แน็ต : สวัสดีค่ะ แน็ตจากเพจคนใจหมา วันนี้อยู่ช่วงคุยกับคนใจหมา เรามากับปัญหาน้องหมาชิวาว่าขี้หงุดหงิด แบบว่าหงุดหงิ๊ด หงุดหงิด คุณโย เล่ามาเลย ให้เวลา 15 นาที หงุดหงิดยังไง
โย : โอเคค่ะ ก็จริงๆตัวนี้ไม่ได้เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก คือรับมาตอนประมาณ 2 ขวบแล้ว แต่ว่าช่วงแรกๆมาน้องไม่มีงอแงร้องกลับบ้านเลย ทุกอย่างโอเค พอมาคืนนั้นเช้าต่อมาก็สามารถเป็นสมาชิกในบ้านได้เลย แล้วก็อยู่กันแบบโอเคมาได้ประมาณเดือนหนึ่งแล้ว ไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง แต่พอไปสักพักหนึ่งเนี่ย ก็เริ่มมีแบบว่าจับไม่ได้ เกรี้ยวกราด ชอบขู่ชอบเห่าเวลาจะจับ เวลาเขาอยู่กับแม่ เหมือนเขาติดแม่มาก ตอนแรกเนี่ย กับในบ้านไม่เป็น จะเป็นเวลาอยู่ข้างนอก เวลานั่งรถไปข้างนอก เวลามีมอเตอร์ไซค์มาจอดข้างๆหรือเวลาไปเติมน้ำมันอย่างนี้ ก็จะเห่าจนกว่ารถจะไป อะไรประมาณนี้ ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร แล้วก็เริ่มมาเป็นกับคนในบ้าน ก็เริ่มจับไม่ได้เวลาอยู่ในบ้าน จับแล้วก็จะขู่ ก็แล้วแต่อารมณ์ แต่ส่วนมากจะจับไม่ได้เลย ถ้าพยายามฝืนจะไปจับก็จะกัด กัดแบบติดนิ้วเลย ได้เลือด กันจริงจังเลย จัดให้เจ็บ กัดแบบไม่ได้เล่นด้วยนะ อะไรประมาณนี้ แล้วก็ถ้าเกิดให้อาหารจะทำอะไรก็ได้ คือน้องคนที่ให้หมามาเนี่ย เขามีฝึกน้องไว้ก่อนแบบว่าให้นั่งได้ ขอมือ ทำได้หมดเลย ตอนให้อาหาร แต่พอให้เสร็จปุ๊บ ถ้าจะไปจับคือกัดทันที หมายความว่าเวลาอาหารหมดอย่างนี้ แล้วก็อีกนิดหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวแปรด้วยหรือเปล่า คือที่บ้านมีแมว ซึ่งแมวเนี่ยตัวใหญ่กว่าหมาเท่าหนึ่ง ตอนแรกมาเนี่ยแมวก็แค่คุมเชิง ไม่ได้มีกัดอะไร แต่ว่าพอสักพัก พอคนเผลอ แมวก็เลยพุ่งเลย ตั้งแต่นั้นมา แมวกับหมาก็เจอกันไม่ได้ แล้วหมาก็มีความกลัวแมวนิดหนึ่ง เวลาแมวมาใกล้ที่หน้าประตู จะมีการเห่าเพื่อป้องกันตัว อะไรประมาณนี้หรือเปล่า ไม่แน่ใจ
แน็ต : แล้วหมาเคยพุ่งไปหาแมวหรือยัง
โย : ไม่เคยค่ะ อ้อ เคย เหมือนตอนนั้นแมวขู่ แต่ว่ามีประตูกั้นนะคะ หมาก็พยายามกระโชกที่ประตู เพราะว่ามีประตูกั้นอยู่ แต่ถ้าเจอหน้ากันหมาจะหลบเลย ประมาณนี้ค่ะ เราก็เลยที่มีปรึกษาเนี่ยเพราะคิดว่ามันดูไม่ปกติ เพราะว่ามันดูเกรี้ยวกราดเกินปกติไปหน่อย เพราะที่เคยเลี้ยงหมามาเนี่ย โอเค ก็เลี้ยงมานิสัยเสียมาทุกตัวแต่ว่าไม่เคยมีตัวไหนขนาดนี้ ปกติก็แค่แบบ กินข้าวห้ามยุ่ง จะหลับห้ามยุ่ง นอกนั้นก็คือเล่นได้ปกติ เหมือนเป็นนิสัยหมาปกติ แต่ว่าอันนี้ก็คือไม่มีเลย กลับบ้านมาก็ไม่ดีใจ ไม่มีนิสัยของหมาเลย
