห่าทุกสิ่ง เราก็เลยถามเจ้าของว่าเคยพาไปเดินเล่นบ้างไหมเนี่ย เจ้าของบอกไม่เคยหรอก บ้านฉันเนื้อที่เยอะแยะขนาดนี้ แถมมีหมาให้ตั้ง 2 ตัว มันก็เล่นกันเองได้นี่ ที่เยอะแยะมีให้วิ่งก็วิ่งได้นี่ ก็เนี่ยออกกำลังกายพอแล้ว เราก็จะบอกเจ้าของว่า โอเค ถ้างั้นนะ เราจะเอาทุกอย่างออกจากบ้านหมดเลย เราจะเอาโทรศัพท์ ทีวี ตู้เย็น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ออกให้หมด คุณมีเนื้อที่เท่ากับหมาแล้วเราทิ้งแฟนคุณไว้ให้คุณ 1 คน คิดว่ากี่ชั่วโมงก่อนที่คุณจะสติแตก คือมันเหมือนเราก็ทำได้อยู่ แต่พอถึง ณ จุดหนึ่งเราก็เบื่อนึกออกไหม เราคุยกับคนๆนึง เราคุยได้ ณ จุดนึงเราก็จะเบื่อ เหมือนกัน การที่คุณคิดว่าคุณมีพื้นที่เยอะๆ หมาวิ่งแค่นี้พอแล้ว หมาเขาถูกสร้างขึ้นมาเืพ่อให้เดินไกลๆ เพื่อให้ดม เพื่อให้ค้นหา เพราะฉะนั้นถ้าการที่เรามีที่ให้เขาดมแค่เนี้ย มันไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มความเป็นหมา นึกออกไหมคะ แล้วการออกกำลังกายก็คือการเดิน การวิ่ง การว่ายน้ำ การล่า ทุกอย่างคือออกกำลังกาย ออกกำลังกายสมองคืออะไรการฝึกคำสั่งพื้นฐาน Obedience นั่ง คอย เพราะเราต้องการอะไร เมื่อกี้สอนทำท่าคือนั่ง สุดท้ายเราไม่พูด เราไม่พยายามกดตูดหมา เราแค่ทำมือท่านี้ แล้วดูซิมันจะทำท่าไหน หมาก็จะแบบ เมื่อกี๊ทำอะไรวะ ทำไมไม่ให้ขนมวะ พอมันหย่อนตูดนั่งปุ๊บแล้วได้ขนม หมาก็จะอ๋อ ต้องนั่ง เราใช้สมองเขาละ เหมือนเราน่ะ อย่างแน็ต แน็ตไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์ เอาเลขมาให้แน็ตทำนะ แค่ 10 นาทีนะ เหมือนทำตั้ง 10 ชาติ เหนื่อยมาก เหนื่อยชิบหายเลย เหมือนกัน หมาใช้วิธีเดียวกัน ใช้สมองคิด หมาส่วนใหญ่เนี่ย ต้องออกกำลังกาย ออกกำลังกายสมอง มีส่วนน้อยที่ออกกำลังกายอย่างเดียวก็พอ ไอ้นี่คือแบบหมาโคตรขี้เกียจเลย วันๆมีความสุขกับการได้นอน แค่นั้นพอ ออกกำลังกาย 15 นาที Happy สุดๆแล้ว แต่หมาส่วนใหญ่ต้องทั้งกายและสมองควบคู่กันไป เพราะถ้าเราออกกำลังกายไม่เพียงพอ เราออกกำลังกายสมองไม่เพียงพอ สิ่งที่เราได้กลับมาคืออะไร หมาเห่าไม่เลือก หมากัดแทะ หมาดุ หมากินขี้ตัวเอง แล้วหมากินหางตัวเอง คือแบบกัดร่างกายตัวเอง เพราะเขาไม่รู้เขาจะเอาพลังงานไปลงกับอะไร การที่เขาเห่าเป็นการปล่อยพลังงานอย่างหนึ่ง การที่เขากัดเป็นการปล่อยพลังงานอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเติมเต็มหมาให้รู้ว่า เออ พอเหนื่อยนะ เขาก็จะหลับไปเลย เขาก็จะไม่เอาพลังงานไปปล่อยกับอะไรที่มันไม่ควร เพราะฉะนั้นเรื่องนี้สำคัญมาก บางตัวแค่ชั่วโมง หมาส่วนใหญ่เนี่ย แค่ชั่วโมงนึงต่อวันคือโอเคในการออกกำลังกาย บางตัว 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง ไอ้หมาพวกนี้เหมาะจะไปทำเป็นสายอาชีพ เป็นหมาตำรวจ หมาทหาร หมาค้นหา แต่ก็อย่างที่ว่าไว้แหละ หมาทุกตัวไม่ได้เหมาะกับสายอาชีพนั้นๆ อย่างมีบีเกิ้ลตัวนึงที่รู้จัก บีเกิ้ลเขาใช้จมูก บีเกิ้ลเขาจะดีมากเลยสำหรับค้นหา พวก Search and Rescue คนติดอยู่ในถ้ำ อะไรพวกนี้ เขาจะใช้จมูกในการดมหาละ บีเกิ้ลตัวนี้ขี้เกียจ ขี้เกียจมาก ชนิดที่เรียกว่ามันดมๆสักพักมันก็ ถอนหายใจ เบื่อ แล้วก็ไปหากิ้งก่าอะไรเล่นสักพัก พอเจ้าของบอกให้กลับไปหาต่อ มันก็ถอนหายใจอีกหนึ่งทีแล้วกลับไปหาต่อ แบบก็ไม่อยากหานะ แต่ที่ทำเพราะสั่งอ่ะนะ อะไรประมาณนี้ คือเขาทำได้ไหม เขาทำได้เหมือนกัน แต่ทำได้ดีไหม ไม่ได้ดี เพราะฉะนั้นเราต้องหางานหรือหากิจกรรมอะไรที่เหมาะสมกับหมาของเรานะคะ
โอเค พัก 10 นาที อีก 10 นาทีเดี๋ยวจะกลับมาใหม่