แน็ต : เขาซ่อนไหม แบบว่าแอบนอนใต้โต๊ะ ใต้ตู้
โย : ใช่ๆ เวลาถ้าเกิดนอนอ่ะค่ะ เวลานอนเขาจะไปนอนใต้หมอนเลย ใต้ผ้าห่ม ใต้กองหมอน ถ้าเขาอยู่ตัวเดียวเขาจะไปนอนแบบนั้น
แน็ต : แล้วถ้ามีคนอยู่ล่ะ
โย : ถ้ามีคนอยู่ สมมติว่าหลับปกติตอนกลางคืนก็ซุกผ้าห่ม นอนกับแม่ นอนด้วยกัน แต่ไม่นอนเปิดเผย
แน็ต : เคยเห็นหมานอนกลางพื้น
โย : ไม่เคย ถ้าเกิดนอนกลางพื้นแบบไม่มีคน ไม่เคยค่ะ แบบตัวเดียวอ่ะ สมมติว่าอยู่ตัวเดียวแล้วนอนกลางพื้นน่ะไม่เคย แต่ถ้าเกิดมีคนอยู่ด้วยอย่างนี้ อยู่ตรงกลางบ้านอันนี้อยู่ แต่ว่าใกล้คนนะคะ
แน็ต : แต่ใกล้คน แต่ถ้าคนแตะจะกัด
โย : ใช่ ถ้าใกล้คน สมมติว่าแม่นอนอยู่อย่างนี้ แล้วเขานอนอยู่ใกล้แม่ แล้วคนจะไปจับอย่างนี้ จะกัดคนที่จะมาจับ แต่ถ้าเป็นแม่จะโอเค แม่จับได้
แน็ต : เพิ่งจะ 2 ขวบ
โย : ปีนี้เข้า 3 ขวบค่ะ แต่ว่าตอนได้มา ได้มาตอน 3 ขวบ เลี้ยงมาปีหนึ่งก็มีอาการแบบนี้มาตลอดทั้งปี
แน็ต : มีเดินกะเผลกๆอะไรพวกนี้ไหม
โย : ไม่มีค่ะ
แน็ต : เดินได้ปกติ
โย : ใช่ แต่ว่ามีตอนที่รับมาน่ะค่ะ น้องเขาบอกว่าหมาชอบออกกำลังกายมากเลย ชอบวิ่งเล่นมากเลย แต่พอมาอยู่กับเราพาไปสวนสาธารณะเนี่ย ไม่วิ่งไม่เดินเลย ให้อุ้มตลอดเลย แล้วก่อนได้มาน้องบอกว่าชอบเล่นกับหมาใหญ่ แต่พอไปเจอจริงๆเนี่ยกลัว ไม่เดิน ไม่หาหมาเลย พาไปสวนที่มีหมาเยอะ ที่ให้หมาเข้าไปได้ ก็กลัวหมาอื่น หลบหมาตลอด ไม่เล่น ให้อุ้ม ร้อง ไม่ยอมเดิน ถ้าให้ลงเดินก็ฝืน จูงก็ไม่เดิน จะนั่งเลย ยังไงก็จะกลับบ้านอะไรประมาณนี้
แน็ต : คือเท่าที่ฟังพี่มองว่าหมาเราขี้กลัว เขาดูเหมือนเขาน่าจะไม่โอเคที่จะมีคนไปแตะตัวเขา เป็นไปได้ไหมที่ช่วงแรกๆที่ได้มา เราเล่นกับเขาเยอะเกินไปไหม
โย : อ้อ เป็นไปได้ค่ะ ก็มีช่วงหนึ่งเล่น อาจจะเป็นไปได้
แน็ต : แล้วเคยมีช่วงแรกๆที่มามีแบบพยายามจะแตะตัวเขาแล้วเขาหลบไหม
โย : ไม่มีค่ะ
แน็ต : คือถ้าแตะตัวเขาเขาก็โอเค
โย : ใช่ เขาก็โอเค
แน็ต : เพราะมันฟังแล้วมันจะคล้ายๆเคสหมาที่แบบว่า พอเข้าบ้านใหม่ปุ๊บ แล้วทุกคนเหมือนรักหมาเกินไป แต่หมามันเป็นหมาที่แบบ เล่นได้แต่อย่าเยอะ แล้วคนไม่อ่านภาษากายหมา หมาอาจจะให้สัญญาณแล้วว่า เฮ้ย พอเหอะ อย่าเยอะเกินไป มันเหมือนมนุษย์น่ะ มนุษย์บางคนก็ชอบที่จะให้มีคนมาคุยด้วย แต่บางคนก็เหมือนว่าปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวบ้างก็ได้นะ อะไรประมาณนี้ พี่มองว่าหมามันก้มีแบบนี้เหมือนกัน มันอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นแบบนั้น มีไหมที่ว่ามันอยากจะเล่นแล้วมันเดินมาหาเราเอง โดยที่ไม่ได้ไปหาแม่นะ
โย : มีค่ะ ก็จะคาบตุ๊กตามา ตอนเช้าก็มีกิจกรรมแบบว่า ถ้าเกิดถูกบ้าน คือพ่อถูกบ้านก็จะรู้กัน ก็จะไปเอาตุ๊กตามาให้วิ่งโยนเล่น อันนี้คือชวนเล่น ก็จะเป็นเวลานะคะ คือถูบ้านตรงเวลา น้องก็จะเล่นตรงเวลา หมายความว่าจะชวนเล่นด้วยการไปคาบตุ๊กตามา ให้มาเล่นกันแย่งกัน อะไรประมาณนี้
แน็ต : แต่ถ้ามนุษย์อยากจะไปเป็นฝ่ายเล่นก่อนจะไม่ยอม
โย : ใช่ ถูกต้อง
แน็ต : เอาทีละเรื่องนะ เอาเรื่องแตะตัวก่อน พื้นฐานอาจจะเป็นไปได้ว่าเราอาจจะเล่นเยอะกับเขาเกินไป เป็นหมาต้องการช่องว่างเล็กน้อย แล้วคนอาจจะไม่เห็นว่าเขาเรียกร้องแบบนั้น เราก็ยังทู่ซี้ยังเล่นกันต่อไป จนสุดท้ายหมาบอก ไม่ไหวแล้วโว้ย ก็กัด พอกัดปุ๊บ เราให้ช่องว่าง หมาก็จะเรียนรู้ทันทีเลยว่า อ๋อ ต้องใช้ความรุนแรงเข้ามาถึงจะพูดคุยกับไอ้มนุษย์พวกนี้รู้เรื่อง
โย : อ๋อ โอเค
แน็ต : เป็นไปได้นะ เป็นไปได้ ไม่ได้บอกว่า 100%
โย : โอเค อาจจะต้องลองดูว่าแบบไหน
แน็ต : ทีนี้เนี่ย พี่มองว่าวิธีแก้ เนื่องจากเขายังต้องการความสนใจจากเราอยู่ เพราะฉะนั้นแนะนำว่า อาทิตย์ถึง 2 อาทิตย์ ไม่ต้องเล่นกับหมาเลย ทุกคนเลย คือเขาเป็นธาตุอากาศ ถ้าเขาเอาตุ๊กตามาไม่ต้องไปเล่น คือ ณ ตอนนี้หมากำลังบอกว่า อ้าว ได้เวลาเล่นแล้ว เล่นกับฉันเดี๋ยวนี้ ถ้าหมาบอกว่าเลิกเล่นเมื่อไรก็ต้องเลิกเล่น ถ้ามนุษย์ยังจะลเ่นต่อฉันจะกัดแล้วนะ ทีนี้เนี่ย พอมนุษย์อยากจะไปเล่นกับหมา หมาบอกใครบอกให้เล่น ฉันยังไม่ได้บอกให้เล่นกับฉันเลย มาเล่นทำไม กัด เพราะฉะนั้นเราก็ต้องสลับไพ่กันแล้ว คืออะไร อยากเล่นหรอ ไม่เล่น ก็ฉันไม่อยากเล่น ก็มนุษย์ไม่อยากเล่น แล้วจะทำไม ถูกไหม ทีนี้ถ้าคุณพ่อถูบ้านอยู่ หมาเอาตุ๊กตามาวางอะไรก็ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องยุ่งกับตุ๊กตาเลยนะ ถ้าจะเช็ดบ้านก็เช็ดรอบๆตุ๊กตาไปเลย ตุ๊กตาต้องไม่ขยับ เพราะถ้าไม้โดนตุ๊กตาเมื่อไร ตุ๊กตาขยับปุ๊บหมาจะคิดว่าเราเล่นกับเขาทันที
โย : โอเคค่ะ
แน็ต : ทีนี้เนี่ยไม่ต้องสบตา ไม่ต้องคุย ไม่ต้องอะไรเลย เหมือนเขาเป็นธาตุอากาศไปเลย แล้วก็ลอง ถ้าประมาณสัก 3-4 วันมันจะเริ่มงง ว่าเอ๊ะยังไง ทำไมมันมาแบบนี้วะ ทำไมทุกทีฉันชวนให้เล่นเขาเล่นกัน แต่ทำไมชวนแล้วไม่เล่น อะไรอย่างเงี้ย ลองดูพี่มองว่าถ้าประมาณซักอาทิตย์หนึ่งอ่ะ แล้วเราลองเรียกเขามาเล่นดู แบบว่า หมาชื่ออะไรไม่รู้นะ เรียกแบบมานี่เร็วๆ พอเขามาปุ๊บ แตะนิดเดียวไม่ต้องเยอะแยะอะไร แค่แบบเก่งมากๆ แล้วเราก็เดินไป คือตอนนี้เราต้องการบิ๊วด์ให้หมาอยากมาหาเรา ตั้งแต่วันที่รับเลี้ยงเขามาจนถึงตอนนี้มันเป็นเราอยากจะไปหาหมา เหมือนเราวิ่งไล่ตามผู้ชายแล้วผู้ชายเขาไม่เอาอ่ะ แต่เราต้องทำตัวสลับกันต้องทำตัวให้เราน่าสนใจ ต้องทำตัวเป็นคนที่ดึงดูดเขาให้มาหาเรา ทีนี้เราทำได้โดยการเพิกเฉย หนึ่งละ อย่างที่สองคือพอเขามาเราเล่นนิดเดียวให้เขาอยากเล่นกับเราอีก พอต่อมาเดี๋ยวทำแบบนี้ซ้ำๆสักประมาณอีกสัก 3-4 วัน จะเห็นว่าพฤติกรรมหมาจะเปลี่ยน คือพอเราเรียกมาปุ๊บเขาจะตื่นเต้นที่จะมาหาเราทันที แล้วเราค่อยๆเพิ่มระดับ เพิ่มระยะเวลาการเล่นกับเขามากขึ้นๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องหยุดการเล่นกับเขาก่อนที่เขาจะหยุดเรา
โย : ค่ะ โอเค
แน็ต : ทีนี้เนี่ย เราไม่รู้หรอกว่ามันเล่นได้ขนาดไหน ช่วงอาทิตย์ที่สองเนี่ย คืออาทิตย์แรกเราไม่ยุ่งกับหมาใช่ไหม พออาทิตย์ที่สองเราเรียกให้เขามาหาเราเท่านั้น ถ้าเขาเอาตุ๊กตามาให้เราเล่นเราก็ไม่เล่นนะ เราจะเล่นกับเขาก็ต่อเมื่อเราเรียกให้เขามา ถ้าเขาไม่มาเรื่องของเขา ทีนี้พอเขามาหาปุ๊บ เล่นแค่ประมาณ 5 วิเอง นิดๆหน่อยๆ บิ๊วด์ให้มันอยากจะมาอีกอ่ะ ทำอย่างนี้อีกสักประมาณ 1 อาทิตย์ พี่มองว่าจะเริ่มเห็นแล้วว่าพฤติกรรมหมาเปลี่ยน คือเขาจะเข้าหาเรามากขึ้น เราอย่าเข้าหาหมา ถ้าเขาอาทิตย์ที่สามเงี้ย พอเขาเอาตุ๊กตามา เราเล่นกับเขาได้ เล่นเสร็จเราเก็บตุ๊กตา เราหยุดเกมส์ก่อนที่หมาจะหยุดเกมส์กับเรา เพราะเราบิ๊วด์ขึ้นไปถึงพีคละ ถึงจุดสุดยอดของเขาละ แล้วเราเก็บปุ๊บแบบนี้ รอบหน้ามาเขาเห็นเรา เขาจะจำได้ว่ารอบที่แล้วนะที่เล่นด้วยกันนะ คนเนี้ยเล่นสนุกมากเลย เพราะเขาจะจำได้แต่ความรู้สึกสุดท้ายที่เขามี
โย : อืม โอเคค่ะ
แน็ต : แต่ถ้าเกิดสมมติเราพลาด เล่นกับหมามันส์ไปหน่อยว่ะ หมาเลิกก่อนเราเลิก รอบหน้าเรารู้แล้ว โอเค เมื่อวานนานเกินไป เราลดลงมาหน่อยหนึ่ง ทีนี้เนี่ยทุกคนในบ้านต้องให้ความร่วมมือตรงนี้ คือทุกคนต้องเพิกเฉยมัน ให้เขารู้ว่าเขาไม่มีอำนาจในบ้านนี้ คือตอนนี้เขามีอำนาจเต็มที่ในบ้านหลังนี้เลย เขาคุมได้ทุกคน เขาบอกได้เลยเมื่อไหร่เล่นเมื่อไหร่หยุด เมื่อไหร่แตะได้เมื่อไหร่ห้ามแตะ ลองแบบนี้ดูก่อน ส่วนเวลากินข้าวเนี่ย พี่แนะนำว่าให้กินกับมือ อย่าใส่ชามให้เขากิน ทีนี้เนี่ย เราก็ใช้วิธีที่ว่าเรามีอาหารในมือใช่ไหม แล้วเรียกให้เขามาหาเรา ฝึกคำสั่งเรียกมาไปด้วยก็ได้ แต่ว่าเรียกชื่อหมาแล้วก็มา พอเขามาหาเรา เก่งมาก อ่ะให้กิน หรือว่าเราจะโยนขนมโยนอาหารเขาออกไปก็ได้ แล้วเราเดินไปที่อื่น แล้วทีนี้เราก็เรียกชื่อหมา เรียกมา พอมาเสร็จ เก่งมาก ให้กิน แล้วเราก็ย้ายไปที่อื่น ทีนี้หมาจะเริ่มเรียนรู้แล้วว่า อ๋อ ต้องเข้ามาหาคนนี้นะ เพราะถ้าเราเข้ามาเราได้กิน
โย : ค่ะ
แน็ต : มือที่ยื่นเข้ามาใกล้ไม่ได้จำเป็นว่าจะไปแตะตลอดเวลา มือที่ยื่นเข้ามาใกล้นี่คืออาจจะเป็นอาหารก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลาเราให้อาหารหมาเราอย่าเอาอาหารยัดใส่ปากหมา มนุษย์ทุกคนทำ ลองกลับไปดูได้ ทุกคนทำหมด ไม่มีใครแบมือเฉยๆแล้วให้หมามันกิน ทุกคนจะพยายามยัดเยียดอาหารใส่ปากหมา หมาไม่ชอบ เพราะฉะนั้นถ้าสมมติเขาเข้ามาหาเราละ เขานั่ง เก่งมากเลย เราแบมือเฉยๆ ให้เขาเอื้อมมากินกับเรา เขาต้องเป็นฝ่ายยินยอมมาหาเรา ทีนี้มันก็จะเป็นการฝึกหมาไปในตัวด้วยว่าเรียกแล้วต้องมา อย่างที่สองคือมนุษย์เนี่ยดีนะ คุณมาหาเรา เราให้คุณกิน อย่างที่สาม มือคือสิ่งที่ดี มันมาแล้วเราไม่ได้จะแตะคุณตลอดเวลา ลองแบบนี้ดูก่อน
โย : โอเค
แน็ต : ส่วนเรื่องอยู่บนรถ คือในความคิดส่วนตัวพี่นะ พี่ว่าถ้าหมาขึ้นบนรถเนี่ย หมาควรจะอยู่ในท่าหมอบตลอดเวลา
โย : ท่าหมอบ ค่ะ
แน็ต : ใช่ หมาควรจะหมอบ หมาไม่ควรจะนั่ง หมาไม่ควรจะยืน และไม่ควรจะเดิน ควรจะหมอบไปเลย เพราะว่ามันเป็นท่าที่เขาอยู่ในท่าสงบ ซึ่งต้องสอนเพราะถ้าบอกให้หมอบอยู่บนรถคือไม่มีทาง
โย : ค่ะ แต่ว่าเวลาอยู่บนรถน่ะค่ะ เขาก็จะนั่งบนตัวเราอย่างนี้ แต่ว่าในท่านอนปกติ อันนี้ก็ไม่ถูกต้อง ควรไปนั่งในที่ๆไม่มีคนแล้วก็หมอบเฉยๆหรือเปล่า
แน็ต : คือนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขาเองแล้วหมอบมันก็ได้ ถ้านั่งอยู่บนตักแล้วหมอบก็ได้ ตราบใดที่เขาหมอบ พี่มองว่าถ้าเราขยับไปขยับมามันจะลุกตามไหม อะไรประมาณเนี้ย แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นคือใส่สายจูงเนาะ แล้วจับสายจูงสั้น แล้วกดมือไว้กับพื้นหรือกดมือไว้กับเก้าอี้ พอเขาพยายามจะลุกปุ๊บสายมันจะตึง เขาจะลุกไม่ได้ สัญชาตญาณหมาจะแบบ ค้างเอาไว้ เฮ้ย ให้นี่มันอะไรวะ ทำไมสายมันตึง นู่นนี่นั่น ยกคอก็ไม่ได้ ไปซ้ายไปขวาก็ไม่ได้ ลงได้ท่าเดียว พอลงปุ๊บสายหย่อน เก่งมาก ทำซ้ำๆๆ หมาจะเรียนรู้ว่า โอเคต้องหมอบ
โย : ค่ะ
แน็ต : ทีนี้เนี่ยพอมีสิ่งเร้าเข้ามา มอเตอร์ไซค์ผ่านมา คนมาเติมแก๊ส มาเติมปั๊มอะไร เฮ้ยต้องหมอบอย่างเลยเว้ย นั่งก็ห้าม ถ้าหมาเห่า ซึ่งมันจะเห่าแน่นอนเพราะมันทำเป็นนิสัยไปแล้ว มีคนสมมติมา เราไปเติมแก๊ส คนมาเติมน้ำมันให้เรา หมาเราเห่า เราต้องดุเขาทันที การดุไม่ใช่ทำเสียงอ่อน อย่านะ ไม่เห่า เงียบ ไม่ใช่ การดุคืออะไร ทำเสียงใหญ่หนักแน่น เฮ้ย หยุด ไม่ อะไรประมาณนี้ ถ้าใส่สายจูง กระตุกสายจูงก็ได้ หมาชิวาวาตัวมันไม่ใหญ่ กระตุกนิดเดียวมันก็รู้สึกแล้ว ทีนี้เนี่ยถ้าเขาหยุด แบบว่าพอกระตุกปุ๊บหรือเราทำเสียงดุเขาปุ๊บ แล้วเขาหยุดมองหน้าแบบ เกิดอะไรขึ้น เราก็ต้องชมทันทีเลย
โย : อ๋อ โอเค
แน็ต : มันเป็นเรื่องของเสี้ยววินาทีที่คุณจะดุหรือคุณจะชมหมา คืออะไร พอเขาเริ่มเห่าปุ๊บเราดุทันที พอเขาเงียบปุ๊บเราชมทันที ทีนี้เนี่ยช่วงแรกๆที่ทำพอเขาเงียบแล้วเราชม ประมาณ 2 วิมันจะกลับไปเห่าต่อ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ เราก็ดุเขา ต้องเอาให้อยู่ให้ได้ พอทำซ้ำๆๆ เดี๋ยวต่อไปหมาก็จะเรียนรู้แล้วว่า อ๋อ เห่าไม่ได้นะ ต้องเงียบ ประมาณนั้น
โย : โอเค ได้ค่ะ
แน็ต : เพราะว่าถ้าเขาอยู่ในรถแล้วเขานั่ง เขาเดินไปเดินมา สิ่งเร้ามันเยอะ คือพี่มองว่าหมาเราอ่ะมันไม่รู้จักควบคุมตัวเองอ่ะ
โย : นิดหนึ่ง
แน็ต : ใช่ เพราะคนไม่เคยสอนเขาไง เรามนุษย์เราค่อนข้างจะคาดหวังว่าหมาจะเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวมันเอง มันไม่ใช่ คุณจะบอกว่าเลี้ยงหมามาหลายตัวไม่เคยเจอตัวไหนแบบนี้เลย ก็ไม่ได้หมายความว่าชิวาวาเขาผิด เป็นไปได้ไหมว่าก็แค่คุณยังไม่เคยเจอหมาบุคลิกแบบเขาก็เท่านั้นเอง
โย : ค่ะ
แน็ต : หมามันออกมาแต่ละตัวบุคลิกไม่เหมือนกัน เหมือนเราพี่น้องอย่างนี้ โตมาด้วยกัน ก็นิสัยไม่เหมือนกัน หมาแต่ละตัวไม่เหมือนกัน แต่เราต้องจัดการเขาให้เหมือนกัน คืออะไร หนึ่งเราต้องมีความเป็นผู้นำ สองเราต้องให้ผลกระทบกับหมา ถ้าหมาทำผิดเรา เราต้องดุทันที เขาต้องรู้ทันทีว่าพฤติกรรมนี้มันไม่ดี ถ้ายังทำต่อมันจะยิ่งแย่เลยนะ เหมือนเวลาเราขับรถอย่างนี้ ถ้าเราไม่ใส่เซฟตี้เบลท์ ผลกระทบที่เราได้กลับมาตอนแรกคืออะไร เสียงมันจะดังเตือนติ๊ดๆ 20 วิถัดมาถ้ายังไม่ใส่อีก ไอ้เสียงติ๊ดเบาๆเนี่ยจะเริ่มติ๊ดหนักขึ้นละ มันเป็นผลกระทบที่แรงขึ้น ถ้ายังทู่ซี้ไม่ใส่แล้วโดนรถชนขึ้นมาเราก็ตาย มันคือผลกระทบที่ตามกันมา กับหมาก็เหมือนกัน ถ้าเราดุเขาแล้วเขายังไม่หยุด ลองเพิ่มความดุขึ้นอีกนิดนึง เพิ่มน้ำเสียงขึ้นมานิดนึง เพิ่มภาษากายเข้าไปอีกนิดนึงให้เขารู้ว่า เฮ้ยแกต้องเงียบนะเว้ย อย่างนี้ไม่โอเค อะไรเงี้ย พอเขาหยุด เขาทำดีปุ๊บ ชมให้หนัก คือผลกระทบดีที่เราให้เขา นั่นแหละเอาไปลองทำดู
โย : ค่ะ โอเค
แน็ต : ถ้าให้ดีช่วยถ่ายวีดีโอมาให้ดูหน่อยก็ดีนะ
โย : หมายถึงว่าให้ถ่ายตอนที่เริ่มไม่เล่นกับหมาใช่ไหมคะ
แน็ต : ก็หมดเลยก็ได้ ตอนไหนก็ได้ ทยอยส่งมาก็ได้ จะได้ช่วยดูให้อีกที
โย : เนี่ยอันนี้คือตำรวจเรียกละ เริ่มเห่าแล้ว
แน็ต : ถ้าตำรวจเรียกให้เห่าไปเถอะ ตำรวจจะได้ถอย คือเนี่ย พออย่างนี้เราก็ต้องบอกให้เขาหยุด เพราะมันไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าเราไม่ได้บอกให้คุณเห่าคุณต้องเงียบ ใช้สายจูงกระตุกก็ได้ ถ้าเขากลัวคุณแม่ให้คุณแม่ดุเลย
โย : ค่ะ ได้ค่ะ อยู่ในเหตุการณ์พอดีเด๊ะ
แน็ต : ใช่ ได้ยินเสียงอะไรเลยเนี่ย ยังไม่เห็นมีใครดุมันเลยเนี่ย
โย : ใช่ เมื่อกี๊ดุแล้ว แสน็กไม่เห่าลูก
แน็ต : ใครเขาดุหมาอย่างนั้น ดุหมาอย่างนั้นใครเขาจะไปเชื่อเนี่ย
โย : อันนี้คือดุแล้ว คือคำพูดคือ negative แต่ว่าก็ดูหมาไม่เข้าใจว่าดุ อาจจะด้วยความนุ่มนวลของน้ำเสียง
แน็ต : หมามันฟังภาษาเราไม่ออกนะ เพราะฉะนั้นคุณจะไปคาดหวังว่าก็เนี่ยใส่คำพูดที่ติดลบไปแล้ว แต่น้ำเสียงใช้เป็นน้ำเสียงที่นุ่มนวลอยู่
โย : ใช่ๆ
แน็ต : อย่าลืมว่าเวลาเราชมหมาอ่ะ เราก็ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลชมหมา เพราะฉะนั้นหมามันก็จะคิดว่าสิ่งที่มันทำอยู่ตอนนี้มันดีนะ เพราะน้ำเสียงเดียวกันเลย
โย : ค่ะๆ โอเค ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ
แน็ต : ขอบคุณค่ะ